เปรียบเทียบ Vivo Y52 5G vs Vivo Y72 5G ราคาต่างกันสองพันบาท
ต้องบอกว่าช่วงกลางปีนี้ ทาง Vivo ได้จัดหนักสมาร์ทโฟนมัดใจกลุ่มราคาประหยัดไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาทเลยทีเดียว เพราะทั้งสองรุ่นคือ Vivo Y52 5G และ Vivo Y72 5G ต่างรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงง่ายขึ้น ดังนั้นหากใครอยากจับจองแต่ไม่รู้ว่ามีจุดเด่นและสเปกแตกต่างอย่างไรในราคาต่างกัน 2,000 บาท บทความนี้จะขอแถลงไขให้ทุกคนได้ทราบกัน
เริ่มกันที่จุดเด่นของสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น
ภาคต่อของสมาร์ทโฟน 5G รุ่นที่สอง หลังจากเปิดตัวรุ่นพี่ไปแล้วกับ
โดยรุ่นต่อ คือ
เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับจุดเด่นมีหน้าจอแสดงผล 6.58 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ ขอบจอมีความบางทำให้สนุกในการรับชมคอนเทนต์ หรือเล่นเกม เพื่อรู้สึกว่าหน้าจอใหญ่ ตอบโจทย์อรรถรสความบันเทิงเต็มรูปแบบ ส่วนลำโพงมีแค่ตัวเดียว แต่มีฟีเจอร์ Speaker Boost 3.0 ที่พัฒนาเฉพาะขับเสียงให้มีมิติมากยิ่งขึ้น นุ่ม กับเบสหนักกว่าเดิม ด้านปุ่มโฮมมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กับแบตเตอรี่มีความจุ 5000mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18 วัตต์
สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Y Series ที่สามารถรองรับเครือข่าย 5G ได้ ตามสโลแกนของรุ่นที่กล่าวไว้ว่า
“5G เข้าถึงทุกที่ ทุกเวลา” มาพร้อมหน้าจอดีไซน์รอยเจาะแบบ Halo Fullview Display กว้าง 6.58 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ กล้องหลัง 4 เลนส์ ความชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รองรับ selfie night mode ถ่ายเซลฟี่ยามค่ำคืนได้อย่างสวยงามสว่างชัด อัดแบตเตอรี่มาให้กับความจุ 5000mAh ทั้งรองรับไลฟ์สตรีมมิ่งบนเครือข่ายสัญญาณ 5G ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 รุ่นใหม่ ที่จะทำให้การเล่นเกมแบบเรียลไทม์ไหลลื่นยิ่งขึ้น พร้อมเติมเต็มอรรถรสให้กับเหล่าเกมเมอร์แบบเต็มขั้น ด้วย Ultra-Game Mode ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมแบบ 4D ที่สมจริง พร้อมโหมด E-sports ป้องกันการแจ้งเตือนข้อมูลทั้งหมดระหว่างการเล่นเกม ปรับอัตราเฟรมเรตแบบเรียลไทม์เพิ่มประสิทธิภาพเกม ให้คุณสนุกกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มอารมณ์
ด้านกล้องดิจิตอลก็มีความแตกต่างด้วยเช่นกัน รายละเอียดดังนี้
- กล้องหลัก :
ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 ออโต้โฟกัส
- กล้องสอง : เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องสาม :
เลนส์
Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
- กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
- กล้องหลัก :
ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 ออโต้โฟกัส
- กล้องสอง : เลนส์ Super Wide Angle มุมมอง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้องสาม :
เลนส์
Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหลังรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
- กล้องหน้า : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด FullHD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
เปรียบเทียบสเปคระหว่าง Vivo Y52 5G กับ Vivo Y72 5G
Vivo Y52 5GVivo Y72 5GระบบปฏิบัติการFuntouch OS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11Funtouch OS 11.1 บนพื้นฐาน Android 11หน้าจอIPS ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2408 x 1080 พิกเซลIPS ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2408 x 1080 พิกเซลหน่วยประมวลผลMediaTek Dimensity 700 5GMediaTek Dimensity 700 5GGPUMali-G57 MC2Mali-G57 MC2RAM4GB8GBพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน128GB128GBMicroSD Cardรองรับรองรับระบบเชื่อมต่อ4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, GPS, Glonass, USB OTG4G, WiFi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, GPS, Glonass, USB OTGพอร์ตเชื่อมต่อUSB Type-CUSB Type-Cช่องเสียบหูฟังรองรับรองรับแบตเตอรี่5000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์5000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18 วัตต์
สรุปข้อแตกต่างสำคัญของทั้งสองรุ่น
สำหรับทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นที่เหมือนกัน ข้อแตกต่างสำคัญเลยมีแต่แง่ของสเปคคือ RAM กับความละเอียดกล้องหลังและลักษณะเลนส์ รวมถึงความละเอียดเลนส์เซลฟี่ เพียงเท่านั้น
ราคาวางจำหน่ายของทั้งสองรุ่น
Vivo Y72 5G จะมีมาให้เลือก 2 สี คือ Graphite Black และ Dream Glow วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท ส่วนรุ่นน้อง Vivo Y52 5G มีสองเฉดสีให้เลือกเช่นกัน ได้แก่ Polar Blue และ Graphite Black วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท