โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

'แอชลี่ห์ บาร์ตี้' มือ 1 โลกที่หมดไฟ ก่อนวัยอันควร

MATICHON ONLINE

อัพเดต 23 มี.ค. 2565 เวลา 10.42 น. • เผยแพร่ 24 มี.ค. 2565 เวลา 01.00 น.

‘แอชลี่ห์ บาร์ตี้’ มือ 1 โลกที่หมดไฟ ก่อนวัยอันควร

แอชลี่ห์ บาร์ตี้ นักเทนนิสมือ 1 ของโลก ชาวออสเตรเลีย วัย 25 ปี ประกาศเลิกเล่นเทนนิสอาชีพ ผ่านวิดีโอบนอินสตาแกรมส่วนตัว หลังเพิ่งคว้าแชมป์แกรนด์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่น มาหมาดๆ เมื่อต้นปีที่ผ่าน ทำให้ใครหลายคนต่างประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เจ้าตัวประกาศอำลาวงการตั้งแต่อายุยังน้อย

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บาร์ตี้หันหลังให้กับกีฬาเทนนิส ก่อนหน้านี้ในปี 2011 นักหวดชาวออสซี่ คว้าแชมป์เทนนิสรายการ วิมเบิลดัน จูเนียร์ ด้วยวัยเพียง 15 ปี แต่ก็ไปเล่นคริกเก็ตหลังจากเป็นแชมป์ได้ 3 ปี โดยให้เหตุผลเอาไว้ว่า มันเร็วเกินไปที่จะเดินทางแข่งขันในทัวร์ตั้งแต่อายุยังน้อย อยากมีช่วงเวลาเหมือนกับเด็กสาววัยรุ่นธรรมดา และมีประสบการณ์ทั่วไปเหมือนคนอื่นๆ

เป็นระยะเวลากว่า 21 เดือนระหว่างปี 2014-2016 ที่นักหวดสาวชาวออสซี่หันไปเล่นกีฬาคริกเก็ต ก่อนจะกลับมาหวดลูกสักหลาดอีกครั้งในปี 2016 ตลอดการเล่นเทนนิส 5 ปี นักเทนนิสชาวออสซี่รายนี้ทำสถิติชนะ 188 แมตช์ แพ้ 56 แมตช์ คิดเป็นอัตราการชนะ 77 เปอร์เซ็นต์ เป็นรองเพียง เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ที่มีอัตราชนะอยู่ที่ 78.2 เปอร์เซ็นต์ ที่ทำผลงาน ชนะ 79 แมตช์ แพ้ 22 แมตช์

หากรวมสถิติทั้งหมดในการลงเล่นเทนนิสนับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2010 บาร์ตี้เก็บชัยชนะได้ 305 แมตช์ แพ้ 102 แมตช์ ในประเภทหญิงเดี่ยว คิดเป็นอัตราชนะ 74.9 เปอร์เซ็นต์ และเก็บชัย 200 แมตช์ แพ้ 64 แมตช์ ในประเภทหญิงคู่ อัตราชนะอยู่ที่ 75.7 เปอร์เซ็นต์

บาร์ตี้ประเดิมคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกของตัวเองด้วยแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น ในปี 2019 ส่งให้เธอขึ้นไปครองมือ 1 ของโลก กลายเป็นนักเทนนิสสาวชาวออสเตรเลียคนแรกที่ทำได้ นับตั้งแต่ อีวอนน์ กูลากอง คอว์ลีย์ ตำนานสักหลาดของออสเตรเลียที่ทำได้เมื่อปี 1971 นอกจากนั้นยังสานต่อด้วยแชมป์ วิมเบิลดัน ในปี 2021 เป็นนักเทนนิสชาวออสเตรเลียที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้ในรอบ 41 ปี ก่อนที่จะคว้าแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น ปีล่าสุด เป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี ที่นักหวดออสซี่ได้แชมป์รายการใหญ่ในบ้านตัวเอง ต่อจากคริส โอนีลล์

นักหวดสาวชาวออสซี่รายนี้คว้าแชมป์ประเภทเดี่ยวของ ดับเบิลยูทีเอ มาทั้งหมด 15 รายการ ส่วนแชมป์ประเภทคู่คว้ามาได้ 12 รายการ และเป็นเวลามากกว่า 2 ปี ที่บาร์ตี้ขึ้นครองตำแหน่งมือ 1 ของโลก จนกระทั่งเลิกเล่น และเป็นติดต่อกันยาวถึง 114 สัปดาห์

นอกจากนั้นบาร์ตี้ยังทิ้งผลงานการเป็นนักเทนนิสสาวลำดับที่ 4 ในที่ครองมือหนึ่งยาวนานที่สุดประวัติศาสตร์ต่อจาก สเตฟฟี่ กราฟ ตำนานสักหลาดชาวเยอรมัน และเซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ที่ทำได้เท่ากัน 186 สัปดาห์ รวมทั้ง มาร์ติน่า นาฟราติโลว่า ตำนานสักหลาดชาวอเมริกันเชื้อสายเชกโกสโลวาเกีย 156 สัปดาห์

ส่วนผลงานล่าสุดของเจ้าตัว เพิ่งจะคว้าชัย 25 จาก 26 นัดที่ลงทำการแข่งขัน และคว้าแชมป์ได้ 3 จาก 4 รายการหลังสุดที่ลงทำการแข่งขัน แม้ว่าจะไม่ได้ลงเล่นรายการไหนเลยตั้งแต่คว้าแชมป์ ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อต้นปี

ด้านอีวอนน์ กูลากอง คอว์ลีย์ ก็ได้ออกมาเผยว่า “สนับสนุนบาร์ตี้มากสำหรับการทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุข รอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นบทบาทอะไรก็ตามที่เป็นความฝันของเธอ”

“ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่กีฬาเทนนิสได้มอบให้ ทั้งความภาคภูมิใจ และเติมเต็มความฝัน ขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนมาตลอด รู้สึกซาบซึ้งเสมอสำหรับความทรงจำตลอดชีวิตที่สร้างร่วมกันมา มันยากที่จะกล่าว แต่ว่าตอนนี้รู้สึกไม่มีแรงขับเคลื่อนทั้งสภาพจิตใจ และสิ่งที่ท้าทายตัวเองในระดับสูงอีกต่อไป หลังจากนี้คงจะไปไล่ล่าตามความฝันอื่นๆ” บาร์ตี้กล่าวทั้งน้ำตา 

ก่อนหน้านี้นักเทนนิสที่เคยเป็นมือหนึ่งของโลก แล้วประกาศเลิกเล่นนั่นก็คือ ฌุสติน เอแน็ง นักเทนนิสหญิงชาวเบลเยียม เมื่อปี 2008 แต่ก็ตัดสินใจกลับมาแข่งอีกรอบในปี 2010 และเลิกเล่นอีกครั้งในปี 2011

ยังไม่มีใครรู้ว่าความฝัน และสิ่งที่บาร์ตี้บาร์ตี้จะทำต่อหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่แฟนๆ จะได้เห็นบาร์ตี้กลับมาสร้างเซอร์ไพรส์บนคอร์ตเทนนิสอีกครั้งในอนาคต เพราะด้วยวัยเพียง 25 ปี ถือว่ายังมีเวลาที่จะกลับมาสู่การเป็นนักหวดอาชีพได้

เพราะบางครั้งความคิดถึงก็ร้ายกาจเกินจะต้านทาน

 

 

 

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...