เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. สั่งการให้ตำรวจ บช.สอท.ตรวจสอบที่มาของคลิปเหตุการณ์แก๊งทวงหนี้ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่จับลูกน้องกระทืบ และใช้สายยางตีลูกน้องหลายครั้ง ท่ามกลางพนักงานอีกหลายคนที่นั่งดูเหตุการณ์ จนถูกแชร์โลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย พร้อมให้การช่วยเหลือผู้เสียหายและอำนวยตามขั้นตอนตามกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่าเป็นการท้าทายกฎหมายบ้านเมือง สร้างความสะเทือนใจผู้ใช้อินเตอร์เน็ตและสร้างความอับอายให้แก่ผู้เสียหาย
พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้สั่งให้ตรวจสอบจนพบว่า ภาพทำร้ายร่างกายนี้เป็นของ บริษัท ที.เอ็ม.เอ็น.กรุ๊ป จำกัด 2018 ที่ประกาศรับสมัครพนักงานเก็บเงินตามเอกสารเรียกเก็บของบริษัท /ติดตามทวงถามยอดค้างชำระของลูกค้า ในลักษณะธุรกิจปล่อยเงินกู้ จึงสืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งทราบว่า ผู้เสียหายอาศัยอยู่ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ให้ชุดสืบสวนไปรับตัวมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง จนทราบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือน ม.ค.63 ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองสมุทรสาคร สาเหตุเกิดจากผู้เสียหายขัดคำสั่งเจ้าของบริษัท พร้อมจะพาผู้เสียหาย เข้าแจ้งความกับ สภ.เมืองสมุทรสาคร ในข้อหาความผิดฐานทำร้ายร่างกาย พร้อมดำเนินการคุ้มครองพยานและสืบสวนขยายผลมูลฐานความผิดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้จะให้ตำรวจพื้นที่เข้าตรวจสอบสำนักงานของบริษัททั้ง 2 แห่ง ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง เพื่อติดตามตัวเจ้าของและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเนื่องจากการประกอบธุรกิจอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน
ขณะที่ นายต่อ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ชายที่ปรากฏในคลิป ให้การว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อเดือน ม.ค.63 ที่ผ่านมา เพราะตนเองไม่สามารถทวงเงินลูกค้าตามกำหนดได้ จึงลักลอบตกแต่งบัญชีด้วยการนำเงินบางส่วนของลูกค้าอีกรายมาใส่ในบัญชีของลูกค้าที่ทวงเงินไม่ได้ ต่อมาถูกบริษัทจับได้จนเกิดเหตุการณ์ตามคลิป โดยก่อนเกิดหตุ เมื่อเดือน ต.ค.62 ตนเห็นประกาศสมัครงานในเฟซบุ๊ก จึงสมัครไป ก่อนเดินทางจาก จ.นครสวรรค์บ้านเกิดเข้ามาทำงาน และพักที่บริษัทจัดให้ที่ จ.สมุทรสาครทันที ทั้งนี้นอกจากจุดที่ตนเองทำงานแล้ว บริษัทนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ด้วย ยอมรับรู้ตั้งเเต่เเรกเข้าว่า บริษัทนี้ปล่อยเงินกู้ด้วยการแจกนามบัตรตามสถานที่ต่างๆ เเละตนจะต้องทำหน้าที่ตามทวงดอกเบี้ยจากลูกค้า แต่ที่ทำ เพราะเงินเดือนรวมค่าคอมมิชชั่นสูง เฉลี่ยเดือนละ 3-4 หมื่นบาท เป็นสิ่งจูงใจ
นายต่อ ให้การต่อว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ทำงานเห็นคลิปพนักงานที่ถูกลงโทษอย่างรุนแรงด้วยการทำร้ายร่างกายเพราะขัดคำสั่งหรือยักยอกเงินบริษัท 5-6 คลิป แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ที่ไทรน้อย และไม่เคยคิดว่า ตนเองจะถูกทำโทษในลักษณะดังกล่าวด้วย ส่วนตัวไม่โกรธเพื่อนพนักงานที่นั่งดูเหตุการณ์ เพราะหากเป็นตนเองก็คงไม่กล้าเข้าไปช่วยเช่นเดียวกัน ภายหลังเกิดเหตุ ตนนอนซมอาการสาหัส เพราะร่างกายบอบช้ำถึง 3 วัน ไม่กล้าไปแจ้งความและไม่กล้าบอกใคร ก่อนรีบทำงานให้ครบเดือน เมื่อได้เงินเดือนก็รีบลาออกและหนีไปอยู่บ้านภรรยาที่ จ.เชียงใหม่ ทันที หากย้อนเวลากลับไปได้ ต่อให้มีเงินเดือน 2-3 แสนบาท ก็คงไม่ทำงานดังกล่าวอีกแล้ว.
ความเห็น 0