โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

บิ๊กประมงขานรับฤดูปิดอ่าว ห่วงช่องโหว่อนุญาตให้ 'อวนจม' จับพ่อแม่พันธุ์ในฤดูวางไข่ หวั่นปลาทูสูญพันธุ์

MATICHON ONLINE

อัพเดต 14 มิ.ย. 2563 เวลา 09.40 น. • เผยแพร่ 14 มิ.ย. 2563 เวลา 09.40 น.

บิ๊กประมงขานรับฤดูปิดอ่าว ห่วงช่องโหว่อนุญาตให้ ‘อวนจม’ จับพ่อแม่พันธุ์ในฤดูวางไข่ หวั่นปลาทูสูญพันธุ์

เมือวันที่ 14 มิถุนายน นายมงคล เจริญสุขคณา อดีตประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ในฐานะนายกสมาคมประมงสมุทรสงคราม, นายกสมาคมเรือลากคู่สมุทรสงคราม เปิดเผยกรณีที่กรมประมง ประกาศปิดอ่าวไทยตอนบน(อ่าวรูปตัว ก.ไก่) ตั้งแต่ จ.ชลบุรี ถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห้ามจับปลาในฤดูวางไข่ สองช่วงคือระหว่าง 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม และ 30 สองหาคม – 30 กันยายน เพราะให้สัตว์ทะเลวางไข่ และได้เจริญพันธุ์เต็มวัยโดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ว่า ทางสมาคมประมงสมุทรสงคราม และสมาคมท้องถิ่นต่างๆ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ในการปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ เนื่องจากภาคประมงได้การผลักดันให้มีการปิดอ่าวมาตั้งแต่ปี 2553-2555 จนประสบความสำเร็จ เริ่มปิดอ่าว ห้ามเครื่องมือทุกชนิดทำประมงในฤดูวางไข่ และในช่วงปี 2556 – 2557 ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำโดยเฉพาะปลาทู ในอ่าว กอ.ไก่ เพิ่มขึ้นมากมาย มีปลาทูเข้ามานับล้านๆกิโลกรัม ห้องเย็นทุกแห่งเต็มหมด

นายมงคลกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามยังเห็นช่องโหว่ในการบังคับปิดอ่าว คือระยะหลัง กรมประมงได้ผ่อนผันอนุญาตให้เครื่องมือบางชนิดที่จับพ่อแม่พันธุ์สามารถทำการประมงในฤดูปลาวางไข่ได้ คือ “อวนติดตา” เนื่องจากกรมประมงคิดว่าเป็นเครื่องมือประสิทธิภาพต่ำ แต่ปัจจุบันชาวประมงพัฒนาเครื่องมือชนิดนี้จากอวนลอยซึ่งจะจับปลาได้แต่ผิวน้ำ เปลี่ยนเป็นอวนจม ซึ่งจะจมถึงพื้นทะเล เข้าจับปลาในฤดูวางไข่ และพื้นที่อนุรักษ์ได้ ทำให้เกิดปัญหามาถึงทุกวันนี้ เพราะฤดูปลาวางไข่ ปลากำลังว่ายเข้าวางไข่ ปลาที่มีไข่เต็มท้องจะหนักจมถึงพื้นทะเลก็ไม่รอดถูกจับหมด ประกอบกับชาวประมงจะใช้อวนจมเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต เป็น 10 -100 เท่า เช่น ได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ลำละไม่เกิน 2,000-2,500 เมตร แต่ชาวประมงลักลอบ นำเครื่องมืออวนจม ออกไปวางยาวถึง 10,000 – 20,000 เมตร จนทำให้ มีการดักจับพ่อแม่พันธุ์ ปลาทูไปก่อน ที่จะได้วางไข่ไปก่อนจนเกือบหมด เลยทำให้เป็นการตัดวงจรชีวิต ปลาทูทำให้ไม่มีโอกาส ได้ขยายพันธ์

“ทางสมาคมประมง พยายามผลักดันและไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของกรมประมง ที่ยังอนุญาตปล่อยให้ในการใช้เครื่องมือจากพ่อแม่พันธุ์ในการทำประมงในฤดูปลาวางไข่ เพราะเป็นการตัดวงจรของชีวิตสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาทู เพราะหากเรือประมงจับปลาทู 1,000 ลำ ลำละ 200 กิโลกรัม จะเป็นพ่อแม่ปลาทู 2,400,000 ตัว ปลาทูเหล่านี้ตัวหนึ่งจะมีไข่ 200,000 ฟอง ก็เท่ากับเรากินลูกปลาทูเข้าไปด้วยถึง 4 แสนล้านตัว ในทางกลับกัน หากปลาทูที่มีไข่เต็มท้องเหล่านี้ ได้รอดออกไปวางไข่เสียก่อน จะทำให้มีปลาทูเต็มท้องทะเลแน่นอน อยากจะฝากไปยังกรมประมงคำนึงถึงทรัพยากรเป็นตัวตั้ง ต้องห้ามเครื่องมือทุกชนิดจับปลาในฤดูวางไข่ จะทำให้ประสบความสำเร็จที่แน่นอนและยั่งยืนของพี่น้องชาวประมงทั้งประเทศ”นายมงคล กล่าว

นายมงคลกล่าวต่อว่า สมาคมประมง ไม่ได้ห้ามเครื่องมืออวนลอย แต่อยากให้กรมประมงห้าม เครื่องมืออวนจม ที่จับพ่อแม่พันธุ์ จึงฝากกรมประมงให้พิจารณาด้วย เพราะสมาคมประมงผลักดันมาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ หากกรมประมงมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา ขอให้ห้ามเครื่องมืออวนจม แต่เปลี่ยนเป็นอวนลอย ชาวประมงก็ไม่เดือดร้อน แต่หากกรมประมงทำไม่ได้ปลาทูก็จะสูญพันธ์ เพราะถูกจับมาก่อนที่จะวางไข่ ก็ฝากด้วยสมาคมประมงพยายามพลักดันมาโดยตลอด ไม่ใช่ว่าทรัพยากรไม่ฟื้นก็มาลงที่ประมงพาณิชย์พาณิชย์ ซึ่งข้อเท็จจริงพาณิชย์ตั้งใจและผลักดันรักษาทรัพยากร เพราะว่าเป็นอาชีพที่ต้องการสร้างความยั่งยืน การทำประมงต้องลงทุนมากคงไม่ต้องการให้ทรัพยากรหมดอย่างรวดเร็ว ขอให้เปลี่ยนวิธีคิดด้วยว่าชาวประมงพาณิชย์ไม่ได้ใช้เครื่องมือทำลายล้างอย่างที่กล่าวหา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...