โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

แม่ร้องครูอนาจารลูกชายชั้น ป.6 - ผอ.ขอให้เห็นใจครู

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

อัพเดต 19 เม.ย. เวลา 16.30 น. • เผยแพร่ 19 เม.ย. เวลา 16.30 น. • ข่าวเวิร์คพอยท์

(19 เม.ย. 68) จากกรณีโด่งดังในโลกโซเซียลที่มีบุคคลท่านหนึ่งในจังหวัดปัตตานีได้โพสเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเด็กชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดปัตตานี ว่าได้มีคุณครูของโรงเรียนแห่งนั้นชักชวนพาเด็กชายไปโดยอ้างว่าจะพาไปเที่ยว และเมื่อเที่ยวเสร็จก็ได้มาส่งเด็กชายให้กับผู้ปกครอง ก่อนที่จะผู้ปกครองจะไปส่งเด็กชายไปโรงเรียนตามปกติ และได้นำโทรศัพท์มือถือของเด็กชายมาดูและพบว่าข้อความที่มีการพูดคุยกับครูที่พาไปเที่ยวในเชิงทำนองที่ว่าคุณครูขอดูของลับเด็กชาย และชักชวนกระทำอนาจารเด็กอีกด้วย

ล่าสุดทางผู้ปกครองและทีมมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้นำเด็กชายมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีพนักงานสอบสวนได้พูดคุยกับเด็กชายและแม่ของเด็กอย่างละเอียด

ทางแม่ของเด็กชายได้เล่าเหตุการณ์เริ่มต้นกับผู้สื่อข่าวกับว่า ลูกชายได้ขอแม่ว่าไปเล่นน้ำตกโดยจะมีครูมารับ แม่ก็อนุญาตให้ไป โดยวันที่ 4 มกราคม 2568 ครูก็ได้มารับลูกแม่ไปที่ตลาด ซึ่งแม่ก็กำลังขายของ ซึ่งครูได้บอกกับแม่ว่าจะพาลูกแม่ไปเที่ยว และเมื่อเวลาใกล้ 1 ทุ่ม ครูก็ได้มาส่งลูกแม่ แต่แม่รู้สึกว่าลูกมีอาการผิดปกติเพราะถามอะไรก็ไม่ค่อยยอมตอบ จนวันถัดมา แม่ก็ได้ไปส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติ และแม่ได้นำมือถือของลูกมาดูด้วยความที่อยากรู้ว่าไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง แต่กลับพบบทสนทยาในข้อความระหว่างลูกชายและครูที่มารับในเชิงทำนองที่ครูคนดังกล่าวจะชักชวนลูกของแม่ไปทำอนาจาร

เมื่อแม่ทราบเรื่องแล้วก็ได้ไปที่โรงเรียน และขอพบ ผอ. แต่กลับไม่เจอและได้ฝากเรื่องไว้กับเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนที่ติดต่อ จนเวลาผ่านไปแม่เริ่มไม่ไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายและได้ตัดสินใจแชทในกลุ่มของโรงเรียน จนมีคุณครูได้โทรมาหาว่าแม่ว่า คุณแม่ไม่สมควรทำแบบนี้ และได้ลบข้อความของคุณแม่ออกไปจากแชทกลุ่ม ซึ่งแม่ขณะนั้นได้ปรึกษากับญาติและตัดสินใจแจ้งความที่ สภ.เมืองยะลาไว้ก่อน และได้แค่ลงบันทึกประจำวัน ซึ่งสาเหตุที่แจ้งความที่จังหวัดยะลา เพราะขณะนั้นแม่ทำธุระที่จังหวัดยะลาพอดี

ผ่านมาประมาณ 2 เดือน ตั้งแต่เกิดเรื่อง ทาง ผอ.โรงเรียนได้ขอพบคุณแม่ และพยายามพูดเกลี่ยกล่อมบอกกับแม่ว่าครูคนดังกล่าวฐานะไม่ดี และปัญหาครอบครัว และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้ และได้ทำโทษไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเด็กนักเรียนให้ย้ายไปอยู่ห้องเอกสาร ไม่ให้เอาเรื่อง แต่แม่ไม่ยอมและพูดว่าตอนนี้ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจจัดการต่อไป และในขณะที่แม่กำลังจะเดินขึ้นรถกลับบ้าน ได้มีครูคนหนึ่งวิ่งมาเอาซองขาวใส่ในกระเป๋าของตน และกลับถึงบ้านตนเปิดซองออกพบเป็นเงิน 3 พันบาท

หลังจากนั้นผ่านไปเจ้าหน้าที่ได้นำหมายไปแจ้งกับครูคนดังกล่าว เพื่อรับทราบ โดยแม่ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ถ้าครูคนดังกล่าวจะขอไกล่เกลี่ย แม่ขอเรียกเงิน 2 แสนบาท แล้วจบ ถ้าไม่ยอมจะดำเนินให้ถึงที่สุด หลังจากนั้นได้มีคนมาหาแม่ที่บ้านเป็นอดีตกำนันในพื้นที่ และพูดกับแม่ว่า 2 แสนบาทมันมากไป เอาเงินไปใช้สบายๆ เลย เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ทำไงได้ ทางแม่บอกไปว่าไม่ยอม

จนผ่านไป 2 วัน ทางอดีตกำนันได้ไปที่บ้านพ่อของแม่และให้เงิน 5 พันบาท เพื่อจบเรื่องนี้ และอดีตกำนันบอกกับทางพ่อว่าให้มาคุยกับแม่ให้จบเรื่องนี้ แล้วอ้างว่าแม่ไปเรียกเงินครู 2 แสนบาท สาเหตุมาจากเด็กชายติดเกมและไปขอเงินครู แต่ครูไม่ให้ แม่ก็เลยไปแจ้งความ โดยอดีตกำนันได้เล่าว่าพ่อของตนไว้อย่างนั้น ทางพ่อเมื่อรู้ก็ได้โทรไปต่อว่าแม่และน้องว่าทำไมไปทำอย่างนั้น โดยที่พ่อไม่ทราบความจริงที่เกิดขึ้น

ล่าสุดวันนี้ แม่ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิเป็นหนึ่ง และ พมจ.ปัตตานี ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดำเนินการแจ้งความเพิ่มกับทาง สภ.เมืองปัตตานี ซึ่งก่อนหน้านี้ไปแจ้งความแล้วกับ สภ.เมืองยะลา และเจ้าหน้าที่ก็ได้พาเด็กชายไปดูแลโดยมีนักจิตบำบัดคอบดูแลตลอดเวลา เพราะขณะนี้เด็กชายยังมีอาการที่ไม่กล้าพูดคุยกับใคร และมีอาการกังวลอยู่ ซึ่งลูกชายได้บอกกับแม่อยู่ตลอดเวลาว่าไม่อยากไปโรงเรียน

แม่ได้บอกเพิ่มเติมว่าตอนนี้ลูกชายได้จบชั้น ป.6 แล้วและไม่ขอเรียนต่อที่เดิม ส่วนทางคุณครูคนดังกล่าวทราบว่าไม่ได้ทำการสอนที่โรงเรียนแล้วหลังจากเรื่องดังขึ้น แม่ยืนยันว่าจะขอเอาความกับครูคนนี้ให้ถึงที่สุด ไม่ให้ไปกับเรื่องแบบนี้กับลูกใครอีก ส่วนทางอดีตกำนันก็ยังโทรติดต่อแม่มาตลอด แต่ทางแม่เลือกที่จะไม่รับสาย

น.ส.ณภัชกมล สังข์แก้ว อาสาสมัครมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยว่า ในประเด็นเกี่ยวกับการอนาจารเด็กซึ่งเกิดจากครูที่เป็นผู้ชายที่ทำอนาจารน้องผู้ชายอายุ 12 ปี ตนในนามมูลนิธิเป็นหนึ่งจึงได้รับ และเรียนกับพี่ต้นอ้อ และพี่เขาให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าที่โรงเรียนอื่นๆ ยังมีกรณีอีกหรือไม่ เราจึงมาดูแลกรณีนี้

การดำเนินการวันนี้ เบื้องต้นได้พาแม่และเด็กชายผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำอนาจารเด็ก ซึ่งวันนี้ทาง พม.มีความเป็นห่วงเด็ก จึงได้รับเด็กพาไปดูแลก่อนเพื่อทำการขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

จากการที่รับฟังข้อเท็จจริงที่น้องเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟัง ซึ่งมีมูลในการทำความผิดจริง โดยไปรับน้องมาจากที่บ้าน และพามาที่โรงเรียนให้น้องใช้มือช่วย เสร็จกิจแล้วจึงพาน้องและเพื่อนน้องอีก 2 คนไปเที่ยวน้ำตก ซึ่งครูคนนี้ทำอย่างอื่นกับเด็กอีกหรือไม่ ตนก็ยังไม่ได้ถามรายละเอียดลงลึก เพราะน้องอยู่สภาวะวิตกกังวล และหวาดระแวง จึงต้องให้เป็นหน้าที่ของนักจิตวิทยาต่อไป

สำหรับประเด็นในเรื่อง ถ้าหากมาแจ้งความที่นี่คดีจะเงียบ ซึ่งวันนี้เราได้คุยกับผู้บังคับบัญชาแล้วและไม่มีความจริงแต่อย่างใด เพราะการดำเนินคดีก็ต้องมีขั้นมีตอน ซึ่งที่แม่ไปแจ้งความที่จังหวัดยะลานั้น แจ้งเกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ ที่ครูทักข้อความมาหาเด็กพูดในเรื่องที่ไม่เหมาะ จึงแจ้งความที่ยะลาทันที เพราะแม่เห็นข้อความที่บ้านตอนที่แม่อยู่ที่จ.ยะลา แต่ในส่วนของการทำอนาจารเหตุเกิดที่จ.ปัตตานี จึงได้เข้าแจ้งความ ซึ่งทางผู้กำกับ และ รองผู้กำกับได้ดูแลคดีนี้เป็นอย่างดี และประสานงานมาโดยตรง

เรื่องนี้จะเอาให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง เราก็ไม่ทราบว่าความรุนแรง การทำอนาจาร หรือเรื่องเกี่ยวกับเด็กและสตรียังจะมีแบบนี้อยู่อีกหรือไม่ ส่วนรายอื่น ๆ ที่เกิดเหตุในโรงเรียนเดียวกัน ตนได้ประสานงานอยู่ เบื้องต้นได้มา 2 คน เป็นศิษย์เก่า และยืนยันว่าเป็นผู้กระทำผิดคนเดิม มีพฤติกรรมเดิมซ้ำซาก พอเรื่องแดงขึ้น ก็จะมีซองสีขาวมาเคลียร์ หรือให้ผู้มีอำนาจในพื้นที่มาช่วยคุย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...