โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ซอฟต์พาวเวอร์ เกาหลี ขายดีสุด ไม่ใช่เคพ็อป แต่เป็นน้ำเมา มักกอลลี

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 26 พ.ค. 2565 เวลา 08.22 น. • เผยแพร่ 25 พ.ค. 2565 เวลา 16.28 น.
Matthew Mead/AP

ตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มักกอลลี เติบโตขึ้น52.1% ทั้งที่ตลาดสุรารวมหดตัว ไม่เท่านั้นยังขยายไปตลาดโลก จนเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลัง

วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานถึง ซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีใต้ที่กำลังมาแรง เป็นสาโท หรือน้ำเมาพื้นบ้านของเกาหลี ชื่อ Makgeoll – มักกอลลี ได้รับความนิยมจนเฉิดฉายออกมาจากเงาของเหล้าโชจู และถึงกับได้ชื่อว่า เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำเงินยิ่งกว่าเคพ็อป

ผศ.คิม คย็อง–ซบ ประจำมหาวิทยาลัยโกลบอล ไซเบอร์ในกรุงโซล สอนการหมักมักกอลลีมา10 ปี เล่าย้อนความหลังครั้งยังเป็นเด็กนักเรียนว่า หลังเลิกเรียนแล้ว มักจะตั้งวงดื่มมักกอลลี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีขาวนวลคล้ายนม รสชาติหวาน ราคาย่อมเยา

ปี 1989 (พ.ศ. 2532) คิมเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย ในตอนนั้น มักกอลลีครึ่งแกลลอน ราคาเพียง40 เซนต์ คิมและเพื่อน ๆ นั่งล้อมวงสังสรรค์กันรอบโต๊ะ เทมักกอลลีจากกาทองเหลืองลงในชามทองเหลืองตามประเพณี

คิมเผยว่า ยังจำวันแรกที่จิบมักกอลลีรสชาติเปรี้ยวและขมได้ดี ถ้าต้องดื่มกับผู้หญิง คิมและเพื่อนจะดื่มเบียร์ เพราะมักกอลลีมีชื่อเสียงด้อยกว่าเบียร์และผู้หญิงอาจจะไม่ประทับใจ

20 ปีต่อมา มักกอลลีมีขายในบาร์ทั่วกรุงโซลและเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ทั้งผู้ประกอบการและผู้ผลิตเบียร์ หลังจากพยายามอย่างหนักเพื่อลบภาพลักษณ์เดิมๆ ของมักกอลลี

ส่วนคิม มิน–กยู ผู้ผลิตสุรารายหนึ่งเปิดตัวมักกอลลีพรีเมี่ยม ในปี 2009 (พ.ศ. 2552)

แต่ว่าก่อนหน้านั้น พ่อชาวคริสเตียนผู้เคร่งศาสนาและไม่ดื่มเหล้าคัดค้านแผนของลูกชายเพราะส่งเสียให้ร่ำเรียนด้านสถาปัตยกรรมที่วิทยาลัยคูเปอร์ ยูเนียน ในนครนิวยอร์ก5 ปี จึงทุบหม้อดินที่ใช้หมักมักกอลลีด้วยความโมโห แต่มิน–กยูไม่ได้ห้ามพ่อและเชื่อมั่นสูตรมักกอลลีของยาย

เมื่อครั้งยังเด็ก เขาไปเยี่ยมยายที่ จ.ยังซัน ยายหมักมักกอลลีเองและแบ่งให้เพื่อนบ้าน จากนั้น ก็จะร้องเพลงและเต้นรำกัน

มิน–กยู กล่าวว่าการหมักเหล้าเป็นส่วนขยายของสถาปัตยกรรมของเขาด้วยการอบรม ออกแบบแบรนด์ สื่อการตลาดและโรงกลั่น ส่วนแม่มีหน้าที่หมักมักกอลลี จนผลิตBoksoondoga ขวดแรกโดยตั้งชื่อจากการรวมคำว่าDoga หมายถึง หมักเหล้า และBoksoon เป็นชื่อแม่

ประวัติศาสตร์ดื่มน้ำเมา

มักกอลลี เป็นคำผสมระหว่างคำว่าmak ในภาษาเกาหลีแปลว่า ทำอย่างหยาบๆ หรือ เมื่อไม่นานมานี้ และgeolleun คือ การกรอง

พบครั้งแรกในสารนุกรมGwangjaemulbo ที่เขียนขึ้นในศตวรรษที่19 พูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีขุ่นที่มีประวัติย้อนกลับไปยาวนาน

จนกระทั่งต้นศตวรรษที่20 มีบันทึกอ้างว่ามักกอลลีเป็นเครื่องดื่มที่นิยมในเกาหลี

คิม คย็อง–ซบ กล่าวว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีนิยมเนื่องจากความธรรมดา ๆ นี่เอง เพราะมีส่วนผสมากข้าวที่หุงแล้ว ยีสต์และน้ำ หมักทิ้งไว้2-3 สัปดาห์ในหม้อดิน หลายครอบครัวทั่วมีสูตรเฉพาะของแต่ละบ้าน

เมื่อญี่ปุ่นล่าอาณานิคมในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่20 ทำให้อุตสาหกรรมหมักเหล้าตามบ้านต้องเลิกไปเพราะรัฐบาลเจ้าอาณานิคมห้ามหมักเหล้าเองในครัวเรือนและแทนที่ด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีการผลิตได้มาตรฐาน รวมทั้ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดต้องจ่ายภาษีและมีใบอนุญาต แม้หมักไว้บริโภคภายในบ้านก็ตาม

เครื่องดื่มที่ใช้กำลังผลิตจำนวนมากครองตลาดแทนที่มักกอลลีแบบบ้าน ๆ และประมาณ ปี ค.ศ. 1934 การหมักเหล้าตามบ้านก็กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

สงครามโลกครั้งที่2 และสงครามเกาหลีทำให้ประเทศย่อยยับ รัฐบาลใหม่ยังดำเนินมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สถานการณ์ขาดแคลนอาหารย่ำแย่ลงในทศวรรษที่1960 รัฐบาลจึงสั่งห้ามนำข้าวไปหมักมักกอลลี ผู้ผลิตหันมาใช้ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์แทนทำให้ความนิยมของมักกอลลีลดลง ขณะที่โซจูสมัยใหม่มีกระแสตอบรับดีมาก

ต่อมา เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นและอุปทานข้าวมีมากกว่าการบริโภคจึงยกเลิกการห้ามใช้ข้าวสำหรับหมักเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี ค.ศ. 1989 และการหมักเหล้าตามบ้านก็กลับมาถูกกฎหมายอีกครั้งในปี ค.ศ. 1995 แต่ประเพณีส่วนใหญ่สูญหายไป

รื้อฟื้น มักกอลลี

ศิลปะการหมักมักกอลลีกลับมาอีกครั้งโดยต้องยกความดีความงามให้นักวิจัยรุ่นผู้บุกเบิก เช่น พัค ร็อค–ดัม ที่ตระเวนไปทั่วเกาหลีอยู่30 ปี เพื่อรวบรวมสูตรหมักเหล้าและฟื้นเทคนิคเก่า ๆ ขึ้นมาใหม่

ส่วนรัฐบาลยอมรับว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบดั้งเดิมเป็นมรดกความภาคภูมิใจและสร้างรายได้

ปี ค.ศ. 2016 รัฐบาลอนุญาตให้โรงกลั่นเหล้าและโรงกลั่นขนาดเล็กขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยลดข้อกำหนดขนาดถังต้มจาก5,000 เป็น1,000 ลิตร

ปีหน้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบดั้งเดิมจะได้รับสิทธิพิเศษเฉพาะช่องทางขายออนไลน์และส่งตรงถึงผู้บริโภค

ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก ผู้คนถูกห้ามไม่ให้ไปบาร์และร้านอาหารทำให้ยอดสั่งซื้อมักกอลลีทั้งออนไลน์และออฟไลน์สูงขึ้น

Korea Agro-fisheries and Food Trade Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการโดยรัฐบาลซึ่งส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรระบุว่าปีที่แล้ว ตลาดมักกอลลีเติบโตขึ้น52.1% ในขณะที่ตลาดสุรารวมหดตัว1.6% ในปี ค.ศ. 2020

ขณะที่ในชั้นเรียนของคิม คย็อง–ซบ นักเรียนครึ่งห้องเป็นผู้ประกอบการหลายคนเป็นผู้หญิงในวัย30 ปีหรือน้อยกว่า แต่เมื่อ10 ปีก่อน เกือบทุกคนมีอายุเกิน50 ปี และมาเรียนเพื่อเป็นงานอดิเรกหลังเกษียณอายุ

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 มีผู้ถือใบอนุญาตการผลิตมักกอลลีเพิ่มขึ้นร้อยละ43 เนื่องจากการเปิดโรงหมักมักกอลลีง่ายกว่าแอลกอฮอล์ประเภทอื่นมาก เทียบระหว่างต้นทุนอุปกรณ์สำหรับตั้งโรงเบียร์ขนาดเล็กจะอยู่ที่ประมาณ200-300 ล้านวอน หรือประมาณ5,270,000- 7,922,000 บาท

แต่ต้นทุนเดียวกันในการตั้งโรงหมักมักกอลลีใช้เพียง10 ล้านวอนหรือประมาณ265,200 บาทและใช้เวลาเรียนในชั้นเรียนเพียง3 ชั่วโมงก็จะได้ความรู้ในการผลิตมักกอลลีที่รสชาติดีกว่ามักกอลลีที่ขายตามตลาดทั่วไป

มุ่งสู่ตลาดโลก

จูเลีย เมลเลอร์ พลเมืองออสเตรเลียมาเกาหลีใต้เพื่อสอนภาษาอังกฤษ ต่อมา ปี 2009 เธอรู้จักมักกอลลี

ทุกวันนี้ บริษัทThe Sool สอนการหมักมักกอลลีและให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจจะเปิดโรงเหล้าของตัวเอง ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศและในช่วงโควิด-19 ระบาดใหญ่ ธุรกิจดีขึ้น4 เท่า มีทั้งมาจาก สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และเดนมาร์ก หลายคนเป็นชาวเกาหลีพลัดถิ่นที่อยากนำความรู้เรื่องการหมักมักกอลลีกลับไปต่างประเทศ

ด้านคิม มิน–กยู กล่าวว่ามักกอลลีของเขากำลังจะขายในสหรัฐ และออสเตรียในปีนี้และยังมีผู้ซื้อจากประเทศตะวันตกอีกหลายรายที่สนใจ

ขณะนี้ มักกอลลีของเขาเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นตามกระแสฮัน–รยู หรือคลื่นวัฒนธรรมเกาหลีในช่วงกลางศตวรรษที่2000 ที่ละครเกาหลีและเค-พ็อป ฮิตไปทั่วโลกเหมือนกับกิมจิและเครื่องดื่มแบบดั้งเดิม

ผู้บริโภคต่างชาติชื่นชอบมักกอลลีเพราะหมักตามธรรมชาติซึ่งดีต่อสุขภาพ ทำจากวัตถุดิบออร์แกนิกและสะอาด อีกทั้ง เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แปลกใหม่สำหรับคนต่างชาติ

จับคู่เมนูคูล ๆ

แม้มักกอลลีเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่โซจูและเบียร์ยังครองตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเกาหลีใต้โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ80 ของยอดขาย

มิน–กยู กล่าวว่าสาธารณชนติดภาพว่ามักกอลลีเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้สูงอายุ จึงต้องเปลี่ยนการรับรู้ผ่านการโฆษณา

ส่วนการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เกี่ยวกับอาหารที่จับคู่กับมักกอลลีก็เป็นอุปสรรคอีกประการหนึ่ง

ตามวัฒนธรรมเกาหลี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะดื่มพร้อมกับของกินเล่น แต่สำหรับมักกอลลีเข้ากันได้ดีกับจอน แพนเค้กเกาหลีที่ผัดเนื้อหรือผักในแป้งปรุงรสซึ่งชุดคอมโบขายดีมากในวันฝนพรำ ยอดขายมักกอลลีและจอนสูงขึ้นมากตามร้านสะดวกซื้อ

แต่ มิน กยู กล่าวว่ามักกอลลีระดับพรีเมี่ยมเข้ากันได้ดีกับอาหารทุกประเภท เช่น จาจังมยอน(บะหมี่แบบจีนผสมเกาหลี) หรือไอศกรีม และเนื่องจากเป็นเครื่องดื่มหมักจึงมีรสชาติเยี่ยมเมื่อดื่มคู่กับการรับประทานอาหารหมักดองอื่นๆ เช่น กิมจิและชีส

ขณะนี้ มักกอลลีBoksoondoga เป็นเครื่องดื่มประจำรานอาหารกึ่งผับในย่านฮับจองอันทันสมัยของกรุงโซลไปแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนทำงานวัยหนุ่มสาว พักผ่อนฟังเสียงดนตรีฮิบฮอป พร้อมเลือกเมนูเป็นสเต๊กทาร์ทาร์เนื้อคู่กับมักกอลลีระดับพรีเมี่ยม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...