โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จีน กว้านซื้อ อาคารเก่าในญี่ปุ่นแทนไทย ทำ “บ้านพักนักท่องเที่ยว” ดันราคาที่ดินโตเกียวพุ่ง 29%

Positioningmag

อัพเดต 04 ก.ค. เวลา 08.28 น. • เผยแพร่ 04 ก.ค. เวลา 06.04 น. • my_bb

ไม่ใช่แค่ “อสังหาริมทรัพย์ไทย” ที่ถูกคนจีนกว้านซื้อ เพราะล่าสุด “ญี่ปุ่น” กำลังเผชิญเหตุการณ์เดียวกันที่เคยเกิดกับไทยหนัก ๆ ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 (ปี 2561 - 2562)

โดยพบว่า อาคารเก่า ตามถนนคามินาริมง ในอาซากุสะ โตเกียว มีนักลงทุนจีน แห่กว้านซื้ออาคารเก่า ลงทุนทำ มินปากุ (Minpaku)หรือ บ้านพักนักท่องเที่ยว จำนวนมาก

อ้างอิง ข้อมูลกรมสรรพากรญี่ปุ่น ระบุว่า ราคาที่ดินทำเลอาซากุสะ โตเกียว เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และขยายตัว 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้

“ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเงินทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากนักลงทุนจีน ที่มาทำมินปากุ ผลักดันราคาที่ดินให้สูงขึ้นขนาดนี้”

[caption id="attachment_1528856" align="alignnone" width="1280"]

ภาพโดย Jason Goh จาก Pixabay[/caption]

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า มีนักลงทุนจีนรายหนึ่งกำลังมองหาที่พักทำมินปากุในอาซากุสะ โดยบอกว่า“เงินที่นำมาญี่ปุ่น ทิ้งไปก็ไม่เป็นไร”

จากนั้นได้ซื้อตึกเก่าอายุ 40 ปี ใกล้คามินาริมงในราคา 500 ล้านเยน (ประมาณ 100 กว่าล้านบาท) แบบจ่ายเงินสดเป็นก้อนเดียวอีกด้วย

อย่างไรก็ดี บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น เริ่มเห็นเทรนด์การซื้ออาคารเก่าทำเป็นมินปากุ ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว (ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย) โดยนักลงทุนจีนแทบไม่สนใจราคาตลาด หากทำสำเร็จถือว่าเป็นกำไร

ปัจจุบันมีมินปากุทั่วญี่ปุ่นประมาณ 32,000 แห่ง และมากกว่า 1 ใน 3 อยู่ในโตเกียว โดยเฉพาะเขตไทโตะ (ที่อาซากุสะตั้งอยู่) มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 80% จากก่อนโควิด-19

ทั้งนี้ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2568 มีผู้เข้าพักมินปากุกว่า 4.6 แสนคน โดยสัดส่วนกว่า 50% เป็นชาวต่างชาติ โดย ชาวจีนมาเป็นอันดับ 1 (16%) ตามด้วยเกาหลี (14%) และสหรัฐอเมริกา (12%)

อย่างไรก็ตาม การเกิดมินปากุจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อคนท้องถิ่นยกตัวอย่าง พนักงานบริษัทหญิงวัย 45 ปี ที่อาศัยอยู่แถวอาซากุสะ ค่าเช่าบ้านของเธอเพิ่งปรับขึ้น 4,000 เยนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ตั้งแต่ที่เธอพักอาศัยมา

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่อง การทิ้งขยะและเสียงดังในเวลากลางคืนจากผู้เข้าพักมินปากุ ที่ชาวบ้านร้องเรียนไปยังสำนักงานสาธารณสุขเขตไทโตะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยอมรับว่ายิ่งมีมินปากุเยอะ ปัญหาเหล่านี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

[caption id="attachment_1528857" align="alignnone" width="1280"]

ภาพโดย Christozavic จาก Pixabay[/caption]

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เงินเยนที่อ่อนค่าและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำในญี่ปุ่น ทำให้เงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาได้ง่าย คาดว่าแนวโน้มแบบนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีกสักพัก

ขณะที่ยอดการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเฟื่องฟู เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนการลงทุนทำมินปากุ โดยข้อมูลช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) ปี 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นรวม 14.4 ล้านคน

โดย Top 5 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปญี่ปุ่นสูงสุดได้แก่ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไทย

สำหรับ“ไทย” เคยเป็นสถานที่อันดับต้น ๆ ที่คนจีนซื้ออสังหาเพื่อการลงทุนสูงสุด จากท่องเที่ยวไทยที่เฟื่องฟูในยุคก่อนเกิดโควิด (ปี 2561-2562) แต่หลังจากช่วงโควิดเป็นต้นมา (ปี 2563-2568) ยอดซื้อของนักลงทุนจีนก็ไม่กลับไปสู่จุดสูงสุดอีกแล้ว

สะท้อนจากหน่วยโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดของคนจีน จากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ดังนี้

  • ปี 2561 จำนวน 7,916 หน่วย

  • ปี 2562 จำนวน 7,626 หน่วย

  • ปี 2563 จำนวน 5,254 หน่วย

  • ปี 2564 จำนวน 4,867 หน่วย

  • ปี 2565 จำนวน 5,707 หน่วย

  • ปี 2566 จำนวน 6,614 หน่วย

  • ปี 2567 จำนวน 5,670 หน่วย

  • ไตรมาส 1 ปี 2568 จำนวน 1,481 หน่วย

โดยช่วงปี 2568 ที่ผ่านมา ยอดซื้อในไทยชะงักลงจากการท่องเที่ยวที่ซบเซา โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวจีน เซ่นพิษข่าวลักพาตัวดาราจีนซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน กระทบต่อความเชื่อมั่น

รวมไปถึงเหตุการณ์ช็อกตลาดจากแผ่นดินไหวเมียนมา และมีตึกถล่มในไทย ตลอดจนการที่ภาครัฐบาลคุมเข้มจีนเทาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดซื้อคนจีนลดลงเช่นกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...