ฝันสำเร็จหลังเกษียณ “เกี้ยง” นักเขียนวัย 63 ปี ตั้งเป้าแต่งนิยายวันละ 1 ตอน จนมีผลงานมาแล้วกว่า 5 เรื่อง! | The Chosen EP. 38 kiang
ฝันสำเร็จหลังเกษียณ
“เกี้ยง” นักเขียนวัย 63 ปี ตั้งเป้าแต่งนิยายวันละ 1 ตอน
จนมีผลงานมาแล้วกว่า 5 เรื่อง!
The Chosen EP. 38 kiang
ไม่มีคำว่า “สายเกินไป” บนเส้นทางนักเขียน ใครที่ฝันอยากเขียนนิยายแต่ยังไม่มีโอกาสได้ลงมือทำสักที ชวนมาอ่านเรื่องราวดีๆ จาก “เกี้ยง” นักเขียนวัยเกษียณ ที่ใช้เวลาว่างมาแต่งนิยายตามฝันจนสำเร็จกัน!
เกี้ยงหรือนักเขียนนามปากกา kiangเจ้าของผลงานสุดฮิตเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีขอร้ายสักครั้งและ อี่ฝานนางร้ายเปลี่ยนชะตาเธอเป็นนักเขียนมือใหม่วัยเกษียณที่เพิ่งเริ่มต้นเขียนนิยายได้ไม่นาน ก่อนหน้านี้ เกี้ยงเคยทำงานเป็นอาจารย์พิเศษสอนบัญชีมาก่อน พอเลิกทำงานแล้วมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวทำให้เธอรู้สึกว่างและเหงามากๆ เลยเข้าเว็บไซต์ Dek-D ไปอ่านนิยาย อ่านกระทู้ต่างๆ รวมถึงอ่านบทความสัมภาษณ์นักเขียนหลากหลายอาชีพ จนเธอเกิดแรงบันดาลใจ อยากลองเขียนนิยายตามความฝันของตัวเองดูบ้าง
แต่กว่าที่เกี้ยงจะได้ลงมือเขียนนิยายจริงๆ ก็ใช้เวลาตัดสินใจนานเกือบปี โชคดีที่ลูกสาวของเธอสนับสนุนเส้นทางนี้ด้วย ทำให้เธอมีกำลังใจมาลองเขียนนิยายเรื่องแรกลงบนเว็บ Dek-Dได้สำเร็จ และนับตั้งแต่นั้นมา เกี้ยงก็ได้เขียนนิยายทุกวัน จนตอนนี้มีผลงานนิยายที่เผยแพร่อยู่ถึง 5 เรื่อง รวมแล้วกว่า 500 ตอน
ปัจจุบัน เกี้ยงในวัย 63 ปี เล่าถึงชีวิตหลังมาเขียนนิยายออนไลน์ว่า การเขียนนิยายทำให้เธอได้เจองานที่ใช่ ทำแล้วมีความสุข ช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณมีความหมายขึ้น ทั้งยังมีรายได้นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และช่วยค่ารักษาพยาบาลได้อีกด้วย
พบปะพูดคุยในวันนี้จึงอยากชวนทุกคนมาเดินทางตามหาความฝัน ไปพร้อมๆ กับนักเขียนวัยเกษียณคนนี้ เชื่อว่าเรื่องราวของเธอจะทำให้ทุกคนกล้าลงมือทำฝันให้เป็นจริงกันมากขึ้น
ได้เวลาขึ้นเวทีแสดงความฝันหลังเกษียณ
สวัสดีค่ะ เกี้ยงนะคะ นามปากกา kiangเป็นชื่อเล่นของตัวเองเลยค่ะ เราเรียนจบบัญชีมา สมัยก่อนเคยทำงานหลักทรัพย์ เคยเป็นอาจารย์พิเศษสอนบัญชี แต่ตอนนี้เป็นแม่บ้านว่างงานหลังเกษียณค่ะ
การเขียนนิยายเป็นความฝันค่ะส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะหนังสือเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ ไม่เป็นพิษเป็นภัย เหงาก็หยิบมาอ่าน ทำให้เรามีความสุขจากจินตนาการ บางครั้งก็คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกของเรื่อง สนุกดีค่ะ
ช่วงโควิดที่ผ่านมา เหงามาก อยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย เวลาว่างก็เลยจะเข้าไปอ่านนิยายในเด็กดี อ่านกระทู้ต่างๆ รวมถึงบทสัมภาษณ์นักเขียนที่มีอาชีพประจำแต่รักในการเขียนด้วย เช่น แม่บ้านไทยในฮ่องกงพนักงานไรเดอร์
หลังจากอ่านบทสัมภาษณ์ของนักเขียนคนอื่นๆ ที่มีหลากหลายอาชีพ ก็ไปเจอมาว่า ขอแค่เรามีความฝัน และความตั้งใจ เราก็สามารถเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือได้เขาบอกอย่างนั้นค่ะ เป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเราอยากลุกขึ้นมาทดลองเขียนนิยายเลย หลังจากท้อแท้จากการเกษียณไม่มีงานทำ
ตอนนั้น เรามีความคิดว่าอยากจะลองเขียนนิยายจริงๆ แต่ก็ใช้เวลาตั้งหลักเป็นปี สุดท้ายก็มาเริ่มลงมือเขียนช่วงเดือนมีนาคมปี 2565 และเขียนเรื่อยมาช่วงแรกอาจติดขัดเรื่องภาษาแต่โชคดี ที่นักอ่านคอยติชมและแนะนำ จนมีกำลังใจมาถึงวันนี้ อยากขอบคุณนักอ่านที่น่ารักทุกคน ที่รับ ‘kiang’ เข้าสู่อ้อมอกอ้อมใจ และอยากขอบคุณเด็กดี ที่เป็นเวทีให้เราได้แสดงความฝันค่ะ
เกือบสะดุด เพราะ…
เจอคอมเมนต์แรงๆ ตั้งแต่เรื่องแรก
การเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างยากทั้งนั้นค่ะ แต่เมื่อเราก้าวผ่านพ้นทุกสิ่งจะง่ายและมีความสุขที่ได้ทำ การเริ่มเขียนครั้งแรกถือว่าฟีดแบ็กดีมาก และดีใจมากค่ะ
นิยายเรื่องแรกของเราคือ เฉิงเชียวผู้กลับมาเกิดใหม่เขียนคู่กับ จ้าวหม่านหม่านครอบครัวหมื่นหยวนยุค 70 ตอนเขียนแรกๆ ใช้ภาษาไม่ดีเลยเป็นภาษาแชทยุคปัจจุบัน เจอคอมเมนต์มาว่าเยอะ เรื่องสำนวนภาษาบ้าง เนื้อเรื่องบ้าง ส่วนใหญ่ก็ภาษาที่ใช้ สำนวนห้วนๆ และเนื้อเรื่องไม่สมเหตุสมผล และติดสำนวนภาษาใต้
เราเป็นคนใต้ บางครั้งก็ขำตัวเอง แยกไม่ออกระหว่างภาษากรุงเทพกับภาษาใต้ ขนาดเรียนกรุงเทพ และทำงานอยู่กรุงเทพเกือบ 10 ปีนะ ในนิยายยังหลุดภาษาใต้ออกมาให้นักอ่านทักเลย ปัจจุบันก็ยังติดภาษาใต้ ก็พยายามแก้ไข ส่วนคอมเมนต์ก็ถือว่าเป็นครู ตัวเราก็จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง คนอ่านรักเราเขาเลยเตือนเหมือนครูบาอาจารย์ที่ดุเรา
เราไม่โกรธ ไม่รู้สึกท้อค่ะ เพราะเขาพูดความจริง จึงรับได้ทุกอย่าง ถ้าเขายังวิจารณ์เรา ก็หมายถึงเขายังติดตามผลงานเราอยู่แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมีคนวิจารณ์ ขอให้เรายอมรับและเข้มแข็งก็พอ
แต่งนิยายมาแล้ว 5 เรื่อง
ได้ไอเดียมาจากเรื่องใกล้ตัวทั้งนั้น
ส่วนตัวเราชอบอ่านนิยายแปล และชอบแบบย้อนอดีตได้ ครั้งแรกที่อ่านแนวนี้คือนิยายไทยทวิภพ ต่อมาก็นิยายจีน และชอบมาตลอด แรงบันดาลใจของเราเลยมาจากนิยายเหล่านี้ นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น เตี่ยมักเล่าชีวิตวัยเด็กที่อยู่เมืองจีน แม่ก็ชอบเล่าชีวิตลำบากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่อาก๋งเสียชีวิตเลยเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้
ตอนนี้แต่งมาแล้ว 5 เรื่องค่ะ ชอบทุกเรื่องที่แต่ง แต่ชอบเรื่อง อี่ฝานนางร้ายเปลี่ยนชะตามากที่สุด เพราะในเรื่องได้สอดแทรกชีวิตในวัยเด็กของเราไว้ เช่น ตื่นนอนตอนเช้าจะต้องช่วยพ่อแม่ทำงานก่อนไปโรงเรียน แล้วสมัยเด็กเราใส่ชุดนักเรียนนอนเลยเพราะกลัวไปโรงเรียนไม่ทัน สรุปก็ต้องถอดอาบน้ำอยู่ดี คิดแล้วขำตัวเอง ตอนเย็นก็ต้องรีบกลับบ้านมาช่วยพ่อแม่ทำงานอีก ส่วนเรื่องที่เขียนอยู่ตอนนี้ เกิดใหม่ทั้งทีขอร้ายสักครั้งเรื่องนี้เกิดจากดูหนังเรื่องบุพเพสันนิวาส 2 เลยมีไอเดียขึ้นมา หลังจากนั้นเราก็วางพล็อตเรื่อง วางบทสรุปไว้ก่อน แล้วค่อยมาขยายความทีหลังค่ะ
จากที่เขียนมาจนถึงตอนนี้ก็ไม่รู้สึกกดดันนะคะ เพราะเรารักที่จะเขียนถ้าคนอ่านหายไปก็หมายถึงเขาไม่ชอบพล็อตเรื่องของเรา เราก็ต้องแก้ไข แต่ฟีดแบ็กดีมาก รักนักอ่านทุกคนนะคะ
ได้ทำตามฝัน
และชีวิตหลังเกษียณมีความหมายขึ้น
เราเป็นแฟนเว็บ Dek-D มาตั้งแต่ยังไม่มีการขายนิยายเลยค่ะ ในเว็บ Dek-D นอกจากนิยาย ก็ยังเป็นไกด์ให้ค้นคว้าหาข้อมูลสมัยลูกสาวสอบเอ็นทรานซ์ด้วย หลังจากนั้นเราก็ห่างหายจาก Dek-D ไปสักพัก กลับมาอีกทีมีนิยายขายแล้ว ลูกเลยยุให้แต่งนิยายขาย เขากลัวแม่สมองเสื่อมถ้าไม่หาอะไรทำหลังเกษียณ
ตอนแรกเราก็ยังไม่ได้คิดจะขายนิยายค่ะ คิดว่าจะปล่อยฟรีและดูกระแสก่อน แต่กลายเป็นว่าเพื่อนๆ ที่เข้าไปอ่านบอกว่า เขียนใช้ได้และให้ลองติดเหรียญแล้วรอดูว่ายังมีคนอ่านหรือเปล่าถ้ามีคนอ่านก็หมายความว่าเป็นนักเขียนได้ เราก็เลยไม่ได้แจ้งนักอ่าน และนักอ่านก็ไม่ได้ท้วง เราจึงเริ่มติดเหรียญเรื่อยมา
ผลตอบรับก็ดีมากค่ะ เราไม่คิดว่าจะมีคนยอมจ่ายเงินอ่านนิยายมากขนาดนี้ ดีใจมากๆ โม้ไปเจ็ดบ้านแปดบ้าน คนรอบข้างต่างชื่นชมที่เรามีอะไรทำ และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจค่ะ ฟีดแบ็กดี ทำให้เรามีกำลังใจเขียนนิยายทุกวันรายได้ส่วนนี้ก็นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และค่ารักษาพยาบาลค่ะ
การเขียนนิยายทำให้เรามีความสุขกับตัวเอง ได้นั่งอ่านคอมเมนต์ และช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณของเรามีความหมายขึ้นมากค่ะ
ตั้งเป้าหมาย
แบ่งเวลามาเขียนนิยายขายฝันกัน!
เป้าหมายของเราตอนนี้คืออยากเป็นนักเขียนที่มอบความสุขตลอดไปค่ะทุกวันนี้ ตั้งเป้าหมายว่าหนึ่งวันต้องเขียนนิยายหนึ่งตอนให้ได้ค่ะ ตื่นเช้าแปดโมงทำงานบ้าน ซักผ้ารีดผ้า ทำอาหาร เที่ยงแต่งนิยาย เย็นแต่งให้จบ สามทุ่มอ่านนิยาย ดูซีรีส์จีนกับเกาหลี เที่ยงคืนตีหนึ่งนอน เสาร์อาทิตย์ออกนอกบ้านเยี่ยมเพื่อนๆ ชวนกินข้าว บ่ายกลับบ้านและแต่งนิยาย วนลูปแบบนี้ค่ะ
ถ้าหากใครมีจินตนาการลุกขึ้นมาเขียนนิยายขายฝันกันเถอะ ตอนเริ่มต้นอาจจะยากสักหน่อยแต่เมื่อมีประสบการณ์ มันจะง่ายสำหรับเราค่ะ เจอคอมเมนต์แย่ๆ ก็ให้คิดว่าเขารักเรา กำลังสอนเรา ตราบใดที่เขายังอ่านนิยายเราอยู่ เขาก็ยังรักเราอยู่เหมือนเดิม
ให้คิดเสมอว่าเราเก่ง เราทำได้และทำสำเร็จ ถ้ายังทำไม่ได้ ก็คิดว่าทำเพื่อเงิน เพื่อเลี้ยงชีพ และเลี้ยงดูครอบครัวก็ได้
และนี่คือเรื่องราวชีวิตของ เกี้ยงนักเขียนวัยเกษียณที่เดินหน้าทำตามฝันของตัวเองจนสำเร็จ เธอพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับความสำเร็จ หากเรากล้าที่จะลงมือทำ
แม้ในตอนแรก เกี้ยงจะกล้าๆ กลัวๆ ใช้เวลาตั้งหลักนานเกือบปีกว่าจะเริ่มลงมือเขียนนิยายแต่เมื่อเธอได้เริ่มทำแล้ว เธอก็ไม่เคยหยุดเขียนอีกเลย จนตอนนี้เธอสามารถสร้างผลงานสุดฮิตขึ้นไปติดท็อปหมวดนิยายสุดโหดอย่างหมวดอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้ทั้งที่เธอยังเป็นเพียงนักเขียนมือใหม่เท่านั้น นอกจากนี้แล้ว การเขียนนิยายยังทำให้นักเขียนวัย 63 ปี ได้เจอกับงานที่ใช่ และค้นพบคุณค่าของตัวเองในวัยเกษียณอีกด้วย
สำหรับพี่แนนนี่เพน เชื่อว่าความสำเร็จของเธอเริ่มตั้งแต่ตัวอักษรแรกที่เธอลงมือเขียนนิยายเลยค่ะ หากใครที่มีฝันอยากเป็นนักเขียน ลองเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการลงมือเขียนนิยายของตัวเองดูสิคะ ไม่แน่ว่าจินตนาการของเรา อาจเป็นเรื่องราวที่นักอ่านหลายคนชื่นชอบ และกำลังรออ่านอยู่ก็ได้ค่ะ ^^
พี่แนนนี่เพน
เริ่มเขียนนิยาย
อ่านนิยายของkiang
- เกิดใหม่ทั้งทีขอร้ายสักครั้ง
- อี่ฝานนางร้ายเปลี่ยนชะตา
- เฉิงเชียวผู้กลับมาเกิดใหม่
- จ้าวหม่านหม่านครอบครัวหมื่นหยวนยุค 70
- ฟางเซียนฟางหลงคู่แฝดไร้ความปรานี