โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สั่งเด้งตำรวจที่ก่อเหตุเข้า ศปก ภ.จว.ประจวบฯ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานส่ง ปชช. ภายใน 30 วัน

77kaoded

เผยแพร่ 11 มิ.ย. 2565 เวลา 12.01 น. • 77 ข่าวเด็ด

รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ กรณีสองสามีภรรยา พร้อมทนายความ ร้องตร.ภ.7 หลังเจอตำรวจสามร้อยยอด ส่องไฟไล่ยิง เข้าใจว่าเป็นต่างด้าวแจ้งความแล้วคดีไม่คืบหน้า ยืนยันคดีความไม่ล่าช้า อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งสำนวนให้ ปปช.ภายใน 30 วัน แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งย้ายจตำรวจที่ก่อเหตุไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดจริงจะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา

จากเหตุการณ์ ทนายความทีมทนายตั้ม นำสองสามีภรรยา นำเอกสารบันทึกประจำวันพร้อมหนังสือร้องขอความเป็นธรรมยื่นต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ระบุถูกจ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด พร้อมพวก ขับรถไล่กวดพร้อมมีเสียงปืนดังขึ้น 6 นัด ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่อำเภอปราณบุรี กลางดึก เหตุเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 30 พ.ค. โดยได้แจ้งความไปแล้วและติดตามคดีแต่ถูกแจ้งว่าไม่สามารถเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบได้ต้องส่งให้ ปปช.ดำเนินการ หวั่นคดีไม่คืบตัดสินในร้องหัวหน้าสูงสุดของหน่วยเพื่อขอความเป็นธรรม

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (วันที่ 11 มิ.ย. 65) ที่ห้องประชุม สภ.ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พันตำรวจเอก วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,พร้อมด้วย พ.ต.อ.พนิช อ่วมสอาด รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์,แถลงข่าวความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.อภิธาน ปานอุทัย ผกก.สภ.ปราณบุรี พ.ต.อ.สาโรจน์ พิมพ์คุณากร ผกก. สภ.สามร้อยยอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลง

พันตำรวจเอกวิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสองพื้นที่คือ สภ.สามร้อยยอด และ สภ.ปราณบุรี หลังเกิดเหตุ โดย พ.ต.อ.อภิธาน ปานอุทัย ผกก.สภ.ปราณบุรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไปแล้วดังนี้

- เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ร.ต.อ.ณัฐพล อาจอ่ำ พงส. ได้นำรถยนต์ตู้ นิสสัน สีเทา หมายเลขทะเบียน ฮธ 1634 กรุงเทพฯ ของนายธนยศฯ มาตรวจพิสูจน์หาร่องรอยพยานหลักฐาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ประจวบฯ ดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นไม่พบร่องรอยกระสุน

ต่อมา วันที่ 3 มิถุนายน 2565 และ 5 มิถุนายน 2565 นายธนยศ ทองมี , น.ส.วาเศรษฐี ส่งเสียง และนายพรชัย นาเครือ มาให้การร้องทุกข์ต่อ พงส. ให้ดำเนินคดีกับ จ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร , ใช้อำนาจโดยมิชอบบังคับให้ผู้อื่นกระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ของผู้ถูกข่มขืนใจ และหน่วงเหนี่ยวกักชังฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำผู้เสียหายทั้ง 3 คนเอาไว้แล้ว

คดีดังกล่าวนั้นเป็นการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ดังนั้นพนักงานสอบสวนจะต้องส่งสำนวนการสอบสวนดังกล่าว ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช. ) เพื่อทำการสอบสวน ภายใน 30 วัน นับแต่วันร้องทุกข์ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 6 , ซึ่ง สภ.ปราณบุรี จะได้เร่งรัดทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นแล้วส่งสำนวนการสอบสวนไปยังคณะกรรมการ ปปช.ภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยเร็วต่อไป

ขณะเดียวกัน วันนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ 188/2565 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2565 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.เจริญ ชนประเสริฐ ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานคณะกรรมการ พร้อมกันนี้ได้มีคำสั่งที่ 189/2565 ลงวันที่ 11มิถุนายน 2565 สั่งการให้ จ.ส.ต.พงษ์พัฒน์ รื่นภิรมย์ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สามร้อยยอด ไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเพื่อความสะดวกในการสอบสวนคดีอาญาและการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ผบ.ตร. , ผบช.ภ.7 และ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ให้ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหากเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป และเร่งรัดให้ทำการสอบสวนและตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นโดยเร็วซึ่งหากมีข้อสงสัยประการใด สามารถสอบถามได้โดยตรงกับ พ.ต.อ.อภิธาน ปานอุทัย ผกก.สภ.ปราณบุรี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...