โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

3 ปี ไทยพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ได้แล้ว 21 สายพันธุ์ ‘จุรินทร์’ มั่นใจหนุนส่งออกเพิ่ม

The Bangkok Insight

อัพเดต 21 มิ.ย. 2566 เวลา 09.05 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. 2566 เวลา 09.05 น. • The Bangkok Insight

"จุรินทร์" เผย 3 ปี ไทยพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ได้แล้ว 21 สายพันธุ์ มั่นใจความหลากหลายของข้าว จะช่วยให้ไทยส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้น คาดปีนี้ทะลุ 8 ล้านตัน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ได้มอบรางวัลการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ ครั้งที่ 2 ที่กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563-67 ที่ต้องการแก้จุดอ่อน คือ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ข้าวที่เสนอขายในตลาดโลก

พัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่

ดังนั้น จึงได้เร่งเพิ่มพันธุ์ข้าวชนิดใหม่ เพื่อแข่งขันตลาดข้าวโลกกับประเทศคู่แข่ง ตั้งเป้า 5 ปี พัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่อย่างน้อย 12 พันธุ์ เป็นข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์ ข้าวพื้นนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวหอม 2 พันธุ์ และข้าวโภชนาการสูง 2 พันธุ์

ผลจากความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วน ทำให้สามารถปรับปรุงพัฒนาพันธุ์ข้าว ได้ข้าวพันธุ์ใหม่เกินเป้าหมาย โดยช่วงปี 2563-65 กรมการข้าวปรับปรุงข้าวพันธุ์ใหม่และรับรองพันธุ์สำเร็จแล้ว 12 พันธุ์

ขณะที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จัดประกวดพันธุ์ข้าวชนิดใหม่ ทำมา 2 ปี ครั้งแรก ปี 2564 ได้ข้าวพันธุ์ใหม่ 6 สายพันธุ์ มีการรับรองพันธุ์ทดลองปลูกในแปลง ปีนี้เป็นปีที่ 2 ได้ข้าวพันธุ์ใหม่เพิ่มมาอีก 3 พันธุ์ ตั้งแต่ปี 2563-65 วันนี้ทะลุเป้าแล้ว หากรวมกับของกรมการข้าว อีก 12 พันธุ์ รวมทำข้าวพันธุ์ใหม่ได้แล้ว 21 พันธุ์

นอกจากนี้ ยังขอให้กรมการข้าว เร่งรัดการจดทะเบียนข้าวพันธุ์ใหม่ จากการตัดสินการประกวดโดยเร็ว เร่งผลิตเมล็ดพันธุ์ ทดลองปลูกในแปลงเกษตรกร นำผลผลิตไปเปิดตลาดข้าวโลก

ผมหวังว่าการส่งออกข้าวไทยจากนี้จะดีขึ้น ไทยจะมีผลิตภัณฑ์จากข้าวที่มีความหลากหลายขายตลาดโลกมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การส่งออกข้าวไทย ปี 2565 ไทยส่งออกข้าวได้ 7.7 ล้านตัน ปีนี้เชื่อว่าทะลุ 8 ล้านตัน และคาดว่าปี 2566 ไทยจะกลับมาผงาดเป็นลำดับที่ 2 โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ค่าเงินบาทอ่อนค่ากว่าปีก่อน ทำให้ข้าวไทยแข่งขันได้ดีขึ้น ความต้องการข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ไทยยังมีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการของตลาดได้มากขึ้น และหวังว่าในอนาคต ภายใต้ภายใต้ยุทธศาสตร์ข้าวที่ทำให้ไทยมีพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ จำนวนมาก ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด ไทยจะกลับมาเป็นแชมป์ส่งออกข้าวได้

ส่วนพันธุ์ข้าวที่ชนะการประกวดข้าวพันธุ์ใหม่เพื่อการพาณิชย์ในปีนี้ เป็นของ บริษัทรวมใจพัฒนาความรู้ จำกัด (มูลนิธิรวมใจพัฒนา) ทั้ง 3 รางวัล ได้แก่

1. รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวหอมไทย ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-06

2. รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวขาวพื้นนุ่ม ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-08

3. รางวัลชนะเลิศ ประเภทข้าวขาวพื้นแข็ง ได้แก่ ข้าวพันธุ์ 65RJ-13

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 4 ล้านตัน จากช่วงเดียวกันของปี 2565 ที่ส่งออกได้ 3.51 ล้านตัน และทั้งปี 2566 น่าจะได้มากกว่า 8 ล้านตัน

ขณะนี้ทั่วโลกกังวลปัญหาภัยแล้งจากปรากฎการณ์เอลนีโญ จึงเร่งนำเข้า และช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เวียดนาม จะมีข้าวเหลือส่งออกไม่มากนัก เพราะช่วงครึ่งปีแรกส่งออกไปแล้วกว่า 4 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าปกติ

อีกทั้งราคาข้าวไทยขณะนี้แข่งขันได้ เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยราคาข้าว น่าจะสูงขึ้นได้อีก จากปัจจุบันข้าวขาว 5% ไทยตันละ 500 เหรียญสหรัฐ เวียดนาม 510 เหรียญสหรัฐ อินเดีย 480 เหรียญสหรัฐ และแม้เอลนีโญ จะกระทบต่อผลผลิตข้าวไทย แต่เชื่อว่า ไทยจะมีข้าวเหลือส่งออกแน่นอน

สมาคมฯ ยังได้ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ เดินทางไปพบปะเจรจากับผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดไทย ทั้งฮ่องกง จีน และฟิลิปปินส์

ส่วนการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีน ที่ทำสัญญาซื้อไทย 1 ล้าน และยังเหลือที่จะต้องซื้ออีก 280,000 ตันนั้น จากการหารือกับคอฟโก รัฐวิสากิจของจีนที่นำเข้าข้าว ได้รับการยืนยันจะซื้อจากไทยให้ครบตามสัญญา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...