DSI เตรียมตั้งคณะทำงานดูความเห็นแย้งหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง 2 บอสดิไอคอน

ดีเอสไอ 9 ม.ค.-อธิบดีดีเอสไอเตรียมตั้งคณะทำงานดูความเห็นแย้ง หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง 2 บอสดิไอคอน ไม่หวั่นทนายดิไอคอนจะยกกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องบอสทั้งสองมาต่อสู้คดีให้กับอีก 16 บอส ยันเป็นสิทธิที่ทำได้

พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีที่อัยการคดีพิเศษ สั่งไม่ฟ้องนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแซม และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมีน ทุกข้อกล่าวหาในคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป และจะส่งสำนวนพร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้องมาที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่นั้น ว่า ยังเร็วไปที่จะตอบได้ว่าจะเห็นแย้งหรือไม่แย้ง ก่อนอื่นต้องบอกว่าเป็นหลักการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมตามปกติ โดยเป็นอำนาจหน้าที่แต่ละหน่วยงานเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ถึงเวลาท่านมีคำสั่งไม่ฟ้องมา ตามกฎหมายจะให้ส่งกลับมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยอธิบดีดีเอสไอจะมีหน้าที่ทำความเห็นแย้งหรือไม่แย้ง ซึ่งถ้าทำความเห็นแย้ง เรื่องจะต้องถูกส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาด แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ และถึงแม้จะทราบหรือเสนอมาก็ยังตอบไม่ได้ ต้องดูในเนื้อหาเหตุผลต่างที่ออกคำสั่งไม่ฟ้องมา คาดว่าเอกสารจากอัยการจะถึงดีเอสไอตามปกติก็ 3-5 วัน จากนั้นดีเอสไอก็จะพิจารณาใน 30 วัน ว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่ หากไม่แล้วเสร็จก็ขยายระยะเวลาได้ แต่เรื่องนี้ต้องทำด้วยความรวดเร็ว

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญประชาชนให้ความสนใจ ก็จะต้องตั้งคณะทำงานขึ้นอีกชุดแยกจากชุดเดิมเพื่อทำความเห็น อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้ดีเอสไอไม่สามารถสั่งให้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้แล้ว ต้องถือว่าการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้แล้ว

ต่อกรณี สคบ.สั่งเพิกถอนทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงของบริษัทดิไอคอน กรุ๊ปแล้ว จะมีผลอย่างไรหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ไม่มีผลในคดีอาญา คดีอาญาพยานหลักฐานที่ดีเอสไอรวบรวมไปก็จะใช้พิสูจน์ความผิดตามข้อกล่าวหาเพียงแต่การเพิกถอนจะมีผลในการสนับสนุนว่าเขาประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือฝ่าฝืนกฎหมายขายตรง

ส่วนที่ทนายของดิไอคอน เปิดเผยว่าจะยกกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องบอสแซมและบอสมีน มาต่อสู้คดีให้กับอีก 16 บอสนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ต้องหาและในกระบวนการยุติธรรมก็เปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยสู้คดีอย่างเต็มที่เป็นหลักการทั่วไป เขาสามารถหยิบยกหรือนำพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหา แต่ในชั้นนี้ ดีเอสไอไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานอะไรเพิ่มเติมได้แล้ว

สำหรับคดีของบริษัทดิไอคอนฯ ยังมีคดีฟอกเงิน ที่ดีเอสไอสอบสวนอยู่ โดยอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงกรณีผู้เกี่ยวข้องลอตสอง และคดีฟอกเงิน ไม่ได้หยุดต้องทำต่อ.-119-สำนักข่าวไทย