จะเกิดอะไรขึ้น?? หากโหวตเลือกนายกฯ หลายรอบ แต่ไม่มีใครได้เสียงถึง 376 เสียง!!
อาจารย์ไชยันต์ เผยทางออก! หากผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ได้คะแนนเสียงไม่ถึง 376 เสียง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“หากไม่มีผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใดได้เสียงถึง 376 หลังให้มีการลงคะแนนเสียงอยู่หลายครั้งแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อไป ?”
ถือว่าไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายใต้รายชื่อแคนดิเดทตาม ม 88 ของรัฐธรรมนูญ 2560
การไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จะนำไปสู่ความจำเป็นที่จะต้องหานายกรัฐมนตรีคนนอก
ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดว่า จะต้องรวมเสียง ส.ส. ได้ 250 และไปยื่นกับวุฒิสภาเพื่อขอเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อลงมติให้ ส.ส. สามารถเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีนอกเหนือจากรายชื่อที่แต่ละพรรคได้เสนอไปในตอนสมัครรับเลือกตั้ง
การที่มตินี้จะผ่านได้ก็ต้องได้เสียงจากสองสภารวมแล้ว 500 เสียง (สภาผู้แทนฯมี ส.ส. 500 วุฒิสภาขณะนี้มี ส.ว. 250) เมื่อผ่านแล้ว ก็จะกลับไปที่สภาผู้แทนราษฎร
คราวนี้ พรรคการเมืองที่มี ส.ส. ตั้งแต่ 25 คนขึ้นไปสามารถเสนอบุคคลนอกบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่เคยมีการเสนอมาก่อน
และถ้ามีเสียงสนับสนุนรวมสองสภาถึง 376 บุคคลนั้นก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งการเสนอชื่อบุคคลจะเสนอชื่อตามบัญชีรายชื่อเดิมก็ได้
แต่ถ้ามติไม่ผ่าน คือไม่ได้เสียงสนับสนุนถึง 500 ก็ไม่สามารถปลดล็อกให้มีการเสนอชื่อคนนอกบัญชีรายชื่อได้
และจะเข้าทางตันจริงๆ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกไว้ว่า จะต้องทำอย่างไรต่อ เมื่อไม่มีบทบัญญัติไว้ รัฐธรรมนูญก็มีมาตรา 5 คือ ให้ใช้ประเพณีการปกครอง ซึ่งตามประเพณีการปกครองแบบรัฐสภาโดยทั่วไป มีทางออกสองกรณี นั่นคือ ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือ ยอมให้มีรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ไม่ถึง 376 ได้
หรือหากไม่ต้องการใช้มาตรา 5 ก็คงต้องปล่อยให้มีนายกรัฐมนตรีรักษาการไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2567 ที่วุฒิสภาชุดนี้จะหมดวาระ พร้อมกับเงื่อนไขการให้วุฒิสภามีอำนาจในการเห็นชอบผู้ที่ สส เสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS