น้ำผึ้งได้ถูกนำมาใช้เป็นสารให้ความหวานและสารกันบูดมาตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แต่มีใครรู้บ้างว่าสารให้ความหวานนั้นดีต่อสุขภาพอย่างไร? ขณะที่เรารู้ว่าการบำบัดด้วยความหวานนั้นดีต่อจิตวิญญาณ และน้ำผึ้งมีผลในเชิงบวกต่อร่างกายมนุษย์อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเราอาจไม่เคยรู้มาก่อนจนกระทั่งนำมารับประทานคู่กับวาฟเฟิลในตอนเช้า
และนี่คือ 10 คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งที่ดีต่อสุขภาพและร่างกาย
1. น้ำผึ้งคือแหล่งวิตามินและแร่ธาตุ
น้ำผึ้งอัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ 3 ชนิดอย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงเป็นแหล่งวิตามินซีซึ่งมีประโยชน์หลากหลายต่อร่างกาย อีกทั้งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งเสริมสร้างกระดูก ปิดท้ายด้วยธาตุเหล็กซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบไหลเวียนโลหิต
2. ช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดง
การดื่มน้ำผสมน้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มการผลิตเม็ดเลือดแดงในร่างกาย เพิ่มปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือด สามารถกำจัดแบคทีเรีย และยังช่วยเพิ่มระดับพลังงานทำให้การเต้นแอโรบิกกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย เมื่อร่างกายของคนเราได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม จิตใจและอารมณ์ก็จะรับรู้ได้ด้วยเช่นกัน
3. น้ำตาลทางเลือก
น้ำผึ้งประกอบไปด้วยน้ำตาล แต่น้ำตาลในน้ำผึ้งจะแตกต่างจากน้ำตาลทรายขาวที่เรามักนำมาใส่กาแฟในตอนเช้า น้ำผึ้งแท้จะประกอบไปด้วยน้ำตาลแท้ ส่วนสารประกอบอื่นๆที่พบได้ในน้ำผึ้งได้แก่ เดกซ์ทริน ที่สำคัญน้ำตาลธรรมชาติที่พบในน้ำผึ้งจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด
4. มีประโยชน์ทางการแพทย์มากมาย
น้ำผึ้งมีสรรพคุณในการต้านเชื้อแบคทีเรียและนำมาใช้เป็นยาฆ่าเชื้อได้ด้วย ในการทดสอบด้วยการนำน้ำผึ้งบริสุทธิ์ไปใช้รักษาแผลเปื่อยและบาดแผลที่ขา ปรากฏว่าประสบความสำเร็จถึงร้อยละ 99 นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้ออีโคไลและเชื้อแซมโมเนลล่าซึ่งพบได้ในเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุกได้อย่างหมดสิ้น และยังใช้รักษาโรคปอด เช่น น้ำมูกและหอบหืด ได้ด้วย
5. น้ำผึ้งเป็นพรีไบโอติค
อย่าสับสนกับโปรไบโอติค เช่น โยเกิร์ตที่มีส่วนประกอบของจุลินทรีย์ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร อย่างไรก็ตามพรีไบโอติคเป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณของแบคทีเรียที่ดีในร่างกาย
6. ปรับสภาพผิว
น้ำผึ้งสามารถบรรเทาโรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบและรังแค นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการคัน ตกสะเก็ด และผมหลุดร่วงได้อีกด้วย
7. แก้ไอ
น้ำผึ้งจะช่วยบรรเทาอาการหวัดคัดจมูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก น้ำเชื่อมในน้ำผึ้งที่มีความเหนียวข้นจะเคลือบภายในช่องปากและลำคอทำให้อาการระคายเคืองลดลง รวมถึงป้องกันบริเวณที่ติดเชื้อไม่ให้ลุกลามต่อไป การใช้น้ำผึ้งเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอจะได้ผลดีในขณะที่นอนหลับ
8. ลดอาการภูมิแพ้
น้ำผึ้งที่ทำจากดอกไม้ในท้องถิ่นจะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้ไม่ต่างจากการฉีดวัคซีน ร่างกายจะคุ้นเคยกับสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้และสร้างภูมิคุ้มกันทางเคมี ปฏิกิริยาที่เกิดจากการแพ้ก็จะรุนแรงน้อยลง
9. เพิ่มพลังงาน
นักกีฬาจะรับประทานน้ำผึ้ง 1 ช้อนเมื่อพวกเขารู้สึกง่วงนอนหรือเวียนหัว เนื่องจากน้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงเช่นเดียวกับออกซิเจน แน่นอนว่าระดับอ็อกซิเจนสูงก็หมายถึงระดับพลังงานที่สูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ความเหนียวข้นของน้ำผึ้งยังมีประโยชน์กับนักกีฬาที่ต้องใช้พลังงานในระยะยาวอย่างเช่นการวิ่งมาราธอน
10. กำจัดโรคมะเร็ง
น้ำผึ้งประกอบไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าน้ำผึ้งสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นถึงผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ที่สูบบุหรี่และผู้หญิง
