โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คืนนี้! 3 ม.ค.68 เตรียมชมฝนดาวตกควอดรานติดส์ 80 ดวง/ชั่วโมง

อีจัน

อัพเดต 03 ม.ค. เวลา 10.25 น. • เผยแพร่ 03 ม.ค. เวลา 03.21 น. • อีจัน

เตรียมตัวให้พร้อม! หลังเที่ยงคืน 3 ม.ค. – รุ่งเช้า 4 ม.ค.68 มีฝนดาวตกควอดรานติดส์

สำหรับฝนดาวตกควอดรานติดส์ เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า จะเห็นได้หลังเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 02:00 น. เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้าของวันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2568 จะเกิดปรากฏการณ์ “ฝนดาวตกควอดรานติดส์” ศูนย์กลางการกระจายอยู่ระหว่างกลุ่มดาวเฮอร์คิวลีส (Hercules) กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ (Boötes) และกลุ่มดาวมังกร (Draco) เริ่มสังเกตได้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

ปีนี้คาดมีอัตราการตกสูงสุด 80 ดวงต่อชั่วโมง และไร้แสงจันทร์รบกวน จึงเหมาะแก่การสังเกตการณ์ สามารถชมด้วยตาเปล่าได้ทั่วประเทศ แนะนำชมในสถานที่ท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน

ฝนดาวตกควอดรานติดส์คืออะไร?

ปรากฏการณ์นี้เกิดจากโลกโคจรผ่านสายธารเศษอนุภาคของดาวเคราะห์น้อย 2003 EH1 ซึ่งทิ้งไว้ในวงโคจรของระบบสุริยะทุก ๆ 5.5 ปี เมื่อเศษหินและฝุ่นเหล่านั้นเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก จะเกิดการเผาไหม้จนกลายเป็นแสงวาบสวยงาม

ชื่อ “ควอดรานติดส์” มาจากกลุ่มดาว ควอดแดรนส์ มูราลิส (Quadrans Muralis) หรือกลุ่มดาวเครื่องมือเดินเรือ ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้วในแผนที่ดาวปัจจุบัน แต่ตำแหน่งของมันอยู่ใกล้กลุ่มดาวเฮอร์คิวลีส กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ และกลุ่มดาวมังกร

เคล็ดลับการชมฝนดาวตกให้ฟินสุด ๆ

  • เลือกสถานที่เงียบสงบ ห่างไกลแสงไฟ เช่น ทุ่งนา ชายทะเล หรือยอดดอย
  • เตรียมเสื่อหรือเก้าอี้เอนหลังให้นอนสบาย ๆ
  • สวมเสื้อผ้าอุ่น ๆ เพราะอากาศช่วงนี้เย็นมาก

หากพลาดครั้งนี้ต้องรอถึงปีหน้า เพราะฝนดาวตกควอดรานติดส์เป็นปรากฏการณ์ประจำปีที่เกิดในช่วงวันที่ 28 ธันวาคม – 12 มกราคม ของทุกปี แล้วเจอกันใต้แสงดาวนะคะ

นอกจากนี้ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึง 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตามในปี 2568 ไว้ให้ด้วย ดังนี้

1. ดาวอังคารใกล้โลกและ ดาวอังคารอยู่ตรงข้ามดวงอาทิตย์

เปิดศักราชมาด้วย 2 ปรากฏการณ์เกี่ยวกับ ดาวอังคาร ในคืนวันที่ 12 มกราคม 2568 ดาวอังคารจะโคจรมาอยู่ตำแหน่งใกล้โลกที่สุด ระยะห่างประมาณ 96 ล้านกิโลเมตร จากนั้นจะโคจรไปอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์วันที่ 16 มกราคม 2568 ช่วงดังกล่าวสามารถสังเกตการณ์ดาวอังคารได้ตลอดทั้งคืน ปรากฏสว่างเป็นสีส้มแดงบนฟ้า หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายตั้งแต่ 100 เท่าขึ้นไป จะเห็นพื้นน้ำแข็งสีขาวบริเวณขั้วของดาวอังคารได้ ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทุก ๆ ประมาณ 26 เดือน

2. ดาวศุกร์สว่างที่สุด

เกิดขึ้น 2 ครั้งในรอบปีนี้ ครั้งแรกช่วงหัวค่ำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ทางทิศตะวันตก และช่วงรุ่งเช้า วันที่ 24 เมษายน 2568 ทางทิศตะวันออก

3. ดาวเสาร์เสมือนไร้วงแหวน

ช่วงวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2568 ดาวเสาร์จะปรากฏเสมือนไร้วงแหวน เป็นมุมมองจากโลกที่จะเห็นลักษณะนี้ทุก ๆ 15 ปี แต่ช่วงวันดังกล่าวดาวเสาร์อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ จึงขึ้นและตกในเวลากลางวัน ส่งผลให้สังเกตการณ์ได้ยาก ผู้สนใจแนะนำชมช่วงดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปีวันที่ 21 กันยายน 2568

4.ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี

วันที่ 21 กันยายน 2568 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Saturn Opposition) จึงมีระยะใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,279 ล้านกิโลเมตร สังเกตการณ์ได้ตลอดทั้งคืน และแม้ว่าช่วงดังกล่าวจะไม่ปรากฏเสมือนไร้วงแหวน แต่ระนาบวงแหวนยังคงมีมุมเอียงที่น้อย จึงจะเห็นเป็นดาวเสาร์พร้อมวงแหวนบาง ๆ

5.จันทรุปราคาเต็มดวง

ไฮไลต์เด่นที่น่าจับตาที่สุดในปีนี้ เป็นจันทรุปราคาเต็มดวงในไทยที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบสามปี (ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2565) เกิดขึ้นในคืนวันที่ 7 – เช้ามืด 8 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 22:29 น. ถึง 03:55 น. (ตามเวลาประเทศไทย) คราสเต็มดวงเวลาประมาณ 00:31 ถึง 01:53 น. ช่วงดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏเป็นสีแดงอิฐ นาน 1 ชั่วโมง 22 นาที ประเทศไทยมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าตลอดปรากฏการณ์

6. ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้-ไกลโลกที่สุดในรอบปี

ปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี (Micro Full Moon) ตรงกับวันที่ 13 เมษายน 2568 ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏเล็กว่าปกติเล็กน้อย และปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี (Super Full Moon) ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย

7.ฝนดาวตกน่าติดตาม

ฝนดาวตกเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เกิดจากโลกโคจรเข้าตัดผ่านสายธารเศษหินและฝุ่นในอวกาศที่ดาวเคราะน้อยและดาวหางทิ้งไว้ ไฮไลต์เด่นของฝนดาวตกในปี 2568 คือ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” (อัตราการตก 150 ดวงต่อชั่วโมง) คืนวันที่ 14 – 15 ธันวาคม 2568 ปีนีี้ไม่มีแสงจันทร์รบกวน

8. ดาวเคียงเดือนและ ดาวเคราะห์ชุมนุม

ในปี 2568 มีปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน และดาวเคราะห์ชุมนุมให้ชมตลอดทั้งปี ได้แก่ 4 ม.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 18 ม.ค. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวเสาร์ / 1 ก.พ. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 11 เม.ย. 68 ดาวพุธเคียงดาวเสาร์ / 25 เม.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวศุกร์และดาวเสาร์ / 26 เม.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวพุธ / 29 เม.ย. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวเสาร์ / 2 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวพอลลักซ์และคาสเตอร์ (ปรากฏคล้ายพระจันทร์ยิ้ม) / 23 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 24 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวศุกร์ / 1 มิ.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวอังคาร / 12 ส.ค. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี

9. ดวงอาทิตย์ตั้งฉากประเทศไทย

ประเทศไทยมีช่วงที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ 2 ครั้งในรอบปี ครั้งแรกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เริ่มจากภาคใต้ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ กรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 27 เมษายน 2568 และจบที่ภาคเหนือในเดือนพฤษภาคม ส่วนครั้งที่สองอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน โดยเริ่มจากภาคเหนือปลายเดือนกรกฎาคม ไล่ลงไปจนถึงกรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 16 สิงหาคม 2568 และจบที่ภาคใต้ในช่วงเดือนกันยายน ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ (ตั้งฉากกับประเทศไทย) จะแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ สังเกตได้จากเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดีเสมือนไร้เงา

10. ฤดูกาลทางดาราศาสตร์

วันที่กำหนดฤดูกาลต่าง ๆ ของโลกในปี 2568 มีดังนี้

– วันที่ 20 มีนาคม 2568 #วันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืน นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง

– วันที่ 21 มิถุนายน 2568 #วันครีษมายัน (Summer Solstice) ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว

– วันที่ 23 กันยายน 2568 #วันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox) ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนนับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

– วันที่ 21 ธันวาคม 2568 #วันเหมายัน (Winter Solstice) ช่วงเวลากลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน

ใครที่ชอบดาราศาสตร์ตามดูกันได้เลยนะคะ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...