โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

คดี 'ค้ากาม' เด็กสาวกระฉ่อนโลก! ตัวการคือเศรษฐีและผู้ทรงอิทธิพลระดับโลก - พุธนี้คดีสยอง

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 10 ก.พ. 2564 เวลา 02.24 น. • หลานสาวน้าป๋อง

ชื่อของ "เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน" อาจเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของมหาเศรษฐีชาวอเมริกันหลักพันล้าน เป็นนักการเงินและนักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จ หรือในฐานะของผู้ทรงอิทธิพลที่แวดล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงระดับผู้นำประเทศ รวมไปถึงดาราเซเลบริตี้เบอร์ใหญ่ ๆ แต่ข่าวช็อกโลกก็เกิดขึ้นในปี 2008 เมื่อศาลในรัฐฟลอริดาตัดสินจำคุกเอ็พสตีนในข้อหาล่วงกันและบังคับขู่เข็ญเด็กสาวที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีให้มีเพศสัมพันธ์กับตน และที่รุนแรงไปกว่านั้นคือเขาถูกเปิดโปงว่าเป็นต้นสายของเครือข่ายค้าประเวณีเด็กสาวที่ตำรวจกำลังสืบสาวกันอยู่ด้วย โลกจึงได้รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังในมุมมืดของมหาเศรษฐีคนนี้ ในฐานะชายผู้มีรสนิยมทางเพศสุดวิตถารและนักค้ากามข้ามชาติ 

ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับคดีสะเทือนโลกของ "เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน" กัน

<i>เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน</i>
เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน

ความรวยที่สร้างขึ้นเอง

หากเล่าย้อนไปถึงประวัติของเจฟฟรีย์แล้ว เขาเกิดในครอบครัวชาวยิวที่มีฐานะธรรมดา แม่ทำงานในโรงเรียน เป็นผู้ช่วยในการเรียนสำหรับเด็ก ๆ พิเศษ ส่วนพ่อเป็นคนสวน แต่เจฟฟรีย์เชื่อว่าชะตาของเขาไม่ได้ถูกลิขิตโดยพื้นฐานครอบครัว เขาพยายามถีบตัวเองเรียนด้าน Mathematical Science (วิทยาศาสตร์แห่งคณิตศาสตร์) และดันตัวเองสู่อาชีพสายการเงิน

ถึงแม้เจฟฟรีย์จะเรียนไม่จบ และไม่มีวุฒิการศึกษาที่ทำให้เขาสามารถเติบโตในสายงานนี้อย่างสบาย เขาก็แก้ปัญหาโดยการปลอมแปลงเอกสารบางอย่างและเข้าหาผู้มีอำนาจโดยใช้เสน่ห์และความเฉลียวฉลาดของเขาเป็นตัวล่อ ลูกค้าของเขามีตั้งแต่เจ้าของบริษัทการเงิน ดารานักแสดง ไปจนถึงเศรษฐีชาวซาอุฯ ที่ค้าอาวุธระหว่างประเทศ หรือแม้กระทั่ง เลสลีย์ เว็กซ์เนอร์ เจ้าของแบรนด์ชุดชั้นในสตรี Victoria's Secret ความสำเร็จของเจฟฟรีย์ทำให้เขาก่อตั้งบริษัทของตัวเองได้ รู้จักกับคนรวยและผู้ทรงอิทธิพลจำนวนมาก และทำให้ค่าตัวของเขาพุ่งสูงขึ้นไปแตะหลักพันล้านในวัย 30 ปลาย ๆ เท่านั้น ถึงแม้จะต้องแลกด้วยการฉ้อโกงในหลาย ๆ เคส แต่เจฟฟรีย์ก็ดิ้นหลุดจากความผิดไปได้อย่างสบาย ๆ ทุกครั้ง

การเปิดโปงคดีครั้งแรก 

ในเดือนมีนาคม 2005 ตำรวจเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา รับแจ้งความจากหญิงคนหนึ่งว่าลูกสาววัย 14 ปีของเธอถูกหลอกไปยังคฤหาสน์ของ เจฟฟรี เอ็พสตีน โดยสาวรุ่นพี่ เธอได้รับเงิน 300 ดออลาร์ (ประมาณ 8,900 บาท) จากเขา แลกกับการให้บริการนวดแบบเปลือยกาย โชคดีสองอย่างคือ หนึ่ง เด็กหญิงคนนั้นหนีออกจากคฤหาสน์ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของเจฟฟรีย์ก่อนได้ และ สอง การแจ้งความในครั้งนี้ทำให้เรื่องคาวของเขาเริ่มโชยกลิ่นออกมา

การทำงานของตำรวจที่ปาล์มบีชเริ่มต้นขึ้นและพวกเขาใช้เวลามากถึง 13 เดือนในการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมแต่ก็ไม่ได้ทำให้คดีคืบหน้า เพราะมีคนข้างในที่น่าจะได้รับเงินจากเจฟฟรีย์และคอยขัดขวางการสืบสวน พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจาก FBI ในการทำคดี

<i>ส่วนหนึ่งของคฤหาสน์ในปาล์มบีชของเจฟฟรีย์</i>
ส่วนหนึ่งของคฤหาสน์ในปาล์มบีชของเจฟฟรีย์

"เหยื่อที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 14 ส่วนมาก อายุ 16"

จากการเข้าค้นคฤหาสน์หลังดังกล่าว ตำรวจพบกล้องตัวจิ๋วที่ถูกซ่อนเอาไว้ตามมุมต่าง ๆ ในบ้าน มีภาพโป๊ของเด็กสาวอยู่อีกมากมาย รวมไปถึงหนังสือที่เจฟฟรีย์สั่งซื้อจาก Amazon เกี่ยวกับการค้าแรงงานทางเพศด้วย 

ณ ตอนนั้นมีเด็กสาวทั้งหมด 5 คนที่เข้าให้การกับตำรวจ อายุน้อยที่สุดคือ 14 อายุเฉลี่ยคือ 16 และพยานหลักฐานอีกกว่า 17 ชีวิต ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าเหยื่อทุกคนจะถูกแนะนำมาที่คฤหาสน์โดยเด็กสาว ถูกล่อด้วยเงิน และเมื่อมาถึงเจฟฟรีย์จะให้เงินก้อนใหญ่กับพวกเธอเพื่อแลกกับการเปลื้องผ้าแล้วนวด พยานคนหนึ่งบอกว่าเขาทำแบบนี้ถึง 3 ครั้งต่อวัน และคนที่สมรู้ร่วมคิดในแผนการทั้งหมดก็คือ 'กีแลง แม็กซ์เวลล์' คนรู้ใจของเจฟฟรีย์

เงินและอำนาจ ให้อิสระและอภิสิทธิ์ขั้นสูงสุดกับเจฟฟรีย์

ถึงแม้จะมีหลักฐานมัดตัวอย่างแน่นหนา แต่ด้วยความรวยและอิทธิพลของเขา เจฟฟรีย์ได้รับการช่วยเหลือจากคนในกระบวนการยุติธรรมเสมอ หน่ึงในนั้นคือ 'อเล็กแซนเดอร์ อะคอสตา' เลขานุการกระทรวงแรงงานในรัฐบาลของทรัมป์ที่ช่วยให้เขาออกร่างสัญญา Non-Prosecution Agreement ทำให้เจฟฟรีย์ปลอดภัยจากการโดนฟ้องทุกกรณี และถึงแม้ในปี 2008 เขาจะถูกตัดสินให้รับโทษจำคุกนาน 18 เดือน เจฟฟรีย์ก็ได้รับการยกเว้น เปลี่ยนโทษจากการขังเรือนจำเป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของเขาแทน และได้รับ Work Release อนุโลมให้เขาเดินทางไปไหนมาไหนเพื่อทำงานได้วันละ 12 ชั่วโมง 6 วันต่ออาทิตย์

เขาได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่ 'รับโทษ' เพียงแค่ 13 เดือน ด้วยเหตุผลที่ว่าเจฟฟรีย์ไม่ใช่บุคคลอันตรายที่สร้างภัยต่อสังคมอีกต่อไป เงินและอำนาจซื้ออิสรภาพให้เขาได้จริง ๆ 

จำนวนเหยื่อที่ค่อย ๆ ปรากฏตัวเพิ่มขึ้น สู่การจองจำ เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน

ระหว่างปี 2008 ถึง 2019 ตำรวจได้รับแจ้งความจากผู้หญิงจำนวนมากที่บอกว่าเธอเคยตกเป็นเหยื่อของเจฟฟรีย์ เอ็พสตีน ทุกคนใช้นามแฝงว่า "เจน โด" ซึ่งข้อหาที่พวกเธอฟ้องร้องเหมือน ๆ กันก็คือคดีอาชญากรรมทางเพศที่เจฟฟรีย์เคยกระทำเอาไว้เมื่อครั้งที่หญิงสาวเหล่านี้ยังเป็นเด็กสาว บางคนบอกว่าเธอถูกหลอกให้ไปนวดที่บ้านเขา แต่ที่เป็นเรื่องใหม่และทำให้ตำรวจเริ่มทำงานสืบสาวคดีนี้อีกครั้งก็คือ "พวกเธอถูกขายไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วย"

ตำรวจค้นเจอภาพโป๊ของเด็กสาวจำนวนมากพร้อมใบประวัติคร่าว ๆ ของพวกเธอที่บ้านในแมนแฮตตันของเจฟฟรีย์ เหยื่อที่มาปรากฏตัวเพื่อฟ้องร้องยืนยันว่ามีรูปของพวกเธออยู่ในกรุนี้ และจากคำให้การทั้งหมดก็สรุปได้ว่าแหล่งรายได้ของเจฟฟรีย์มาจากการส่งเด็กพวกนี้ไป 'ทำงาน' ให้กับเพื่อน ๆ ผู้มีรสนิยมหลงใหลในความอ่อนเยาว์เหมือนกับเขา รายชื่อลูกค้าของเจฟฟรีย์มีตั้งแต่เพื่อนนักแสดง เศรษฐีในซาอุดิอารเบีย ฝรั่งเศส เม็กซิโก ไปจนถึง  บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีของอเมริกา และ เจ้าชายแอนดรูว์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ

เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน ถูกตัดสินจำคุกในข้อหาค้ามนุษย์และค้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีในวันที่ 8 กรกฎาคม 2019 เขาพยายามยื่นข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อแลกกับการประกันตัวแต่ศาลไม่ยอมรับข้อเสนอเหล่านั้น แต่ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือนในเรือนจำ เขาก็เลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่พบร่างไร้สติของเจฟฟรีย์กองอยู่บนพื้นห้องขัง เขาพยายามที่จะผูกคอตายและหมอก็ช่วยชีวิตเขาไว้ไม่ทัน..

ปิดตำนาน "เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน" ในวัย 66 ปี กับคดีความที่ยังคงดำเนินต่อไปหลังการเสียชีวิตของเขา..

อ้างอิง

เว็บไซต์ Town and Country

เว็บไซต์ The Insider

เว็บไซต์ The Sun

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0