โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

‘หลานม่า’ หนังไทยเรื่องแรก เข้ารอบออสการ์ 15 เรื่องสุดท้าย มาทบทวนความประทับใจกันหน่อย มีเรื่องไหนควรได้เข้าชิงบ้าง?

LSA Thailand

อัพเดต 08 ม.ค. เวลา 22.55 น. • เผยแพร่ 10 ม.ค. เวลา 01.30 น. • Lifestyle Asia Thailand
หลานม่า

ใครว่าฝันไกลเกินเอื้อม? ‘หลานม่า’ (How to Make Millions Before Grandma Dies) เพิ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหนังไทยก็มีดีพอจะก้าวขึ้นเวทีระดับโลก! นี่คือภาพยนตร์เรื่องแรกของไทยที่สามารถเข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้ายในสาขาหนังภาษาต่างประเทศ บนเวทีประกาศ รางวัลออสการ์ ในปีนี้

Relate article

หนังเข้าใหม่ น่าดู ประจำเดือนมกราคม 2025

เบื้องหลังความสนุกเม่นสายฟ้า Sonic the Hedgehog 3

คัดมาจากทั้งหมด 85 ประเทศ! แถมยังได้ฉายมาแล้วกว่า 36 ประเทศ ทำเงินทะลุ 2,000 ล้านบาท! ไปแล้ว เรียกว่าทำให้ผู้ชมทั่วโลกทั้งยิ้มและน้ำตาไหลไปพร้อมกันเลยทีเดียว

เรื่องย่อ สุดซาบซึ้งในความเป็น ‘ครอบครัว’

‘หลานม่า’ เล่าเรื่องของ เอ็ม (รับบทโดย บิวกิ้น พุฒิพงศ์) หนุ่มปีสี่ที่ดรอปเรียนเพื่อมาทำตามฝันเป็นเกมแคสเตอร์ แต่ดันล้มเหลวไม่เป็นท่า จนเขามองเห็นเส้นทางเศรษฐีจาก มุ่ย (ตู ต้นตะวัน) ลูกพี่ลูกน้องที่ดูแลอากงจนได้รับมรดกเป็นบ้านหลังใหญ่ เอ็มจึงตัดสินใจดูแล อาม่า (แต๋ว อุษา เสมคำ) หวังคว้าสมบัติหลักล้าน แต่แผนการกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะ อาม่า กับเอ็มที่อายุห่างกันกว่า 50 ปี กลายเป็นคู่กัดที่สร้างเรื่องชวนหัวทุกวัน ทว่าการได้ใช้ชีวิตร่วมกัน กลับทำให้เอ็มเริ่มเข้าใจว่า “ครอบครัว” มีค่ามากกว่าเงิน

หนังที่เริ่มต้นด้วย “เงิน” แต่จบด้วย “หัวใจ”

ตอนแรกที่ดู ‘หลานม่า’ เราคิดว่ามันคงเป็นแค่หนังตลกที่เล่าเรื่องเบา ๆ ว่าด้วยการไล่ล่ามรดกของหลานชายจอมขี้เกียจ แต่พอดูไปเรื่อย ๆ มันกลับเป็นหนังที่ลึกซึ้งกว่าที่คิดมาก ๆ เรื่องราวของเอ็ม (บิวกิ้น พุฒิพงศ์) เด็กหนุ่มปีสี่ที่ดรอปเรียน เพราะคิดว่าอยากรวยทางลัด การมาอยู่ดูแล อาม่า (แต๋ว อุษา เสมคำ) ด้วยความหวังเรื่องมรดก เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เอ็มมองอาม่าเหมือน “ภาระ” ที่ต้องอดทนรับมือ แต่ใครจะคิดว่าช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกลับทำให้เขาเข้าใจคุณค่าของครอบครัวอย่างที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน

จุดเด่นของ ‘หลานม่า’ คือการค่อย ๆ สะกิดอารมณ์ของเราไปทีละนิด หนังเหมือนนักมวยที่ปล่อยหมัดแย็บดูเชิงจนเราเผลอตัวอินไปกับเรื่องราว แล้วก็ปล่อยหมัดฮุคแบบไม่ทันตั้งตัว! ฉากที่ทำให้ผมน้ำตาไหลไม่หยุดคือตอนที่ อาม่าเพ้อถึงอากง และพูดถึงความเหงาที่สะสมมาทั้งชีวิต มันสะเทือนใจมากจนเรานึกถึงคุณยายที่เคยเล่าเรื่องแบบนี้ให้ฟังก่อนที่ท่านจะเสียไป และฉากที่ทุกคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ก็คงจะเป็น ซีนที่เอ็มร้องเพลงกล่อมเด็ก ก่อนอาม่าจะเสีย ซึ่งเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วที่ อาม่า เคยร้องกล่อมเอ็มตอนเล็ก ๆ ฉากนี้ใครไหวไปก่อนเลย นึกขึ้นมาแล้วยังมูฟออนจากห้วงอารมณ์นั้นไม่ได้เลย

Photo Credit: Courtesy of GDH

จากมรดกเป็นล้าน สู่ความรักที่ล้ำค่า

หนังเล่าเรื่องราวชีวิตในครอบครัวไทยเชื้อสายจีนได้สมจริงจนน่าขนลุก ตั้งแต่ความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนห่างเหิน แต่ลึก ๆ แล้วเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยที่ไม่พูดออกมา เช่น อาม่า ที่มักจะบ่นกับเอ็ม แต่ในทุกคำพูดล้วนแฝงไปด้วยความห่วงใยแบบคนรุ่นเก่า หรือ เอ็ม ที่เริ่มต้นด้วยความเห็นแก่ตัว แต่กลับกลายเป็นหลานที่รักและเข้าใจอาม่ามากที่สุดในท้ายที่สุด

นอกจากบทภาพยนตร์ที่เขียนมาอย่างดีเยี่ยมแล้ว การแสดงของนักแสดงนำก็คือหัวใจสำคัญของหนังเรื่องนี้ คุณยาย แต๋ว (อุษา เสมคำ) ในบทอาม่าคือการแสดงที่สมจริงและจับใจที่สุด เธอถ่ายทอดความเหงา ความรัก และความเข้มแข็งของผู้สูงอายุได้จนทำให้เรานึกถึงคนแก่ที่บ้านได้ทันที ส่วน บิวกิ้น พุฒิพงศ์ ในบทเอ็ม ก็แสดงพัฒนาการของตัวละครได้อย่างชัดเจน จากเด็กที่เห็นแก่ตัวมาเป็นหลานที่พร้อมทุ่มเททุกอย่างเพื่ออาม่า และนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ อย่าง ดู๋ สัญญา และ เผือก พงศธร ก็ช่วยเติมเต็มความสมจริงให้กับครอบครัวนี้ได้อย่างลงตัว

หนังไทยที่คู่ควรแก่เวทีโลก

ในเมื่อ ‘หลานม่า’ เปิดทางให้หนังไทยก้าวสู่เวทีระดับโลกแล้ว หนังไทยเรื่องอื่น ๆ ที่เรามองว่ามีศักยภาพไม่แพ้กันก็คือ:

ฉลาดเกมส์โกง (Bad Genius): ความอัจฉริยะของเรื่องที่ลุ้นจนเกร็ง ทุกชาติย่อมอินกับเรื่องการศึกษา

วิมานหนาม (The Paradise of Thorns): หนังชีวิตที่ตีแผ่ความไม่เท่าเทียมในสังคมไทยได้อย่างงดงามและเจ็บปวด

อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home): ซีรีส์สยองขวัญ ไซไฟ สืบสวน ลึกลับ ย้อนเวลา ข้ามไทม์ไลน์ ท่ามกลางความรักของแม่และลูกที่ยิ่งใหญ่

‘หลานม่า’ ไม่ใช่แค่หนังที่สร้างความภูมิใจให้คนไทย แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นเรื่องสากลที่ทุกคนเข้าใจ หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแค่เล่าเรื่องครอบครัวไทยเชื้อสายจีน แต่ยังเชื่อมโยงถึงคนทั่วโลกได้อย่างลึกซึ้ง

เรามาร่วมลุ้นกันในวันที่ 17 มกราคม 2568 ว่าหนังเรื่องนี้จะได้ชื่อเข้าชิง 5 เรื่องสุดท้าย บนเวที รางวัลออสการ์ หรือไม่ และไม่ว่าผลจะเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า “หนังไทยไปไกลได้จริง ๆ “

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia

Main, Hero and Featured images: Courtesy of GDH

Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...