เบลล์ คืนดีสามีเร็ว ให้เวลาพิสูจน์1เดือน ฝ่ายชายสัญญาจะไม่ทำพลาดเหมือนอดีต
เริ่มต้นใหม่กับคนเดิม “เบลล์” คืนดีสามี ให้เวลาพิสูจน์ตัวเอง 1 เดือน! ฝ่ายชายสัญญาจะไม่ทำพลาดเหมือนในอดีต เล็งขายธุรกิจที่อเมริกา มาใช้ชีวิตเกษียณที่เมืองไทย
เริ่มต้นใหม่กับคนเดิม “เบลล์ นันทิตา” ควงสามีหนุ่มชาวญี่ปุ่น “สตีฟ สตีเว่น ฮิโรชิ อิมามูระ” มาเปิดใจ หลังรีเทิร์นความรักอีกครั้ง พร้อมเดิมพันสัญญา พาคุณสามีเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญที่บ้านเกิด อนาคตมีแพลนย้ายครอบครัวกลับมาเมืองไทย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ล่าสุดเบลล์พาสตีฟเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญที่โคราช? เบลล์ : “ใช่ค่ะ เราสองคนคุยกันเกี่ยวกับคำสาบานอีกครั้งนึง เวลาแต่งงานของอเมริกัน จะมีการพูดคำสาบาน ดูแลกันไปตลอด เขาก็ถามเบลล์ว่าถ้าอยากทำในไทยเวอร์ชั่นต้องทำยังไง ก็มานั่งนึกอยู่เหมือนกัน ของเราไม่มีพิธีแบบนี้ ถ้าแต่งงานก็แต่งงานเลย ก็เลยคิดว่างั้นเราควรทำบายศรีสู่ขวัญ เพราะเราเป็นคนอีสาน ให้ผู้ใหญ่มาอวยพรให้อีกครั้งนึง”
สตีฟ : “ไม่เข้าใจคำว่าบายศรีสู่ขวัญ แต่ชอบมากไม่ว่างานที่เกิดขึ้นและคนที่มาร่วม พราหมณ์ที่มา ทำให้รู้สึกถึงอะไรแปลกๆ ได้”
เบลล์ : “ก็เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ได้ ตอนนั้นเราจะจบกันจริงๆ แล้ว ครั้งนี้ก็เป็นการให้โอกาสและเริ่มต้นชีวิตใหม่ของทั้งคู่”
สตีฟ : “ถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สดใสมากๆ”
คนอีสานจะรู้สึกว่าพิธีนี้พูดแล้วต้องทำตามนั้นจริงๆ สตีฟเพิ่งเข้าพิธีครั้งแรก รู้สึกเหมือนมีอะไรมองเขา? สตีฟ : “ไม่ได้เห็น แต่สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของพราหมณ์ มันเป็นความขลังที่อธิบายไม่ได้”
อยากให้สัญญาและประกาศต่อหน้าคนทั้งประเทศ ว่าจะรักผู้หญิงคนนี้ตลอดไป? สตีฟ : “สัญญาว่าจะรักตลอดไป จะดูแลผู้หญิงคนนี้ให้ดีที่สุด และจะไม่ทำพลาดเหมือนในอดีตอีก”
เบลล์ : “ขอบคุณค่ะ เบลล์ด้วยจะเป็นภรรยาเวอร์ชั่นใหม่ที่ดีที่สุด จะจับมือและสู้ชีวิตด้วยกันตลอดไป”
แต่งงานใหม่ นับหนึ่งกันใหม่ ให้ย้อนวันที่เกือบยุติความสัมพันธ์? สตีฟ : “จริงๆ เบลล์อยู่อันดับท็อปของผม เป็นนักร้องระดับประเทศของเมืองไทย พอได้มาคบ มาแต่งงาน ทุกอย่างเหมือนขึ้นสวรรค์ แต่ตอนโควิด บริษัทผมและหลายๆ บริษัทปิดขึ้นมา ช่วงคับขันตอนนั้นมีค่าเช่าบ้านต้องจ่าย มีบิลต้องจ่าย แต่ไม่มีเงินเข้ามาเลย เครียดทั้งคู่ เลยบอกเบลล์ว่าเบลล์อาจต้องกลับเมืองไทย และเราจะอยู่ที่อเมริกา”
เบลล์ : “เขาโฟกัสธุรกิจมากจนเกินไปจนลืมไปว่าภรรยาอยู่ตรงนี้ เบลล์ก็คุยกันว่าขอแยกทาง แต่ตอนพูดคำว่าแยกทาง เบลล์ก็ขาดการติดต่อเขาเลย บล็อกทุกอย่างเลย ลากกระเป๋าออกจากบ้าน”
สตีฟ : “ผมเพิ่งรู้ว่าโดนบล็อก(หัวเราะ) แต่เห็นโพสต์อินสตาแกรมบอกว่าอยู่สนามบินแล้วจะกลับเมืองไทย ถ้าเท้าของเบลล์เหยียบเครื่องบินเมื่อไหร่ ชีวิตรักมีปัญหาแน่ ก็เลยตัดสินใจทิ้งทุกอย่าง ตามไปหาเบลล์ที่เมืองไทย จองตั๋วคืนนั้นเลย”
จุดที่ทนไม่ไหว ทำให้ตัดสินใจกลับบ้าน? เบลล์ : “การที่เขาไม่ฟังเบลล์ เบลล์พูดอะไรไป ไม่สนใจอีกแล้ว เราก็คิดว่า เฮ้ย แล้วเราจะอยู่ตรงนี้ทำไม ถ้าอยู่แล้วไม่มีการให้ความเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ก็เลยคิดว่าเราควรลดสถานะความสัมพันธ์จากการเป็นสามีภรรยา มาลองเป็นเพื่อนกันดู เหมือนถอยกันคนละก้าวเพื่อออกมาให้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เบลล์เป็นสาวใจเด็ดเหมือนกัน? เบลล์ : “ค่ะ”
สตีฟ : “พอผ่านเรื่องแย่ๆ ช่วงโควิดแล้ว มานั่งทบทวนตัวเองจริงๆ แล้วนิสัยเราอยากเอาชนะ อยากถูกในทุกๆ เรื่อง ทำให้ลืมเบลล์ไป แต่พอเบลล์ไปปั๊บก็ซื้อตั๋วตามไปโคราช ขึ้นแท็กซี่ไป เจอโมเมนต์แรกก็กลัว แต่วิธีขอโทษที่ดีที่สุดที่คิดได้ คือคุกเข่าและโค้งลงมาให้ถึงที่สุดเพื่อให้รู้ว่าผมเสียใจ”
เบลล์ : “เบลล์ประคองเขาขึ้นมา บอกว่าอย่า เพราะไทยเราไม่ได้ทำกันแบบนี้”
สตีฟ : “พอโค้งแล้วเบลล์ยังไม่ได้ให้อภัยเลยทันที เบลล์บอกไม่ เข้าไปนั่งในบ้านแล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
เบลล์ : “แล้วก็คุยกันอีกวันจริงค่ะ ตอนนั้นเขาอยากให้เบลล์ช่วยเขาในทุกๆ เรื่อง แต่เบลล์ไม่ได้มีความรู้ก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้ ไม่ใช่ไม่ช่วยนะคะ เราก็ช่วยเรื่องเกมเพราะเขาเปิดธุรกิจเกม เราช่วยได้ แต่ถ้าให้เราไปทำบัญชี เราทำไม่ได้ เขาก็คาดหวังให้เบลล์ทำให้เขาหมดเลยทุกอย่าง”
เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ทะเลาะกัน? เบลล์ : “ส่วนหนึ่งค่ะ”
สตีฟ : “ด้วยความที่ไม่ได้อย่างที่ใจอยากได้ ก็เลยลามไปถึงพ่อแม่ เช้านั้นสิ่งแรกที่ทำคือขอโทษพ่อแม่ก่อน”
เบลล์ : “เขาก็คุยกับน้องสาว เพราะเขารู้ว่าประเพณีไทยคือพวงมาลัยเป็นสิ่งสำคัญมากในการให้ความเคารพผู้ใหญ่ เขาเลยให้น้องสาวพาไปซื้อพวงมาลัย และดอกไม้มาขอโทษเบลล์”
กระแสมีสองแบบ ดีใจด้วยที่กลับมาแล้ว กับอีกกระแสที่ไม่เห็นด้วย? เบลล์ : “เบลล์พยายามเป็นทุกอย่างให้กับ LGBTQ เรื่องความรักว่าไม่ว่ารักเพศไหน เรามีปัญหาได้ทั้งนั้น แต่สิ่งสำคัญคือการให้อภัยแต่กรณีของเบลล์เกิดขึ้นเร็ว เพราะเขากลับมาเร็วมาก ทำให้รู้สึกเหมือนกันว่า อ้าว เมื่อกี้เพิ่งประกาศไป ซึ่งเบลล์ไม่ได้คาดหวังให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เขากลับมาเร็วเลยกลายเป็นว่าเราได้กลับมาคุยกันเร็ว สุดท้ายก็เลยเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เบลล์ก็เลยคิดว่างั้นไม่เป็นไร ถ้าใครจะไม่เห็นด้วย แต่สิ่งสำคัญคือความจริง เบลล์อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าเราสองคนได้ให้อภัยซึ่งกันจริงๆ ค่ะ”
กลับมาเวอร์ชั่นนี้น่ารักขึ้นมั้ย? เบลล์ : “ดีขึ้น เขาก็หันมาโฟกัสที่เรามากขึ้น เช่นเดินไปหยิบน้ำให้ เราสองคนคบกันมาไม่เคยเรียกกันว่าดาร์ลิ่งหรือฮันนี่เลย จะเรียกแค่ชื่ออย่างเดียว แต่รอบนี้เขาบอกว่าเธอ เรามาหาอะไรเรียกกันที่มันน่ารักๆ ดีกว่า”
สตีฟ : “ผมเรียกเบลล์ฮันนี่ ส่วนเบลล์เรียกผมว่าดาร์ลิ่ง(หัวเราะ) กลับมาคบกันแล้ว อนาคตจะพาเบลล์ไปเที่ยว”
เบลล์อยากไปเที่ยวไหน? เบลล์ : “ที่แรกที่อยากไปคือที่สเฟียร์ ลาสเวกัส อยากไปตรงนั้นมาก”
สตีฟ : “เป็นที่แรกที่จะพาไป”
พอจะกลับไปใช้ชีวิตกันจริงๆ เรายังกลัวเหตุการณ์เดิมจะเกิดอีกมั้ย? เบลล์ : “เบลล์จะไม่โกหก เบลล์ยังมีความรู้สึก เป็นธรรมดา เพราะยังใหม่ แต่ถามว่ายังกลัวมั้ยก็กลัว แต่เบลล์ก็อยากให้เวลาเขา และให้โอกาสเขา ลองดูกันสักตั้งว่าเขาจะทำได้อย่างที่พูดมั้ย”
สตีฟ : “สัญญาว่าจะไม่เกิดขึ้น”
เบลล์ : “ถ้าอึดอัดก็คงต้องคุยกัน”
ให้เวลาเขาพิสูจน์ตัวเอง แต่ถ้าไม่ดีขึ้น ได้บอกเขามั้ยว่าเราจะกลับเมืองไทยอีก? เบลล์ : “ค่ะ เบลล์จะขอดูเขาใน 1 เดือน(หัวเราะ) เพราะเป็นการเริ่มต้นใหม่หมดเลย ก็จะลองดูว่าเรามีความคิดเห็นไปในทิศทางไหนกัน”
สตีฟ : “เดือนนึงสบายอยู่แล้ว (หัวเราะ)”
ความรักดีขึ้น ยังร้องเพลงให้สามีฟังอยู่มั้ย? เบลล์ : “มีบ้างค่ะ เพราะเบลล์ทำเฟซบุ๊กของตัวเองอยู่ จะทำเกี่ยวกับร้องเพลงยุค 90 ต้องสองเสียงบ้าง ร้องคัฟเวอร์บ้าง”
สตีฟ : “จริงๆ ผมบอกรักเขาตลอด บอกรักเบลล์เป็นสิบๆ ครั้ง มากกว่าที่เบลล์พูด”
เบลล์ : “เบลล์ไม่ได้เขิน แต่คิดว่ามันจริงมั้ย(หัวเราะ)”
ต้องรักเขามากแหละถึงให้อภัยเขาได้ รักเขามากขนาดไหน? เบลล์ : “เบลล์คิดว่าเบลล์พยายามจำเรื่องที่ดีของเราให้มากที่สุด เบลล์คิดว่าสิ่งดีๆ เขาก็ยังมี เขายังเทคแคร์เรา ก็คิดว่านี่แหละ ทำให้เบลล์รักเขาพอสมควรค่ะ”
สตีฟ : “นอกจากรักในความสามารถ รักในการร้องเพลง รักในความสวยของเบลล์แล้ว ยังรักที่เบลล์เป็นชาวพุทธด้วย เบลล์ชอบทำบุญ สวดมนต์”
เบลล์ : “เบลล์ชอบพาเขาทำบุญ สวดมนต์ก่อนนอน ถือศีลกินเจ(หัวเราะ) มีมุมนี้”
จะย้ายกลับมาเมืองไทยจริงมั้ย? เบลล์ : “จริงค่ะ ด้วยความที่อายุเขาก็มากขึ้นเรื่อยๆ เขามีแพลนว่าอาจต้องขายธุรกิจ และกลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย ก็น่าจะอีกสัก 2-3 ปี”
สตีฟ : “อยากมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยตอนนี้เลยก็ยังทำไม่ได้ เพราะยังเป็นนักท่องเที่ยวเฉยๆ แต่อนาคตอาจปลดเกษียณมาอยู่ที่นี่ และขายธุรกิจที่โน่น ที่อเมริกาเป็นประเทศที่แบ่งแยก ด้วยความเชื่อของคน แต่ 92 เปอร์เซ็นต์ของคนไทย เป็นชาวพุทธ คนไทยรักกัน และอยู่ด้วยกันอย่างสันติภาพ อยู่กันอย่างมีความสุข ถ้าอนาคตเบลล์จะเป็นนักร้องหรือเล่นละครก็กลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ (หอมแก้มและมอบดอกไม้ให้ภรรยา)”
คลิปสัมภาษณ์ เบลล์ นันทิตา และ สามี
https://youtu.be/1tDXI1d5r4w?si=2imy8H7vrqa0dR_D