โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

อาหารไทยสู้ศึกตลาดโลก “จีน” ดัมพ์ราคา 40% ชิงแชร์

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 18 ส.ค. 2567 เวลา 02.36 น. • เผยแพร่ 18 ส.ค. 2567 เวลา 01.10 น.

แม้ว่าภาพรวมการค้าอาหารโลก 6 เดือนแรก ปี 2567 หดตัวลง 4.0% โดยมีมูลค่าการค้า 9.33 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่การส่งออกสินค้าอาหารของไทยแรงไม่แผ่ว มีมูลค่า 852,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9%

สถาบันอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ลุ้นครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่อง 7.8% มีมูลค่า 797,568 ล้านบาท ส่งผลให้ส่งออกทั้งปี 2567 จะแตะ 1.65 ล้านล้านบาท ขยายตัว 8.8%

สถานะไทยบนเวทีโลก

ซึ่งเมื่อเทียบย้อนหลังไปจะพบว่าการส่งออกอาหารของไทยเติบโตต่อเนื่อง นับจากปี 2560 ไทยส่งออกอาหารมูลค่า 1.09 ล้านล้านบาท กระทั่งถึงปี 2566 ก้าวกระโดดเป็น 1.46 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 แสนล้านในช่วง 6 ปี

ล่าสุดในครึ่งปีแรกของปีนี้ ไทยสามารถขยับอันดับเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหาร อันดับ 12 จากเดิมที่เคยอยู่ในอันดับที่ 14 ส่งออกในรูปดอลลาร์เพิ่ม 5.1% มูลค่า 23,818 ล้านเหรียญสหรัฐ ครองส่วนแบ่งตลาด 2.55% ของตลาดโลก ในขณะที่ประเทศ 9 อันดับแรกของโลก มีอันดับโลกไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี จีน ฝรั่งเศส สเปน แคนาดา และอิตาลี (ตามตาราง)

ตลาดส่งออกอาหารโลกแข่งเดือด

ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ผลิตอาหารจากจีนเป็นผู้ส่งออกเบอร์ 5 ของโลก มีส่วนแบ่งในการตลาดเพิ่มขึ้น 4.43% ในช่วงครึ่งปีแรกจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น 0.9% มูลค่า 41,330 ล้านเหรียญสหรัฐ

“จากปัญหาเศรษฐกิจของจีนส่งผลให้ผู้ประกอบการจีนที่ผลิตสินค้าที่เหมือนและใกล้เคียงกับไทย ได้ส่งสินค้าอาหารออกไปทำตลาด แข่งขันราคากับไทยโดยมีราคาต่ำกว่าไทย 30-40% ถึงแม้ว่าผู้นำเข้าจะมั่นใจในคุณภาพอาหารและจุดแข็งในเรื่องของการส่งมอบอาหารตรงเวลา แต่ต้องยอมรับว่าในปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้นำเข้าหลายรายก็หันไปสั่งซื้อสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น”

ขณะที่เวียดนาม คู่แข่งเดียวในอาเซียนที่ติด Top 20 ของผู้ส่งออกอาหารโลก ในช่วงครึ่งปีแรกส่วนแบ่งตลาดของเวียดนามในตลาดอาหารโลกเพิ่มขึ้น 1.78% โดยมีมูลค่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกที่ 16,574 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.5%

“ปีนี้เวียดนามสามารถขยับอันดับ ส่งออกโต 20% มาจากสินค้า คือ สินค้าอาหารทะเล +7% ที่เด่น ๆ ทูน่า โตขึ้น 20% ข้าว เพิ่ม 36% มันสำปะหลัง เพิ่ม 35% ผักและผลไม้ เพิ่ม 23% ที่เด่น ๆ คือ ทุเรียน ลำไย แก้วมังกร”

อัพเลเวลสู่ ท็อป 10 ของโลก

ดร.เจริญ แก้วสุกใส ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เราตั้งเป้าหมายจะยกระดับการเป็นผู้ส่งออกอาหารจาก อันดับ 12 เป็นอันดับ 10 ของโลก เพราะสินค้าอาหารเป็นสินค้าที่เติบโตต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกโต 9% โดยไทยต้องรักษาจุดแข็งในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและต้องพัฒนานวัตกรรม ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง BCG

โดยได้เห็นตัวเลขว่าในช่วงครึ่งปีแรกอุตสาหกรรมอาหารมีการขอรับส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น 30% มากเป็นอันดับ 3 รองจากอิเล็กทรอนิกส์และอีวี ซึ่งภาคเอกชนในอุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อคนไทยมากที่สุด เพราะใช้สัดส่วนวัตถุดิบในประเทศ (local content) สูง

เราต้องปรับกลยุทธ์หาตลาดส่งออกที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ทำอย่างไรให้สามารถสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

“ภาคเอกชนอุตสาหกรรมอาหารได้มีการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง หลายบริษัทได้จัดสรรเงินลงทุน 1% ของยอดขายเพื่อวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ทำให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อย่างการพัฒนาอาหารอนาคต ซึ่งต่อไปต้องดึงพันธมิตรจากต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อต่อยอดสร้างรายได้กลุ่มอาหารให้มากขึ้น เพราะการที่อุตสาหกรรมเติบโต ก็จะส่งผลดีทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย”

เน้นเพิ่มมูลค่าสินค้าอาหาร

ดร.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้อุตสาหกรรมอาหารมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นคือการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอาหารไทย สถาบันจึงจัดให้มีโครงการร่วมกับภาคเอกชนในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลดขยะจากอาหาร การพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน

สำหรับแนวโน้มส่งออกอาหารไทยครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีมูลค่า 797,568 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.8% โดยการส่งออกในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ปี 2567 จะมีมูลค่า 395,536 ล้านบาท และ 402,032 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.6% และ 9.9% ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมในปี 2567 มีมูลค่า 1.65 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.8% เทียบจากปีก่อน (2566) ที่มีมูลค่า 1.51 ล้านล้านบาท

โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการที่ประเทศคู่ค้ากังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหาร หลายประเทศขาดศักยภาพในการผลิตสินค้าเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก สินค้าอาหารไทยมีภาพลักษณ์ด้านคุณภาพมาตรฐานและได้รับความเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการส่งออกขยายตัวต่ำกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูง ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในภาคเกษตรที่ต่อเนื่อง ค่าเงินบาทยังคงผันผวนและมีทิศทางแข็งค่าขึ้น ต้นทุนค่าขนส่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอัตราค่าระวางเรือ รวมถึงปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค

ทั้งนี้ สินค้าที่มีโอกาสส่งออกดี ปี 2567 ได้แก่ ข้าว คาดว่าจะขยายตัว 15% จากปี 2566 ไก่แช่แข็งและแปรรูปขยายตัว 7.5% แป้งมันสำปะหลัง ขยายตัว 25% อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 35.6% ปลาทูน่ากระป๋อง ขยายตัว 15% เครื่องดื่มขยายตัว 7.8% เครื่องปรุงรสขยายตัว 15.5% ผลิตภัณฑ์มะพร้าวขยายตัว 27.7% อาหารพร้อมรับประทานขยายตัว 16.7% อาหารอนาคตขยายตัว 0.5% ผลิตภัณฑ์สับปะรดขยายตัว 3.5%

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อาหารไทยสู้ศึกตลาดโลก “จีน” ดัมพ์ราคา 40% ชิงแชร์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...