โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

แฉเทคนิค “โกงเคลมค่ารักษา” ต้นเหตุประกัน พ.ร.บ.มอ’ไซค์สินไหมพุ่ง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 26 ต.ค. 2566 เวลา 07.44 น. • เผยแพร่ 26 ต.ค. 2566 เวลา 07.44 น.

“บริษัท กลางฯ” เปิดข้อมูลประกัน “พ.ร.บ.” รถจักรยานยนต์ 9 เดือนแรกปี’67 ยอดเบี้ยเริ่มฟื้นหลังผ่านสถานการณ์โควิด ขณะที่เคลมค่ารักษาพยาบาลพุ่ง 4.5 พันล้าน เผยตรวจพบ “ฉ้อฉล” โกงเอาเงินประกัน ทั้ง “สวมทะเบียน-อ้างประสบภัยจากรถ-ปลอมใบเสร็จ” พร้อมยืนยันลดเงินสมทบเข้ากองทุน3 ปี ไม่กระทบสิทธิการดูแลผู้เอาประกัน เหตุยังมีเงินหน้าตักกว่า 10,000 ล้าน

นายประสิทธิ์ คำเกิด รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีรถจักรยานยนต์ที่ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) จำนวน 11.8 ล้านกรมธรรม์ เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY)

คิดเป็นเบี้ยรวมประมาณ 3,540 ล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นปี 2566 จะมียอดกรมธรรม์แตะ 15.5 ล้านกรมธรรม์ เพิ่มขึ้น 2.65% เมื่อเทียบจากสิ้นปี 2565 ที่มียอดกรมธรรม์ 15.1 ล้านกรมธรรม์ หรือมีเบี้ยรวมแตะ 4,650 ล้านบาท

“เป็นไปตามภาวะ ซึ่งหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ประชาชนมีการนำรถออกมาใช้มากขึ้น ทำให้มีการทำประกันภัยเพิ่มมากขึ้นด้วย และมีอัตราการต่ออายุระดับ 90%”

ขณะที่อัตราความเสียหายหรือเคลมสินไหม (loss ratio) จนถึงสิ้นเดือน ก.ย. 2566 มีลอสเรโชสูงกว่า 128% คิดเป็นเงินที่จ่ายเคลม 4,530 ล้านบาท ส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นเงินที่จ่ายค่ารักษาพยาบาล ผ่านระบบสินไหมอัตโนมัติ (e-Claim) ให้กับโรงพยาบาลที่มีอยู่กว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ เฉลี่ย 35,000 เคลมต่อเดือน หรือเกือบ 400,000 เคลมต่อปี

“ความถี่ในการเกิดเคลมของรถมอเตอร์ไซค์ พบว่าทุก ๆ 100 กรมธรรม์ จะเกิดเคลมประมาณ 2.5 กรมธรรม์”

สำหรับปัญหาที่บริษัทคุมไม่ได้ คืออัตราค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากกฎหมายระบุว่า หากประกาศออกมาแล้วให้ใช้สิทธิตามนั้นได้เลย อย่างไรก็ดี ตามหลักการพิจารณาของบริษัท คือต้องเป็นค่ารักษาพยาบาลจริง ซึ่งปัจจุบันมีทีมแพทย์ที่ปรึกษาคอยดูแลเรื่องอัตราค่ารักษาพยาบาลที่เรียกเก็บ ว่ามีความเหมาะสมกับอาการที่รักษาหรือไม่

รวมถึงมีพนักงานในแต่ละพื้นที่คอยช่วยตรวจสอบ ประกอบกับในแต่ละปีทางบริษัทได้พิจารณาคำนวณเปอร์เซ็นต์ของอัตราเงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาลราว 0.3% เข้าไปในการจัดทำแผนการดำเนินงานร่วมด้วย

นายประสิทธิ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เคลมสินไหมที่เกิดขึ้นนั้น ตรวจพบว่ามาจากการฉ้อฉลรวมอยู่ด้วย เฉลี่ยต่อปีประมาณ 4,000 เคลม หรือคิดเป็นประมาณ 0.1% ของเคลมต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะสวมทะเบียนเปลี่ยนรถคันที่เกิดเหตุ ซึ่งไม่มีประกัน พ.ร.บ. รองลงมาคือเปลี่ยนคดีสมอ้างว่าประสบภัยจากรถ และถัดมาคือปลอมใบเสร็จ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวคือตรวจพบและไม่ได้จ่ายเงิน แต่เชื่อว่ายังมีหลายเคสที่หลุดไป

“ช่วงที่ผ่านมา แนวทางป้องกันฉ้อฉลจะมีการกำหนดข้อบ่งชี้เป็นเงื่อนไข ตรวจจับโดยระบบ รวมทั้งตัวบุคคลในการตรวจสอบร่วมด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่าช่วงหลัง ๆ ก็ตรวจพบมากขึ้น”

นายประสิทธิ์กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศเรื่อง การลดเงินสมทบบริษัทกลางฯ เป็นเวลา 3 ปี จากระดับ 12.25% เหลือแค่ 6% ของเบี้ย พ.ร.บ.ที่ได้รับแต่ละไตรมาส ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566-ก.ย. 2569 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของธุรกิจประกันวินาศภัยนั้น จะทำให้เงินส่วนนี้หายไปราว 600-700 ล้านบาท จากที่เข้ามาปีละ 1,700 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่กระทบสิทธิการดูแลผู้เอาประกัน

“ไม่กระทบ เพราะบริษัทมีเงินกองทุนจากค่าเบี้ยสะสมของผู้ถือหุ้น และเงินฝากธนาคารของบริษัทที่มีอยู่กว่า 10,000 ล้านบาท เพียงพอในช่วง 3 ปี โดยบริษัทได้ปรับแผนเรื่องงบประมาณ มีการจำกัดเรื่องการรณรงค์ลงบ้าง เพื่อให้มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น”

อนึ่ง กฎหมายระบุว่าผู้ครอบครองรถไว้ใช้ต้องมีการจัดทำประกัน พ.ร.บ. ซึ่งในแต่ละปีมีรถจักรยานยนต์จดทะเบียนประมาณ 23 ล้านคัน มีการทำประกัน พ.ร.บ. 15 ล้านคัน ดังนั้น จะมีอยู่อีกกว่า 8 ล้านคันที่ไม่ทำประกัน ซึ่งระบบของกรมการขนส่งฯ กำหนดไว้ หากไม่ชำระภาษีเกิน 3 ปี จะถูกตัดออกจากสารบบกลายเป็นรถเถื่อน

สำหรับ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นบริษัทประกันวินาศภัยในประเทศไทยทั้งหมด ให้บริหารจัดการสินไหมที่เกิดจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ที่มี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

ล่าสุดบริษัทกลางฯ จับมือบริษัท มิตรไมตรีการแพทย์ จำกัด (MMT) ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ ให้บริการผู้ประสบอุบัติเหตุจากรถ “โดยไม่ต้องสำรองจ่าย” เมื่อเข้ารักษาพยาบาลที่มิตรไมตรีคลินิก นำร่อง 25 สาขา ให้บริการในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี

เพื่อเป็นช่องทางการเข้ารับการรักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยจากรถที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ไปสู่การรักษาผู้ป่วยนอก (OPD) ที่คลินิก และภายใน 1-2 เดือนข้างหน้าจะขยายให้ครอบคลุม 70 สาขา ที่ให้บริการครอบคลุมการรักษาอีก 7 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี กรุงเทพฯ ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ สมุทรสาคร

“ตอนนี้ที่นนทบุรีมีผู้ประสบภัยจากรถเข้าไปรักษาพยาบาลในคลินิกมิตรไมตรีเป็น 100 เคลมต่อเดือน ส่วนมากไปใช้บริการล้างแผล ค่าใช้จ่าย 700-800 บาท รวมค่ายา ค่าเย็บแผล และล้างแผล ส่วนในภาพรวมพบว่าอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจะมีสัดส่วน 60-70% 
ของเคลมทั้งหมดของบริษัทกลางฯ” นายประสิทธิ์กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...