โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

เคลียร์ 3 ประเด็น ทำหุ้น GULF ร่วงเกินจริง!

The Bangkok Insight

อัพเดต 20 ต.ค. 2566 เวลา 03.53 น. • เผยแพร่ 20 ต.ค. 2566 เวลา 03.33 น. • The Bangkok Insight

เคลียร์ประเด็นร้อน ทำหุ้น GULF ร่วงเกินจริง บล. บัวหลวง เผยเกิดจากความกังวล 3 เรื่อง ที่ตลาดเข้าใจผิดเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า

หุ้น GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงนี้ ด้วยหลายปัจจัยลบที่ตลาดกังวลว่าราคาหุ้นจะถูก Downgrade ทำให้ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น GULF ในรอบ 1 ปี ปรับลดลง 9.28% ในรอบ 6 เดือน ลดลง 18.89% และในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ลดลง 4.35%

นอกจากนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น GULF ก็ยังปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่อง คาดว่าเกิดจากกระแสข่าวการปรับลดคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ต่างชาติ และเป็นรูปแบบของการปรับตัวลดลงตามหุ้นโรงไฟฟ้าทั้งกลุ่ม หลังผลกระทบจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนจากการลงทุนแคบลงมา

อย่างไรก็ดี มุมมองของบล. บัวหลวง ออกมาเปิดเผยรายงานผ่านบทวิเคราะห์ ว่า การที่หุ้น GULF ร่วงเช่นนี้ เกิดจากความกังวล 3 เรื่อง ที่ตลาดเข้าใจผิดเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ การลดค่าไฟ กระบวนการลงนาม PPA พลังงานหมุนเวียนของ กกพ. และ โอกาสที่จำกัดในตลาดไฟฟ้าของประเทศไทย

ทั้งนี้ บล. บัวหลวง จึงอยากจะชี้แจงความจริงทีละประเด็น ดังนี้

1. การลดค่าไฟไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อ ปตท. ช่วยราคาก๊าซ

ตลาดกังวลว่าการปรับลดค่าไฟในเดือนกันยายน-ธันวาคม จาก 4.45 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง เป็น 3.99 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง จะส่งผลลบต่อโรงไฟฟ้า SPP อย่างมีนัยสำคัญ ทว่าการลดค่าไฟจะมาพร้อมกับมาตรการขยายระยะเวลาคืนทุนค่า Ft ให้กับ กฟผ. และ ปตท. ได้กำหนดเพดานราคาก๊าซในช่วงเวลาดังกล่าวให้อยู่ไม่เกิน 305 บาท/ล้าน btu ซึ่งลดลงราว 12% จากเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม

เพราะฉะนั้น เมื่อต้นทุนก๊าซลดลงเร็วเกือบเท่ากับอัตราค่าไฟ จึงช่วยลดผลกระทบต่ออัตรากำไรของโรงไฟฟ้า SPP ได้ ขณะเดียวกัน การขายไฟฟ้าให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมของ GULF มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยต่อรายได้ ทำให้การลดค่าไฟจึงแทบไม่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรบริษัท

2. กกพ. จะยังคงเซ็นสัญญา PPAs อย่างต่อเนื่อง

ข้อพิพาทระหว่าง EA และ กกพ. อาจกระทบต่อการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานลม แต่เราไม่คิดว่าจะกระทบต่อกระบวนการลงนาม PPA กับผู้ที่ชนะโครงการฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ที่พร้อมระบบกักเก็บพลังงาน และโครงการพลังงานขยะ เนื่องจากนโยบายภาครัฐกำลังพยายามที่จะลดคาร์บอนและค่าไฟของโครงการเหล่านี้

อีกทั้ง กกพ. กำหนดกรอบเวลาลงนาม PPA ไว้ 6 เดือนหลังประกาศผลเมื่อเดือนเมษายน ดังนั้น คาดว่า GULF จะเริ่มลงนาม PPA บางฉบับในเร็วๆ นี้ และเมื่อบริษัทประกาศการลงนาม PPA ใหม่ จะส่งผลให้ความกังวลของตลาดคลี่คลายลง

3. โรงไฟฟ้าของไทยยังมีโอกาสอีกมาก

แม้ประเทศไทยจะมีอัตราสำรองไฟที่สูง แต่กำลังการผลิตสำรองส่วนใหญ่ ไม่สามารถใช้งานได้หากเกิดมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ประเด็นนี้ทำให้ตลาดเข้าใจผิดว่า โอกาสของโรงไฟฟ้าในประเทศไทยมีจำกัดแล้ว ทั้งที่ความเป็นจริงยังมีอัพไซด์การเติบโตในกลุ่มพลังงานหมุนเวียนในระยะยาว

นอกจากนี้ กำลังการผลิตไฟฐานประมาณ 10 กิกะวัตต์ จะหมดอายุลงในช่วงปี 2566-2571 และหากมีการนำ EV มาใช้อย่างรวดเร็ว ก็จะทำให้ความต้องการใช้ไฟสูงสุดเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป ประเทศไทยอาจประสบปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงพีค คือ กลางคืนในฤดูร้อน ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่สามารถพึ่งพาพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำได้

แผน PDP ฉบับใหม่ จึงมีแนวโน้มที่จะต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าฐานขนาดใหญ่ภายในปี 2571 และหาก กฟผ. ไม่มีความสามารถในการลงทุนเพียงพอ เนื่องจากภาระอุดหนุนค่าก๊าซจำนวนมาก ก็จะมีโอกาสต่อโรงไฟฟ้า IPP โครงการใหม่นั่นเอง

สุดท้ายนี้ นักวิเคราะห์ บล. บัวหลวง ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น GULF ที่ราคาเป้าหมาย 68.00 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่า GULF จะรายงานกำไรหลักสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3/2566 หนุนจากกำลังการผลิตใหม่ของโรงไฟฟ้า IPP ต้นทุนก๊าซที่ปรับลดลง และกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...