โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

กินตามกติกา - วินทร์ เลียววาริณ

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 12 เม.ย. 2563 เวลา 17.05 น. • วินทร์ เลียววาริณ

 

ผมไม่กินเผ็ด เรื่องรสเผ็ดนี่จัดอยู่ในระดับอนุบาลจริง ๆ เวลาสั่งอาหารที่ใส่พริก จึงมักบอกร้านว่า “เผ็ดน้อยนะ”

ผลที่ได้รับก็ยังเผ็ด เพราะ ‘เผ็ดน้อย’ ของแม่ครัวเท่ากับเผ็ดมากของผม จึงสั่ง “เผ็ดน้อยมาก” อาการก็ยังเผ็ดมากอยู่ ต่อมาสั่ง “เผ็ดน้อยที่สุด” ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม เจอเข้าหลายที ก็ใช้คำสั่งแบบเจาะจง “ใส่พริกครึ่งเม็ด” หรือ “แยกพริก”

เวลาสั่งส้มตำ มักบอกว่า “ไม่ใส่พริก” เพราะร้านขายส้มตำร้อยทั้งร้อยไม่ล้างครกทุกครั้งที่ทำจานใหม่ จึงยังมีซากพริกจากครกเก่าติดมาด้วย เศษพริกแค่นั้นก็ทำให้เผ็ดพอแล้ว

เมื่อสั่งส้มตำไม่ใส่พริกอาจเห็นแม่ค้าเลิกคิ้วด้วยความฉงน และนึกในใจว่า “อย่างนี้ก็ไม่ใช่ส้มตำแล้ว” หรือ “กินอย่างนี้จะอร่อยยังไง” นี่คือนานาจิตตัง

มาตรฐานรสชาติแต่ละคนไม่ตรงกัน

…………..………….………….………….

โลกมีมาตรฐานสำหรับเรื่องนั้นเรื่องนี้เสมอ ไม่ทำตามนี้ถือว่า ‘ไม่ถูก’

เรามีภาพว่าแกงต้องเผ็ด ขนมต้องหวาน แต่ความเผ็ด ความหวานของแต่ละคนก็มีหลายระดับ ไม่เท่ากัน

เหล่านี้เป็นภาพฝังหัว

ของบางอย่างกินได้ บางอย่างไม่ควรกิน ยกตัวอย่างเช่น สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยง จึงไม่ควรกินอย่างที่คนจีนนิยม ฝรั่งส่วนใหญ่ไม่กินเครื่องใน เลือด เห็นคนบ้านเรากินตือฮวนเกี่ยมฉ่าย ก็อาจรู้สึกแปลก ๆ เช่นเดียวกับที่เห็นชาวบ้านกินแมลง ไข่มด ไข่เยี่ยวม้า ซุปเต่า ไปจนถึง ‘ตัวเดียวอันเดียว’

บางทีกติกาก็ถูกกำหนดมาจากความรู้สึก เช่น ตีนไก่ ตีนเป็ด รู้สึกว่าไม่สะอาดหรือไม่น่ากิน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เราจึงอาจรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเห็นคนพื้นเมืองออสเตรเลียกินจิงโจ้ คนอเมริกันกินงูหางกระดิ่ง คนญี่ปุ่นกินลูกตาปลาทูนาและปลาปักเป้าที่มีพิษ คนจีนกินปลาดาว คนเวียดนามกินหัวใจงูเห่า เขมรกินแมงมุมทอดกรอบ 

หลายชาติอาจคิดว่ามันพิกลเมื่อเห็นเรากินหูฉลามและรังนก ขณะเดียวกันชาวตะวันตกนิยมชมชอบเนยแข็ง คนไทยไม่น้อยกับกินไม่ลง

ผมเคยเห็นคนทางใต้กินข้าวสวยกับกาแฟ โดยราดกาแฟในชามข้าว กลายเป็นข้าวต้มกาแฟ กินอย่างเอร็ดอร่อย

ชาวต่างชาติอาจแปลกใจที่เห็นเรากินข้าวกับผลไม้ เช่น ทุเรียน แตงโม สับปะรด

อาหารแต่ละวัฒนธรรมต่างกัน คนที่ไม่เคยเจออาจอุทานว่า “กินอย่างนี้ก็ได้หรือ?”

อาหารที่แตกต่างทั่วโลกเป็นหลักฐานว่า กติกาเป็นเพียงสิ่งสมมุติ

ในบางกรณีกติกาก็มีเหตุผล ยกตัวอย่างเช่น ดื่มไวน์แดงคู่กับเนื้อ ไวน์ขาวคู่กับปลา ทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่ามันเป็นการพบกันขององค์ประกอบทางเคมีของไวน์ เนื้อ และปลา

ถ้าดื่มไวน์แดงคู่กับเนื้อสเต๊ก สารแทนนินในไวน์แดงจะละลายไขมัน และเนื่องจากรสที่ดีมาจากไขมัน ไวน์แดงจะทำให้อาหารอร่อยขึ้น ส่วนไวน์ขาวที่มีสภาพเป็นกรด ทำให้ช่วยลดกลิ่นคาวของปลา

อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีเหตุผล แต่มันไม่ใช่สิ่งที่สลักจารึกบนศิลา ถ้าพึงใจจะดื่มไวน์แดงคู่กับปลา ก็จะเป็นไรไป

ถ้าพึงใจ กฎเกณฑ์ที่กำหนดข้อแม้ของความสุขก็ไร้ความหมาย 

…………..………….………….………….

โลกมีกติกามากมายเกี่ยวกับการดื่มกิน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ดื่มไวน์ ต้องใช้แก้วไวน์ ดื่มเบียร์ ใช้แก้วเบียร์

เรายังมีกติกาว่า ของหายากหรือแพงต้องกินในโอกาสพิเศษจริงๆ สมัยผมเป็นเด็ก ได้ดื่มน้ำอัดลมเฉพาะในวันตรุษจีนเท่านั้น

เรานิยมกินหูฉลามในงานแต่งงาน กินเค้กในวันเกิด ดื่มแชมเปญเมื่อฉลองชัยชนะ ฯลฯ

ทว่าเหล่านี้เป็นเพียงค่านิยมและความเคยชิน ไม่ใช่กฎตายตัว

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เมื่อมีคนมารวมกันมาก ๆ ก็ต้องมีกติกาและกฎเกณฑ์ เพื่อให้สังคมสงบสุข แต่บางทีกฎเกณฑ์ก็ลามเข้ามาในวิถีชีวิตและรสนิยมของเรา

ทั้งชีวิตมีกฎและข้อห้ามมากมายเหลือเกิน แม้แต่งานศิลปะ ก็ยังมีกฎ เป็นกรอบที่ทำให้คนทำงานศิลปะ

สมัยที่ผมเริ่มเข้าสู่วงการหนังสือ งานวรรณกรรมส่วนใหญ่เดินตามขนบเดิม หมายถึงมีกติกาให้เดิน เรื่องสั้นต้องเป็นอย่างนี้ นวนิยายต้องเป็นอย่างนั้น

ยกตัวอย่างเช่น ขนบการเขียนเรื่องสั้นคือมีตัวละคร 2-3 คน ฉาก 1-2 ฉาก ความยาวไม่เกิน 3-4 หน้า

นี่เป็นคุณลักษณ์ของเรื่องสั้นที่ดีส่วนใหญ่ หลายคนจึงถือมันเป็นกฎกติกา จนมันกลายเป็นกรอบของความคิดสร้างสรรค์

โชคดีสมัยที่เริ่มงานเขียน ผมไม่รู้กฎเหล่านี้ จึงทำงานไปตามใจชอบ แหกกฎทุกข้อของการเขียน กลายเป็นงานทดลองแนวใหม่

ทุก ๆ กติกาในโลกเขียนโดยคน

ทุก ๆ อย่างที่เขียนโดยคนเปลี่ยนแปลงได้

ใช้ชีวิตตามที่พึงใจและเป็นอิสระ ไม่ต้องมีกติกามากมาย

………….………….………….………….………….

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/