โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สาวผวา! ถูกโซเฟอร์หื่น ลวนลาม ดมแขนลูบขา ซ้ำขังไม่ให้ลงจากรถ

BRIGHTTV.CO.TH

อัพเดต 11 มี.ค. เวลา 10.09 น. • เผยแพร่ 11 มี.ค. เวลา 03.09 น. • Bright Today

ผวา! สาวโร่แจ้งความ หลังถูกโซเฟอร์หื่น ลวนลาม ดมแขน-ลูบขา ขังไม่ให้ลงจากรถ เหตุเพราะปักหมุดผิด โทรกลับไปไม่สำนึก ลั่นไม่ยอมความแน่

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ปัณณภัสร์ โชคสินสิทธานนท์ ได้ออกมาโพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมข้อความระบุว่า น้องสาวนั่งรถมาหาที่บ้าน เรียกคนขับรถแอปนึง น้องปักหมุดผิด จุดที่จะลงห่างจากหมุดเพียง 3 นาที น้องยินดีจะจ่ายเพิ่ม ค่ารถ 167 ระหว่างขับไปจุดที่จะลงคนขับขอเก็บเพิ่ม 109 เท่ากับ 276 น้องบอกคนขับว่าให้ได้แค่ 200 ก่อนหน้านั้นคนขับพูดจาน้ำเสียงแย่มากๆพอถึงจุดที่จะลงมันก็ทำตามคลิป ในคลิปน้องใจเสียแล้วพยายามพูดปกติเพราะมันเอื้อมมาดึงข้อมือน้องเอาไว้อีกมือมันจับขา ก่อนจะจบคลิปมันดึงมือน้องไปดมไล่จากข้อมือมาแขน น้องก็ด่าตามคลิป

น้องถึงบ้านรีบให้ดูคลิป ร้องไห้เพราะตกใจ เรารีบเอามือถือโทรหามัน มันรับสายบอกว่าแค่ล้อเล่น เรายืนยันจะแจ้งความมันก็โทรมาร้องไห้ขอร้องให้ออกไปทำร้ายร่างกายมันแทนที่จะแจ้งความ เราไม่แน่ใจว่ามันไปทำแบบนี้กับใครมั้ย ถ้าคนที่ไม่กล้าพูดมันจะทำไม่ดีกว่านี้รึเปล่า มันน่ากลัวมากๆ

image

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.55 น. วันที่ 10 มี.ค. 68 นางสาววีรวรรณ ผู้โดยสารสาว อายุ 22 ปี พร้อมพี่สาวเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อดำเนินคดีกับคนขับแท็กซี่โบลท์ โดยนางสาววีรวรรณ เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 7 โมงเช้า ตนเองได้เรียกรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทฬ 2266 กรุงเทพมหานคร ผ่านทางแอปพลิเคชั่นโบลท์ ไปรับตนที่ซอยสุขุมวิท 26 ไปส่งที่ซอยสุขสวัสดิ์ 35/1 เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 35/1 ซึ่งตอนที่โทรเรียกตอนแรกคนขับก็พูดจาไม่ค่อยดี หลังจากที่เขามารับแล้ว ระหว่างทางคนขับรถได้จอดรถ เนื่องจากตนปักหมุดในแผนที่ปลายทางผิด

จากนั้นจึงได้มีการพูดคุยกัน โดยค่ารถ 167 บาท คนขับบอกขอตนจ่ายเพิ่ม 109 บาท ซึ่งตนบอกว่าเยอะไปมั้ย คนขับจึงบอกว่า “โอเคงั้นไม่เป็นไร งั้นขอยืมโทรศัพท์ดูหมุดหน่อย“ ตนก็ยื่นโทรศัพท์ให้ดู พอถึงหน้าบ้านตนจึงขอโทรศัพท์คืน จากนั้นคนขับได้ปิดโทรศัพท์และใช้มือข้างซ้ายมาจับแขนของตน ด้วยความตกใจจึงร้อง “เฮ้ย” แล้วถามว่า “พี่ทำหนูทำไมขอโทรศัพท์คืนได้มั้ย”

image

จากนั้นคนขับก็เอนตัวมาหาตนพูดว่า “น้องรู้ไหมน้องไม่ใช่คนสวยนะแต่น้องเป็นคนน่ารัก“ ตนก็พยายามขอโทรศัพท์คืน เขาก็พูดเล่นลักษณะเชิงชู้สาวใส่ ซึ่งตนก็พยายามพูดใจดีสู้เสือแล้วรีบคว้าโทรศัพท์คืนมา จากนั้นคนขับก็ใช้มือมาจับที่ขาของตน ตนจึงบอกว่า “หนูขอกลับบ้านได้ไหม“ เพราะคนขับจับมือตนแน่นมาก และล็อครถไว้ ตนเองก็พยายามพูดดีกับเขาบอก “ขอกลับบ้านได้ไหม” คนขับตอบว่า “เออ! พี่ขอโทษนะพี่พูดจาไม่ดี“ ตนจึงตอบกลับกลับไปว่า “ถ้าพี่รับผู้โดยสารคนอื่นพูดจาให้ดีดีกว่านี้หน่อย เพราะพูดจาไม่ดีตั้งแต่รับโทรศัพท์ครั้งแรกตอนยังไม่เจอเลย“

จากนั้นคนขับรถได้จับมือตนพูดจาเชิงชู้สาวอีกและจะไม่ให้ตนลงจากรถ ตนก็พยายามขอกลับบ้าน จากนั้นคนขับได้หอมมือของตน ซึ่งตนเองก็สะบัดมือออกไม่ได้เพราะเขาจับแน่นมาก ระหว่างที่คนขับหอมมือ ตนจึงด่ากลับว่า “ไอ้เหี้ย” แล้วรีบลงจากรถ เพราะตอนนั้นตนบอกกับคนขับว่าหากไม่เปิดประตูจะเรียกคนมาช่วยนะ ซึ่งท่าทีของเขาก็เหมือนไม่รู้สึกผิดอะไร ยอมรับขณะนั้นตกใจมากและร้องไห้ ก่อนจะส่งคลิปให้พี่สาวดู

image

จากนั้นพี่สาวโมโหได้โทรไปคุยกับคนขับรถ เขาก็ยังไม่รู้สึกผิด พี่สาวบอกจะแจ้งความ คนขับรถก็ร้องไห้ปล่อยโฮไม่ให้แจ้งความได้ไหม เอาใครมาตบหน้าเขาก็ได้เพราะมีลูกต้องดูแล ก่อนที่วันนี้พี่สาวจะพามาพบพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่ยอมความแน่ ๆ

อยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงที่ต้องขึ้นรถสาธารณะคนเดียว แต่งกายให้มิดชิดหรือมีเสื้อคลุม ยอมรับว่าวันเกิดเหตุตนเองใส่กางเกงขาสั้น อย่างไรก็ตามจะให้ทางโบลท์ และกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการกับคนขับรถที่มีพฤติกรรมลักษณะแบบนี้ เพราะไม่ปลอดภัยกับผู้โดยสารมันอันตรายไม่ต้องมาขับรถอีก เพราะไม่รู้ว่าเขาจะไปทำกับใครอีก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...