โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

’มาริษ‘ หารือ JC ร่วม รมว.กต.อินโดฯ ยกระดับความร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

The Reporters

อัพเดต 03 พ.ค. เวลา 09.39 น. • เผยแพร่ 03 พ.ค. เวลา 09.39 น.

’มาริษ‘ หารือ JC ร่วม รมว.กต.อินโดฯ พร้อมยกระดับความร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน - จับมือรักษาเสถียรภาพอาเซียน

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวร่วมในการประชุมคณะกรรมการร่วม หรือ JC ครั้งที่ 10 ระหว่างประเทศไทย และอินโดนีเซีย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินโดนีเซียว่า การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะตรงกับการครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย และอินโดนีเซียในปีนี้ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ได้หารือกันอย่างครอบคลุมในหลากหลายหัวข้อ ทั้งการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ระหว่างประเทศไทย และอินโดนีเซียให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เพื่อสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของหุ้นส่วนของเรา โดยเฉพาะความร่วมมือทางการเมือง และความมั่นคง ที่จะเพิ่มความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ ยาเสพติด และการค้ามนุษย์ ทั้งระหว่าง 2 ประเทศ และระดับอาเซียน พร้อมยังตกลงที่จะเพิ่มความร่วมมือระหว่างหน่วยงานความมั่นคง เพื่อจัดการกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงแบบเก่า และรูปแบบใหม่ ตลอดจนสำรวจความร่วมมือในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และจะทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และเพิ่มการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงทวิภาคี

นอกจากนั้น ประเทศไทย ยังมุ่งหวังที่จะได้ต้อนรับการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ของประธานาธิบดีอินโดนีเซียเร็ว ๆ นี้ และจะส่งเสริมการหารือระหว่างผู้นำของเราอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงตกลงที่จะจัดการประชุมคณะกรรมการการค้าร่วมครั้งที่ 1 ในประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น

นายมาริษ ยังเปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมฯ ยังมุ่งหวังเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานการลงทุน เพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการลงทุนแบบสองทาง และจะเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารผ่านการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและการประมงที่ยั่งยืน ปรับปรุงมาตรฐานของอุตสาหกรรมฮาลาล หรือ ระบบนิเวศฮาลาล และยังจะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และสำรวจการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ และเรือยอทช์ในฐานะพื้นที่ใหม่ของความร่วมมือ พร้อมเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ-เมดาน โดยสายการบินไลอ้อนแอร์ในปีนี้ และสนับสนุนให้มีเส้นทางบินระหว่างจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพของประเทศของเราเพิ่มขึ้น

ส่วนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาคและระดับนานาชาตินั้น นายมาริษ ย้ำว่า ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันในการรักษาเอกภาพของอาเซียน และส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียนท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจระดับโลก ไทยและอินโดนีเซียซึ่งเป็นสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จะร่วมมือกันผลักดันการบูรณาการทางเศรษฐกิจของอาเซียนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและเสริมสร้างความสามารถในการรับมือของภูมิภาคต่อแรงกระแทกภายนอก

ในส่วนของเมียนมานั้น นายมาริษ เปิดเผยว่า ไทยและอินโดนีเซีย ตกลงที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยนำสันติภาพ และเสถียรภาพกลับคืนสู่เมียนมา โดยอาเซียนมีบทบาทนำ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค พร้อมยังชื่นชมบทบาทของอาเซียน ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างรวดเร็วแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเมียนมา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...