3 กุมภาพันธ์ 2567 เจแปนไทม์ รายงานว่า ผู้ว่าการจังหวัดยามานาชิ โคทาโร นางาซากิ กล่าวว่า เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางยอดนิยมสำหรับขึ้นภูเขาไฟฟูจิ เตรียมใช้ 2 มาตรการควบคุมนักท่องเที่ยว ที่จะขึ้นยอดภูเขาไฟฟูจิ ในช่วงหน้าร้อนปีนี้ หลังนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับความนิยมปีนเขาแบบด่วน โดยไม่มีการหยุดพักค้างคืน จนอาจเกิดอันตราย
โดยจังหวัดยามานาชิ จะเก็บเงินค่าใช้เส้นทางเพิ่มอีก 2,000 เยน หรือประมาณ 480 บาท ทำให้ผู้ที่ต้องการขึ้นภูเขาไฟฟูจิ จะต้องจ่ายเงินรวมทั้งหมด 3,000 เยนหรือประมาณ 716 บาท จากเดิมที่จ่ายเพียง 1,000 เยน หรือ 238 บาท ทั้งนี้จังหวัดจะยื่นร่างมาตรการ เก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนี้ เข้าสู่ที่ประชุมของจังหวัดในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับการปีนเขาที่ไม่ปลอดภัย เช่น "การปีนขึ้นยอดเขาแบบด่วน"บนความสูง 3,776 เมตร หรือการพยายามขึ้นไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในคราวเดียว โดยไม่นอนค้างคืนบนภูเขา จนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า และอันตรายจากความหนาวเย็น รวมถึง ปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การสะสมขยะ
นอกจากนี้ จะติดตั้งประตูที่บริเวณสถานีที่ 5 จากทั้งหมด 10 สถานี ของเส้นทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิ เพื่อห้ามไม่ให้นักปีนเขาที่ไม่ได้จองกระท่อมพักใช้เส้นทาง ระหว่างเวลา 16.00- 03.00 น. รวมถึงอาจมีการจำกัดจำนวนผู้ใช้เส้นทางที่ 4,000 คนต่อวัน
ซึ่งเงินที่เก็บเพิ่มนี้จะนำไปใช้เสริมมาตรการเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ พากันมาปีนภูเขาไฟฟูจิมากเป็นประวัติการณ์ จนทำลายสถิติเมื่อปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด 19 ข้อมูลของกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่น เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยว เดินทางผ่านสถานีที่ 8 จาก 10 สถานีของเส้นทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิ มากถึง 221,322 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับสถิติปี 2019 อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงไม่เห็นด้วยกับมาตรการนี้ เช่น ผู้ประกอบการกระท่อมที่พักบนเส้นทางขึ้นเขาที่มองว่าค่าใช้จ่าย 3,000 เยนนั้นแพงเกินไป
ความเห็น 0