6 หน่วยงาน ออกมาร่วมกันผลักดันมาตรการจัดการ บัญชีม้านิติบุคคล ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเข้มข้นตั้งแต่การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล การติดตามพฤติกรรมและตรวจจับนิติบุคคลที่มีความเสี่ยง โดย พฤติกรรมบัญชีม้าพบมีการว่าจ้างสูง 1.5 แสนบ.ให้ดำเนินการตั้งแต่จัดหาตัวละคร ตั้งนิติบุคคลปลอมเพื่อเปิดบัญชีและโอนไปบัญชีคริปโทเคอเรนซีให้ด้วย
14 มีนาคม 2568 นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) กล่าวว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่ขึ้นว่ามีความเสี่ยงเปิดบัญชีผิดกฎหมายขณะนี้พบ 70,000 รายชื่อ โดยกลุ่มบุคคลนี้มีบัญชีมากกว่า 1 บัญชี รวมแล้วมี 700,000 บัญชี ทั้งส่วนนิติบุคคลและบุคคล สำหรับนิติบุคคล ที่กำหนดให้เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง 4-5 นิติบุคคล แต่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผลการจับกุม ข้อมูล 3 เดือนที่ผ่านมา (ธ.ค.67-ก.พ.68) รวม 23 จุด กระจายทั่วประเทศ มี 190 บริษัท บางส่วนมีการยื่นดำเนินคดี และบางส่วนกำลังรวบรวมข้อมูล เพื่อตรวจสอบว่าเป็นบริษัทที่เปิดไว้ทำธุรกรรมลักษณะใด
พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยว่า เป้าหมายคือการแยกบัญชีม้านิติบุคคลออกจากบัญชีนิติบุคคลทั่วไปที่ประกอบธุรกิจตามปกติ เมื่อเห็นว่าแนวโน้มของบัญชีม้านิติบุคคลจะเพิ่มขึ้นก็ได้แจ้งข้อมูลไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่เคยเปลี่ยนจากระบบกระดาษไปสู่ระบบออนไลน์
แต่ตอนนี้บางส่วนต้องถอยกลับไปใช้กระดาษ เช่น เอกสารบันทึกความยินยอมเจ้าของสถานที่ที่ใช้ในการจัดตั้งนิติบุคคล และเมื่อได้รายชื่อที่แยกแยะแล้วว่ารายใดเป็นม้านิติบุคคลจะส่งรายชื่อไปยังสถาบันการเงินเพื่อให้ระงับหรือปิดบัญชีม้านิติบุคคลเพื่อป้องกันและปราบปรามให้เกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด
สำหรับพฤติกรรมการจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อเปิดบัญชีม้านิติบุคคลนั้น เริ่มจากนายทุนที่จะจัดหาบัญชีม้านิติบุคคล จะเข้าหานายหน้าที่แต่เดิมเป็นบุคคลธรรมการได้ยกระดับเป็นนิติบุคคล ในรูปแบบสำนักงานทนายความ หรือ บริษัทรับจัดทำบัญชี โดยว่าจ้างให้นายหน้า จัดหาตัวละครเพื่อมาจัดตั้งนิติบุคคล ทั้งกรรมการ ผู้ถือหุ้น และ พยาน หลังจากนั้นนำไปเปิดบัญชีกับธนาคาร และนำบัญชีนิติบุคคลมาใช้
เมื่อถอดพฤติกรรมทั้งหมด ก็พบว่าข้อสังเกตบัญชี นิติบุคคลที่มีแนวโน้มที่จะเป็นบัญชีมา พบว่า
- การก่อการจัดตั้งนิติบุคคล พบว่าส่วนใหญ่กรรมการของนิติบุคคลเป็นบุคคลที่ซ้ำกัน เมื่อดูในเชิงลึก เช่น ความสามารถของบุคคล จะพบว่าส่วนใหญ่ ไม่มีความสามารถในการประกอบกิจการ บางรายอาจมีข้อมูลอาชญากรรม บางรายอาจมีสถานะเป็นเพียงแค่ลูกจ้างบริษัท
- การจัดตั้งนิติบุคคล ไม่ได้ทำตามขั้นตอน ที่นายทะเบียนเขากำหนดไว้ อย่างเช่นไม่มี การเรียกประชุมเพื่อก่อการจัดตั้งบริษัท
- นอกจากนั้นพบว่าที่ตั้งของนิติบุคคลที่เป็นบัญชีม้าจะมีลักษณะซ้ำกัน เช่นที่พบในภูเก็ตว่า มีบริษัทรับทำบัญชีหน้าเดิมๆ จัดตั้งนิติบุคคลถึงร้อยกว่าบริษัท โดยใช้บุคคลชุดเดียวกัน ใช้สถานที่ตั้งแห่งเดียวกัน
- และยังพบว่า นิติบุคคลที่ใช้บัญชีม้า มีระยะเวลาการจัดตั้งบุคคลไม่เกินหนึ่งปี
“โดยค่าจ้างในการดำเนินการจัดหา ก็พบว่าอยู่ในอัตราประมาณ 100,000 ถึง 150,000 บาท โดยประมาณ โดยจะรวมทั้งการรับจ้างการจดทะเบียนนิติบุคคล รับจ้างเปิดบัญชี หาบุคคลที่มาเป็นกรรมการ หาบุคคลที่มาจดทะเบียนจัดตั้งก่อการบริษัท รวมทั้งให้บริการเกี่ยวกับการโอนเงินไปคริปโตเคอเรนซีด้วย โดยโทษของความผิดนี้ หากเป็นผู้รับจ้างธรรมดามีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนผู้จัดการมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท”
ด้าน นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบปัญหานิติบุคคล และได้ออกคำสั่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เมื่อบุคคลซึ่งมีรายชื่ออยู่ในบัญชี HR-03 ของ ปปง. มาขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลและแจ้งชื่อเป็น หุ้นส่วนผู้จัดการ/กรรมการบริษัท จะให้บุคคลดังกล่าวมายืนยันตัวตนต่อหน้านายทะเบียนก่อนรับจดทะเบียนและส่งชื่อนิติบุคคลดังกล่าวให้ศูนย์ AOC ติดตามขยายผล
และเชื่อมข้อมูลบุคคลในบัญชี HR-03 จากศูนย์ AOC ทุกครั้งที่ AOC แจ้งการอัปเดตบัญชีรายชื่อ HR-03 กรมจะตรวจสอบ และหากพบนิติบุคคลที่มีกรรมการหรือ หุ้นส่วนผู้จัดการอยู่ในบัญชี HR-03 จะแจ้งกลับ AOC เพื่อขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่กรมได้ดำเนินการ
- จัดทำระบบตรวจสอบที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคล ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ ป้องกันการแอบอ้างนำที่อยู่ไปใช้จัดตั้งนิติบุคคล
- กรณีกรมฯ ตรวจสอบแล้วพบว่านิติบุคคลนั้นไม่มีที่ตั้งตามที่จดทะเบียนไว้จริง จะดำเนินการหมายเหตุไว้ในระบบจดทะเบียนว่านิติบุคคลดังกล่าว "ไม่มีที่ตั้งตามที่จดทะเบียนไว้ และ ส่งเรื่องต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขยายผลเอาผิดและบังคับใช้กฎหมายกับผู้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อไป
- ร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตรวจสอบและยืนยันการมีอยู่ของสถานที่ตั้งของนิติบุคคลตามที่ผู้ขอจดทะเบียนได้ระบุไว้เพื่อให้สามารถตรวจสอบที่ตั้งของบริษัทได้อย่างชัดเจน ช่วยแก้ไข ปัญหาการแอบอ้างใช้ที่อยู่ของบุคคลอื่นเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของนิติบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์
- อยู่ระหว่างพัฒนาระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคล [Intelligence Business Analytic System : IBAS] ระบบสามารถประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลนิติบุคคล งบการเงิน และ ผู้ถือหุ้น เพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่มีนัยสำคัญมีความผิดปกติเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมธุรกิจให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย
- ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์ AOC สำนักงาน ปปง. และสมาคมธนาคารไทย หารือและวางมาตรการร่วมกันในการเชื่อมโยงข้อมูลและตรวจสอบนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงเพื่อ
แก้ปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายขยายผลเอาผิดและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด - ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง ว่าในการดำเนิน ธุรกรรมใด ๆ กับนิติบุคคล ควรตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนและ ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของนิติบุคคล เช่น ข้อมูลงบการเงิน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความน่าเชื่อถือและผลประกอบการก่อนตัดสินใจ ทำธุรกรรมหรือโอนเงินให้แก่นิติบุคคลนั้น
สำหรับธุรกรรมการเงินของบัญชีม้านิติบุคคลนั้น นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. เผยว่า หาเป็นนิติบุคคลที่ปปง. ประกาศว่าเป็นม้าดำ จะทำธุรกรรมการเงินไม่ได้ คือ เงินเข้าไม่ได้ เงินออกไม่ได้ทุกช่องทาง เปิดใหม่ไม่ได้ สมัครบริการอื่นเพิ่มไม่ได้ ส่วนผู้ที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลม้าอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อกันไม่ใช่ทำธุรกรรมการเงินได้