'เอกภพ' หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า 'จักรวาล' นับเป็นศูนย์รวบรวมของทุกสรรพสิ่ง ที่ทำให้เหล่านักดาราศาสตร์พยายามศึกษา ถึงแม้ปัจจุบันจะทราบว่ากาแล็กซีไม่ได้กระจายตัวกันในเอกภพ หากแต่อยู่รวมกลุ่มกัน ด้วยความยิ่งใหญ่ไพศาลจึงเป็นสิ่งท้าทายเพื่อหาคำตอบว่าใน 'เอกภพ' ยังคงมีปริศนาซ่อนอยู่
'โลก' อีกหนึ่งดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่มีปริศนาต้องค้นหาคำตอบมากมาย อยากที่เห็นได้ชัดกับสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ที่ยังไม่สามารถหาคำตอบชัดเจนได้ว่าใครเป็นผู้สร้าง อย่างรูปปั้นโมไอ ที่กระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์หรือมหาพีระมิดในประเทศอียิปต์ ที่ต่างพยายามหาคำตอบและทฤษฎีความเป็นไปได้ในการก่อสร้างของยุคสมัยนั้น
เสาร์นี้ในอดีต : สัปดาห์นี้ LINE TODAY จะพาทุกคนไปยังดาวเคราะห์หนึ่งในระบบสุริยะอย่าง 'ดาวอังคาร' ที่มักถูกค้นพบสิ่งต่าง ๆ มากมาย จนกลายเป็นประเด็นโต้แย้งถึงความเป็นไปได้และความหวังใหม่ของมนุษยชาติ
ครั้งเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 องค์การนาซาเผยแพร่ภาพพื้นผิวบนดาวอังคาร ที่บันทึกโดยยานไวกิง 1 หลังออกจากโลกวันที่ 20 สิงหาคม ปี พ.ศ.2518 และถึงดาวอังคาร 19 มิถุนายน พ.ศ.2519 แต่ไม่สามารถลงจอดได้เนื่องด้วยองศาไม่เหมาะสม ยานจึงต้องโคจรต่อไปอีก 3 สัปดาห์ จนสามารถลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารอย่างปลอดภัยในวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2519 พร้อมส่งภาพชวนสงสัยนั้นคือ 'ใบหน้าบนดาวอังคาร'
เมื่อภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสวิพากวิจารณ์เป็นอย่างมาก ต่างวิเคราะห์ว่าอาจเป็นฝีมือของมนุษย์ดาวอังคารที่พยายามสื่อสารกับนักบินอวกาศว่าที่แห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตอยู่ เนื่องด้วยภาพที่ถูกถ่ายนั้นมีลักษณะคล้ายใบหน้ามนุษย์ทั้ง ตา จมูก และ ปาก จนบางคนเชื่อว่าดาวอังคารมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
แต่ทว่าวันเวลาล่วงเลยเทคโนโลยีได้ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นและสามารถคลายปมความสงสัยถึงภาพใบหน้าบนดาวอังคาร เมื่อนาซาได้ส่งยานอวกาสที่ชื่อ มาร์สรีคอนเนสเซนซ์ออร์บิเตอร์ หรือเอ็มอาร์โอ (MRO) เพื่อสำรวจดาวอังคารอย่างละเอียดในช่วง 10 มีนาคม พ.ศ. 2549 และได้เก็บภาพที่ตำแหน่งเดิมที่ยานไวกิง 1 ได้จับภาพใน พ.ศ. 2519 แต่ครั้งนี้ใช้กล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงไฮไรส์และเข้าใกล้วัตถุ 300 กิโลเมตร พบว่าเป็นเพียงภูเขาก้อนหินธรรมดา แต่ที่มีลักษณ์ละม้ายคล้ายคลึงกับใบหน้าคน เกิดจากการตกกระทบของแสงเพียงเท่านั้น
นอกจากภาพใบหน้าบนดาวอังคารแล้ว เราก็มักจะได้ยินเรื่องราวของนาซ่ากับการค้นพบที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญให้ความสนใจกับชุดภาพปริศนา 'ผู้หญิงสวมชุดดำบนดาวอังคาร' ถ่ายจากยานสำรวจ คิวเรียสซิตี้ (Curiosity) ในช่วงปี 2015 ชวนสงสัยคืออะไรกันแน่ เนื่องจากมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับมีผู้หญิงสวมชุดดำ ยืนอยู่บนพื้นผิวของดาวอังคาร
'เรื่องจริงหรือจินตนาการ'
เชื่อว่าภาพถ่ายที่นาซ่านำมาเผยแพร่ถึงการค้นพบสิ่งต่างๆ ในบางครั้งกลับกลายเป็นข้อกังขาจนพาไปสู่การถกเถียง อีกทั้งยังมีคนบางกลุ่มเชื่อว่าเป็นสิ่งลวงโลก และอย่างที่เผยในข้างต้นกับประเด็น 'ใบหน้าบนดาวอังคาร' ที่ได้ถูกไขปริศนาว่าไม่ได้เป็นสัญลักษณ์อารยธรรม แต่ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าแพริโดเลีย (Pareidolia)
แพริโดเลีย หรือ แพไรโดเลีย (Pareidolia) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นในจิตใจและส่งผลต่อไปยังสมอง ทำให้เราเกิดจินตนาการต่อวัตถุที่ไม่มีชีวิต กลายเป็นรูปแบบที่เราคุ้นตา ถ้าเกิดคุณมองดวงจันทร์แล้วเห็นกระต่าย เห็นก้อนเมฆเป็นรูปพญานาค เห็นเปลวเพลิงเป็นรูปคน ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากการจินตนาการที่มนุษย์มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดและไม่อันตราย
"ดังนั้นหากเราพบปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตและยิ่งเป็นสิ่งที่เรานับถือ จึงขอให้คิดคำนึงไว้ว่าเป็นเพียงจินตนาการที่ถูกสร้างขึ้นจากตัวเราเอง ไม่ได้เป็นปาฏิหาริย์จากสิ่งที่มองไม่เห็น"
อ้างอิง
ความเห็น 33
Booranin
BEST
หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า มโน นั่นเอง
31 ก.ค. 2564 เวลา 00.16 น.
@PiKoPiKoh@
BEST
นี่แหละวิทยาศาสตร์ เจ๋งจริง ไม่งมงาย
31 ก.ค. 2564 เวลา 05.03 น.
George
เรื่องนี้ต่อให้เป็นของจริง นาซ่าก็ปฏิเสธเหมือนทุกเหตุการณ์ อย่าง UFO ตกที่รอสเวลท์ พลเมืองเห็นมากมาย ก็บอกว่าเป็นบอลลูนตก แต่กลับปิดพื้นที่กั้้นไม่ให้ใครเข้าจุดนั้น มีทหารพร้อมอาวุธส่งขบวนรถบรรทุกสามคันเข้าไปขนของ มีนักวิทยาศาสตร์แห่ไปทำไมถ้าเป็นแค่บอลลูน
30 ก.ค. 2564 เวลา 17.17 น.
iamOat.
งั้นกระต่ายบนดวงจันทร์ไม่มีจริงๆ เหรอครับ????
31 ก.ค. 2564 เวลา 05.09 น.
Damm Panichkul
หน้าคล้าย โจไบเดนหรือเอลวิสผสมไมเคิล แจ็คสัน.🤣🤣🤣🤣🤣
31 ก.ค. 2564 เวลา 04.04 น.
ดูทั้งหมด