เมืองที่หนาวที่สุดในโลก! มารู้จักกับ Yakutsk เมืองเล็ก ๆ ในรัสเซีย ที่เคยมีอุณหภูมิต่ำถึง -60 องศาเซลเซียส และเมือง Oymyakon ที่เคยมีอุณหภูมิต่ำสุด -71.2 องศาเซลเซียส กับเหตุผลว่า ทำไมพื้นที่เหล่านี้ถึงมีสภาพอากาศสุดโหด!
หากเราพูดถึงสถานที่ที่มีอากาศหนาวมาก ๆ เราเชื่อว่า หลาย ๆ คนน่าจะนึกถึงแอนตาร์กติกาอย่างแน่นอน ซึ่งในปี 1983 สถานี Vostok เคยวัดอุณหภูมิในแอนตาร์กติกาได้ต่ำสุดที่ -89.6 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว! อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ไม่มีใครอาศัยอยู่ในแอนตาร์กติกานอกจากนักวิจัย
แม้ว่าแอนตาร์กติกาจะมีอากาศที่เย็นมาก ๆ แต่หากเราพูดถึงเมือง ที่มีคนอาศัยอยู่จริง ๆ และมีอากาศหนาวที่สุดในโลก เราก็คงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับ Yakutsk เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ภายในเขตสหพันธ์ไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย เมืองนี้มีประชากรอยู่ราว ๆ 336,200 คน ซึ่งพวกเขาเคยเผชิญกับอุณหภูมิต่ำสุดถึง -60 องศาเซลเซียส! (แม้ว่าประชาชนบางส่วนจะบอกว่า เคยมีวันที่หนาวกว่านี้ แต่เทอร์โมมิเตอร์ของพวกเขาสามารถวัดอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึงแค่ -63 องศาเซลเซียส)
นอกจาก Yakutsk แล้ว อีกหนึ่งพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในโลกก็คือ Oymyakon ซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก Yakutsk ประมาณ 928 กิโลเมตร และมีประชากรอยู่เพียงแค่ 500 คนเท่านั้น โดยในปี 1924 พื้นที่ Oymyakon เคยวัดอุณหภูมิต่ำสุดถึง -71.2 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว!
แต่ทำไมพื้นที่เหล่านี้ถึงมีอากาศหนาวเย็นได้ขนาดนี้? Alex DeCaria ศาสตราจารย์ด้านอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า “เขตสหพันธ์ไซบีเรียมีอากาศหนาวเย็น เพราะอยู่ในละติจูดสูง แถมยังมีมวลแผ่นดินขนาดใหญ่” นอกจากนี้ หิมะและน้ำแข็งในไซบีเรีย ยังเป็นตัวช่วยสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์กลับสู่อวกาศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ปัจจัยหลาย ๆ อย่าง มีส่วนทำให้เกิดปรากฏการณ์ Siberian High ในช่วงหน้าหนาว ที่ทำให้เขตไซบีเรียมีอุณหภูมิพื้นผิวที่ต่ำมาก ๆ
“ภูมิประเทศก็มีส่วนเช่นกัน” Jouni Räisänen ผู้เชี่ยวชาญจาก University of Helsinki กล่าวพร้อมอธิบายเสริมว่า “พื้นที่ อย่าง Yakutsk และโดยเฉพาะ Oymyakon นั้น ตั้งอยู่ภายในหุบเขา จึงทำให้อากาศเย็นที่จมตัวลง ถูกกักขังอยู่ในบริเวณนี้”
ที่มา
https://www.livescience.com/what-is-the-coldest-city
https://niwa.co.nz/…/schools/resources/climate/antarctic
ขอบคุณภาพจาก: Road of Bones ใกล้กับ Oymyakon ประเทศรัสเซีย ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ -45 องศาเซลเซียส; Maarten Takens from Emmerich am Rhein, Germany, CC BY-SA 2.0
