โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รองอธิบดีกรมวิทย์ฯ แนะ "สมุนไพรไทย กินอย่างไร ให้ถูกต้องและเหมาะสม"

สวพ.FM91

อัพเดต 07 ส.ค. 2564 เวลา 21.45 น. • เผยแพร่ 07 ส.ค. 2564 เวลา 21.45 น.

(4 ส.ค.64)  นพ.พิเชฐ บัญญัติ  รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตรการแพทย์  เลขาธิการสมาคมเวชกรรมไทย อดีตนายกสภาการแพทย์แผนไทย  ได้โพสต์ข้อความ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า :  หลังข่าวที่ว่า โกฐจุฬาลัมพา ขาดตลาด หลังงานวิจัยจากอเมริกาเปิดเผยว่ายับยั้งไวรัสโควิด-19 ได้ในหลอดทดลอง…แค่ในหลอดทดลองเอง นะครับ
ทำเอายาหอมหลายชนิดเดือดร้อนลำบากลำบนในการหาตัวยามาปรุงยาหอมต่างๆ ที่มีโกฐจุฬาลัมพาผสมอยู่ เช่น ยาหอมเทพวิจิต ยาหอมอินทจักร ยาหอมนวโกฐ เป็นต้น
หมอยาแผนโบราณเคยบอกไว้ว่า โกฐ (เบญจโกฐ สัตตโกฐ นวโกฐ) ที่ดีมาจากเมืองจีน เทียน (เบญจเทียน สัตตเทียน นวเทียน) ที่ดีมาจากอินเดีย และเกสร (เบญจเกสร สัตตเกสร นวเกสร) ที่ดีอยู่เมืองไทย ยาหอมอินทจักรเป็นตำรับยาหอมที่รวมของดีไทย จีน อินเดีย เคยมีการวิจัยพบว่าเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่ด้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน
จากโหนกระแสช่วงเที่ยงครึ่งหลายวันก่อนกับคุณหนุ่ม กรรชัย เพื่อไปบอกว่า สมุนไพรถ้าใช้เป็นอาหารก็ต้องปรุงเป็นอาหาร ถ้าใช้เป็นยาก็ต้องใช้เป็นตำรับยา หลายคนที่ไม่ติดเชื้อแต่อาจป่วยด้วยสรรพสมุนไพรที่ใช้โดยไม่จำเป็นและไม่ถูกต้อง 
สมุนไพรไทยกำลังเป็น “พระเอกดาวรุ่ง” พุ่งแรง อย่าเพิ่งให้กลายเป็น “ผู้ร้าย” เลยครับ เสียดายของดี 
เมื่อจะใช้ ขอให้ใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา จะได้ไม่ไปโทษว่าสมุนไพรเป็นต้นเหตุ สมุนไพรกลายเป็นแพะรับบาป 
เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับขี้เหล็กแคปซูลเมื่อหลายปีก่อน มีคนกินติดต่อกันนานจนตัวเหลืองตาเหลือง ทำให้คนบางกลุ่มตำหนิว่า สมุนไพรไม่ดี ทั้งๆที่สมุนไพรล้วนเป็นของดี แต่คนที่ใช้เอาไปใช้ไม่ถูกต้อง
เห็นใครว่าสมุนไพรอะไรดี ก็เหมามากินรวมไปซะหมด อาจส่งผลเสียออกมา กินเยอะเปะปะ สารในสมุนไพรมันทะเลาะกันบ้าง ร่วมมือกันบ้าง (Herb drug interaction) อวัยวะภายในอาจเสียหายชำรุดกันได้
เตือนกันนะครับ ฟ้าทะลายโจร กินเมื่อทราบผลติดเชื้อแล้วตามขนาด ปริมาณและระยะเวลาที่กำหนด ไม่ควรกินร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ หรือกระชายหรือสมุนไพรอื่นๆที่แสลงต่อตับไต 
กระชายขาวถ้าจะกินควรปรุงแบบอาหารและไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 7 วัน แต่ควรกินเป็นอาหาร รสเผ็ดร้อนกระตุ้นธาตุไฟช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันทั่วไปได้
ตรีผลา (สมอพิเภก:สมอไทย:มะขามป้อม) ถ้าจะกินก็ต้องกินให้ถูกต้องและไม่ติดต่อกันเกิน 7 วันเช่นกันและคนปกติควรกินพิกัดตรีผลา (เสมอภาค) คือ ใช้สัดส่วนเท่ากัน (1:1:1) หรือปรับเล็กน้อยเพื่อรสชาติดีขึ้น (1:2:3) ปรุงแต่งรสชาติตามชอบ
ไม่ควรใช้แบบมหาพิกัดตรีผลาเพราะใช้สำหรับผู้ป่วยที่วินิจฉัยโดยแพทย์แผนไทยว่าร่างกายมีตรีโทษ (ปิตตะ วาตะ เสมหะ ผิดปกติ) เอามากินเอง ควรให้แพทย์แผนไทยสั่งใช้ตามความเหมาะสมกับสภาพร่างกาย งานวิจัยความเป็นพิษในหนูทดลองที่ทำโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่ามีปริมาณสารแทนนินสูง อาจกระทบตับไตได้ง่ายให้ใช้ตามแพทย์แผนไทยสั่ง คือ ตามสุมฏฐานของโรค และไม่ควรกินนานเกิน 5 วัน
พลูคาว (ผักคาวตอง) กินแกล้มกับลาบดีที่สุด เพราะได้สารสำคัญครบ งานวิจัยในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลองมีฤทธิ์หลายอย่าง เพราะมีสารหลายกลุ่ม ที่แยกแยะออกมาแล้วก็ 50-60 ชนิดสาร ช่วยต้านมะเร็ง ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เคยรวบรวมและศึกษาไว้ งานวิจัยส่วนใหญ่ใช้แบบต้มน้ำ
ถ้าไม่สะดวกการทำน้ำต้มใบพลูคาวก็ได้แต่กลิ่นคาวจะแรง ต้องปรุงรสแต่งกลิ่นเข้าไปเช่น น้ำมะนาว ใบเตย หรืออื่นๆเข้าไปช่วยด้วย ให้รสดี ไม่คาว กลมกล่อมขึ้น 
ใครที่คิดว่ากินเหมารวมแล้วดีทั้งกระชายขาว ฟ้าทะลายโจร จันทลีลา ตรีผลา ยาห้าราก เจตพังคี น้ำย่านาง ฯลฯ ถ้ามากขนาดนี้ตับทำงานหนักเกินครับ อาจจะรับไม่ไหวมีโอกาสเอนไซม์ตับขึ้นหรือตับอักเสบได้มากครับ…สติ สมาธิ ปัญญา ครับ
ฟ้าทะลายโจรกินรักษาโควิด-19 (ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส) ให้กินที่มีสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มก.ต่อวัน ไม่เกิน 5 วันและต้องไม่กินร่วมกับยาหรือสารสกัดสมุนไพรตัวอื่นๆ กินแล้วมีผลข้างเคียงควรหยุดแล้วปรึกษาแพทย์ แนะนำกินกับน้ำอุ่น น้ำผึ้งผสมมะนาว หรือน้ำต้มลูกผักชีลาเป็นกระสายยา จะช่วยตัดฤทธิ์เย็นลง
กระชายเหลือง (แต่ตอนนี้ชอบเรียกกันว่า กระชายขาว) ยังไม่มีวิจัยในคนว่าใช้รักษาการติดเชื้อโควิด-19 ได้ (แค่ยับยั้งเชื้อในหลอดทดลองเท่านั้น บอกความเป็นยายังไม่ได้) ถ้าจะกินควรกินแบบสุกในอาหารหรือเครื่องดื่ม ถ้าต้มดื่มควรเพิ่มสมุนไพรรสเย็นเติมไปด้วย เช่น ใบเตย น้ำตาลกรวด อัญชัน จะช่วยลดฤทธิ์ร้อนลงได้ ไม่กินติดกันเกิน 7 วัน
งานวิจัยทางพิษวิทยาที่มีของสมุนไพรหลายชนิดทำในหลอดทดลองหรือสัตว์ทดลอง ยังไม่ได้มีการวิจัยทางคลินิก การกินสมุนไพรเป็นยาจึงต้องมีความระมัดระวังในข้อบ่งชี้และข้อห้าม การใช้ร่วมกันหลายชนิด ยังไม่ค่อยมีผลศึกษาเรื่องปฏิสัมพันธ์ของสารในตัวยา (Herbal drug interaction)
ถ้าเอาพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นอาหารตามวิถีไทยอยู่แล้ว ไปปรุงอาหาร กินเป็น“กับข้าว” แบบปรุงกันในวิถีชีวิตไทยทั่วไป กินไปเถอะครับ ไม่ต้องกลัวอันตราย ร่างกายจะกินตามความจำเป็นได้เอง แต่ถ้ากินรูปแบบคล้ายยา หรือสารสกัด มักจะเผลอกินเกินได้ง่าย ยั้งใจไว้บ้าง เว้นช่วงห่าง หรือกินสลับกัน สมุนไพรไทยกระตุ้นภูมิคุ้มกันมีตั้งหลายอย่างให้เลือก
จะภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย หรือการแพทย์แผนปัจจุบัน อะไรที่มากเกินไป ก็ไม่ดีทั้งนั้น เพราะมัน “เสียสมดุล” คำว่า สุขภาพ คือ ดุลยภาพของร่างกาย จิตใจ สังคม จิตวิญญาณ หรือ ความสมดุลของธาตุ ตรีธาตุและเบญจขันธ์
ยังมีสมุนไพรหลายชนิดที่มีผลต่อเชื้อโควิด-19 ในหลอดทดลอง นี่ขนาดแยกเป็นชนิดๆเดี่ยวนะ
หญ้านาง หรือย่านาง ในหลอดทดลองก็ยับยั้งเชื้อโควิด-19 ได้เช่นกัน และเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งใน 5 ชนิดของยาตำรับห้ารากหรือเบญจโลกวิเชียร (แก้วห้าดวง) 
ส่วนสารสกัดช่อดอกกัญชาอาจฆ่าไวรัสโควิด-19 ไม่ได้โดยตรง แต่ใจก็ยังเชื่อว่าระบบสารสกัดกัญชาภายในร่างกาย (Endocannabinoid system) ก็น่าจะช่วยให้คนไข้ทุเลาหรือหายได้จากการกระตุ้นภูมิคุ้มกันเนื่องจากรสเมาเบื่อร้อนช่วยกระตุ้นทำให้เลือดลมเดินสะดวก 
แต่ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยจะไม่ใช้ตัวเดียว จัดเป็นสมุนไพรชุด เรียกว่า ตำรับยา ไม่ว่าไวรัสจะกลายพันธุ์มาไม้ไหน ยาตำรับไทยก็น่าจะรับมือไหวอยู่ แต่เสียดาย ยังไม่มีใครเอาไปวิจัยจริงๆจังๆ อย่ามัวเพลินกับสมุนไพรตัวเดียวอยู่เลยครับ ของดียังมีอีกเยอะ
ยาตำรับ สมุนไพรรวมหมู่ น่าจะเอาไวรัสอยู่หมัดได้ ลองคิดดูสิครับ ตัวที่วิจัยในหลอดทดลองแล้วว่ากำจัดไวรัสโควิด-19 ได้ อย่างเช่น กระชายขาวก็อยู่ในตำรับตรีกาฬพิษ ย่านางก็อยู่ในตำรับยาห้าราก ขิงก็อยู่ในตำรับตรีกฏุกและเบญจกูล โกฐจุฬาลัมพาก็อยู่ในยาหอมหลายชนิด (ยาหอมเทพจิตร ยาหอมอินทจักร ยาหอมนวโกฐ)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...