“มวยไทย” ชิงแชมป์โลก 2024 ไทยส่ง 13 ชีวิตลงสู้ ปิดฉากแข่งขันสรุปได้มา 3 เหรียญทอง

การแข่งขัน“มวยไทย” ชิงแชมป์โลก 2024 “อิฟม่า ซีเนียร์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2024” ที่เมืองปาทรัส ประเทศกรีซ ระหว่าง 31 พฤษภาคม - 9 มิถุนายน จบวันสุดท้ายของการแข่งขัน สรุปผลงาน “มวยไทย” ทีมชาติไทย ส่ง 13 คน ลงสู้ทั้งชายและหญิง เก็บได้ 3 ทอง 2 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง นายกสมาคมกีฬามวยไทย “มวยไทย” สมัครเล่น ทำใจได้มา 3 เหรียญทอง ก็ถือว่าทุกคน ได้ทำกันเต็มที่แล้ว

“มวยไทย” ชิงแชมป์โลก IFMA Senior World Championships 2024 : อิฟม่า ซีเนียร์ เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2024 ที่เมืองปาทรัส ประเทศกรีซ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม - 9 มิถุนายน

จัดการแข่งขันโดย International Federation of Muaythai Associations (IFMA) : สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ ซึ่งมีนักกีฬา “มวยไทย” กว่า 1,200 คน จาก 79 ประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีปทั่วโลกเข้าร่วมในส่วนของไทย ส่งนักมวยไทยทีมชาติ ชาย -หญิง เข้าร่วม 13 รุ่น แบ่งเป็น ชาย 7 รุ่น และหญิง 6 รุ่น การแข่งขันจนถึงวันสุดท้าย ภาพรวมผลงานมวยไทยทีมชาติไทย ได้มารวม 3 เหรียญทอง, 2 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง

การแข่งขันวันสุดท้ายตามเวลาท้องถิ่น เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีนักมวยไทย ทีมชาติไทย แข่ง 5 รุ่น ประกอบด้วย

71 กิโลกรัม “ธนัญชัย ศิษย์สองพี่น้อง” หรือในชื่อจริง ธเนศ นิตุธร วัย 23 ปี จากจังหวัดร้อยเอ็ด พบกับ คอนสแตนติน ชาร์กห์ทาริน จากรัสเซีย ผลการแข่งขันเมื่อครบ 3 ยก ไทยแพ้ไปด้วยสกอร์รวม 27 - 30 คะแนน ถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งที่ 2 ของ “ธนัญชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ที่มีต่อ คอนสแตนติน ชาร์กห์ทาริน

รุ่น 48 กิโลกรัมชาย “โดมทอง ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” หรือ ศุภณัฐ เพชรรักษ์ วัย 26 ปี จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบกับ ดุ๊ก ลี ฮอง จากเวียดนาม ปรากฎว่า โดมทอง ทำได้ดีตลอด 3 ยก เป็นฝ่ายเอาชนะเอกฉันท์ 30-27 คะแนน คว้าแชมป์, รุ่น 51 กิโลกรัม “เพชรสุพรรณ ป.ดาวรุ่งเรือง” หรือ ฉลองชัย มีนิลดี พบกับ อูเซ็ป อัสลานยาน จากรัสเซีย คู่นี้เพชรสุพรรณ เป็นรองพ่ายไป ได้ตำแหน่งเพียง รองแชมป์โลก, รุ่น 48 กิโลกรัมหญิง “น้องนุ๊ก มกช.ชัยภูมิ” หรือ กุลณัฐ อ่อนอก วัย 20 ปี จากจังหวัดสุรินทร์ เจ้าของเหรียญเงิน ชิงแชมป์โลก เมื่อปีที่แล้ว พบกับ ซีเบล โอรุค จากตุรกี โดยตลอด 3 ยก เป็นฝ่ายไทย ที่ชนะเอกฉันท์ 30-27 คะแนนคว้าแชมป์โลก

รุ่น 57 กิโลกรัมหญิง “จอมยุทธเหยิน สุราษฎ์ยิมส์ (จ่าแบงค์ดอนเมือง)” หรือ แก้วฤดี คำถากระปุ่ม จากจังหวัดบุรีรัมย์ พบกับ มาเรีย คิลโมว่า จากรัสเซีย คู่นี้ แก้วฤดี ทำได้ดีกว่า เป็นฝ่ายชนะเลิศ คว้าแชมป์โลก, ด้านการแข่งขันไหว้ครู รอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว ธนวรรณ ทองดวง ของไทยทำได้ 9.63 คะแนน คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2, ประเภทชายคู่ ธนวัฒน์ แสงนาค - พิทยา ทิพย์ปราณี เจ้าของแชมป์เยาวชนโลก คว้าเหรียญทองไปครองทำได้ 9.70 คะแนน สรุปทีมนักมวยไทยทำได้รวม 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง รวมกับทีมไหว้ครูอีก 2 เหรียญทอง และมวยไทยพาราอีก 1 ทอง ทำให้ทีมมวยไทย ได้ไป 6 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง

ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) และนายกสมาคมกีฬามวยไทยมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ (AMTAT) เปิดเผยว่า มาตรฐานของมวยไทยครั้งนี้ถือว่าสูงขึ้น โดยเฉพาะมวยหญิงในต่างประเทศ สำหรับทีมมวยไทยทีมชาติไทยนั้น ต้องขอชื่นชมแม้ว่าจะได้ 3 เหรียญทอง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าได้ต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว ในขณะที่ประเทศต่างๆพัฒนาขึ้น

นาวาอากาศเอก บุญส่ง นวลย่อง ผู้ควบคุมทีมนักมวยไทย กล่าวว่า ไม่พอใจผลงานของทีมนักมวยไทย เฉพาะประเภทต่อสู้ (มวยไทย) ได้ 3 ทอง 2 เงิน และ 4 ทองแดง ปัญหาของครั้งนี้คือ เรื่องการเดินทางต้องมาแข่งขันไกล และอาหารสำหรับนักกีฬา ครั้งต่อๆ ไปต้องวางแผนกันใหม่ ส่วนภาพรวมการแข่งขัน พบว่า หลายชาติต่างพัฒนาขึ้นมา อาทิ รัสเซีย, ตุรกี, สหรัฐ และ ยูเครน ถือเป็นการบ้านที่ไทยต้องมาพัฒนานักกีฬา เพื่อให้มีศักยภาพในเวทีการแข่งขัน ที่จะต้องสู้กับต่างชาติ