ตัวตนส่วนหนึ่งของ ‘Nat Thaipun’ สาวไทย-ออสซี่ แชมป์ MasterChef Australia 2024 ผู้บำบัดจิตใจด้วยรอยสักมากกว่า 90 ลาย และการได้ทำอาหารไทยที่รัก
เป็นที่ทราบกันแล้วว่า ผู้คว้าแชมป์ MasterChef Australia 2024 คือสาวออสซี่ แนท หรือ ‘Nat Thaipun’ สาวไทยวัย 28 ปี จากรัฐวิกตอเรีย ที่โดดเด่นในการนำวัตถุดิบไทย และเมนูแบบไทยๆ ตั้งแต่ข้าวจี่ ไส้อั่ว ยำส้มโอ น้ำพริกหนุ่ม หมูพะโล้ เมี่ยงค่ำ ลาบ หรือข้าวเหนียวมะม่วง มาสร้างสรรค์ผลงานระหว่างการแข่งขันตามแบบฉบับรสมือของเธอ ที่จับใจกรรมการจนได้รับชัยชนะนี้มาอย่างสมมงสุดๆ
นอกเหนือจากความเก่งกาจของฝีมือการทำอาหารที่เธอมีแพสชันกับมัน และมองว่า “อาหาร ก็เหมือนกับศิลปะ และดนตรี ที่เชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของเราในระดับที่ลึกซึ้ง เราควรจะโอบกอดพวกมัน ในฐานะแรงขับที่เชื่อมโยงพวกเราเข้าด้วยกัน” ตัวตนของแนทยังมีอีกหลายมิติที่เธอเปิดเผยออกมาให้คนได้รู้จักเธอ ตั้งแต่รอยสักมากกว่า 90 ลาย (อาจจะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต) ที่เธอลงเข็มทุกครั้งเมื่อออกเดินทางเพื่อก้าวข้ามผ่านเรื่องราวทางจิตใจ การถูกเลี้ยงดูมาแบบหญิงไทยจ๋าๆ อย่างเข้มงวด แต่เธอกลับเติบโตขึ้นมาโดยเป็นคนที่ยืดหยุ่นมากคนหนึ่ง เธอเป็นสาวที่ชอบเล่นสโนว์บอร์ด สเกตบอร์ด เซิร์ฟ กระโดดร่ม จนถึงมีความซื่อสัตย์เรื่องปัญหาสุขภาพจิต ที่เธอมองว่าเป็นธรรมดามากๆ ที่จะพูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และมีวิธีการรับมือในแบบของเธอ เมื่อการทำอาหาร อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนกิน
ภาพลักษณ์การเป็นสาวมั่นใจ และถูกจดจำได้ง่ายด้วยรอยสักที่ปกคลุมไปในหลายบริเวณทั่วร่างกายของเธอ มีเรื่องราวเบื้องหลัง แนทให้สัมภาษณ์กับ Refinery29 Australia ว่า “ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่าจะมีรอยสักเยอะขนาดนี้ แต่ไอเดียการสักนี้มันฝังอยู่ในวัฒนธรรมดั้งเดิม ฉันว่ามันแทบจะเป็นการได้เชื่อมต่อกับบรรพบุรุษของฉันเลยล่ะค่ะ”
ซึ่งแต่ละรอยสักที่แนทสักลงบนร่างกาย จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เธอผจญภัยในต่างประเทศ เธอเล่าว่า “ฉันเริ่มสักลงบนตัวทุกครั้งที่ฉันเดินทาง ซึ่งฉันสังเกตว่าทุกครั้งที่ฉันออกเดินทางหรือไปเที่ยว มันเป็นเพราะฉันกำลังจะก้าวผ่านบางอย่างทางจิตใจ การสักจึงเป็นการผูกโยงทั้งสองอย่างนี้เข้าไว้ด้วยกัน” นั่นหมายถึงเธอไม่ได้ใช้รอยสักไว้จดจำเฉพาะการเดินทางภายนอก แต่ยังรวมถึงการเดินทางภายในที่เกิดขึ้นอีกด้วย
“(สำหรับคนอื่นๆ) คุณไม่จำเป็นต้องสักเพื่อจะจดจำว่าคุณได้ผ่านประสบการณ์ใดๆ และยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็มูฟออนก็ได้นะคะ แต่นี่เป็นเรื่องราวในการสักของฉันล่ะค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าแนทเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องอารมณ์ความรู้สึกจากประสบการณ์ต่างๆ ที่เธอพบเจอ ในรายการ MasterChef ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แนทพูดถึงความสัมพันธ์ของเธอและแม่ เมื่อเธอปรุงอาหารเพื่อให้เกียรติแม่ของเธอที่เธอถือว่าเป็นผู้หญิงที่ “แข็งแกร่งที่สุดและเป็นคนที่ยืดหยุ่นทางจิตใจที่สุด” ซึ่งแนทก็มีช่วงที่ห่างกับแม่มากๆ แต่ก็ได้คุยกันมากขึ้นในช่วงการแข่งขัน
“ฉันไม่เคยเห็นแม่ภูมิใจในตัวฉันมากๆ แบบนี้เลย ก่อนหน้านี้แม่แทบไม่เคยพูดแบบนี้กับฉัน แม่ไม่ใช่คนที่จะเรียบเรียงมันออกมาเป็นคำพูด แต่ตอนนี้แม่พูดมันออกมาแล้วค่ะ”
ต้องบอกว่าแม้แนทจะโตมาในประเทศออสเตรเลีย แต่คนที่ทำให้เธอซึมซับความชอบทำอาหารไทยก็คือคุณแม่ และคุณยายของเธอ เธอกล่าวกับ Refinery29 Australia ว่า “ฉันถูกเลี้ยงดูมาแบบโคตรไทยเลยค่ะ พ่อแม่ฉันเข้มงวดมากว่าตั้งแต่เดินเข้าบ้าน เราจะต้องพูดภาษาไทยกัน และมีกิริยามารยาททุกสิ่งอย่างแบบไท้ยไทย เช่นคุณต้องโค้งให้ผู้ใหญ่ อะไรแบบนั้น”
ถึงอย่างนั้น แนทที่ถูกปลูกฝังให้เป็นสาวไทยตามขนบ เธอก็ได้เติบโตเป็นสาวออสซี่ที่เต็มไปด้วยอิสระ เมื่อเธอถูกส่งไปเรียนประจำตอนอายุ 12 ปี รวมถึงได้ไปอยู่ที่นิวซีแลนด์ เธอซึมซับวัฒนธรรมต่างชาติ จนบางครั้งก็เริ่มคิดถึงความเป็นไทยบางอย่างขึ้นมา
ซึ่งสิ่งที่ทำให้ความทรงจำและส่วนหนึ่งของตัวตนของเธอกลับคืนมา เธอบอกว่า “มันอาจจะน้ำเน่าอะนะที่จะพูดแบบนี้ แต่ตอนฉันทำอาหาร ฉันสัมผัสได้เลยว่า นี่แหละตัวตนของฉัน” ฉะนั้นแล้ว อาหารสำหรับเธอ จึงเป็นสิ่งเชื่อมโยงความเป็นสาวออสซี่และสาวไทยเอาไว้ในตัวเธอ และแน่นอนว่าอาหารก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยบำบัดจิตใจของเธอ ไม่ต่างจากรอยสัก
แนทมีเชฟคนหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้เธอ หรือจะเรียกได้ว่าเป็นไอดอลของเธอก็ไม่ผิด นั่นคือ Anthony Bourdain ซึ่งสิ่งที่เธอชื่นชมเขา ไม่ได้มีแค่เรื่องฝีมือการทำอาหาร แต่ยังรวมถึงการรับมือกับปัญหาสุขภาพจิตของเขา แนทพูดถึงเขาว่า “เรื่องความสามารถโดยกำเนิดของเขาในการพูดเรื่องสุขภาพจิตนี่ ฉันคิดว่ามันสำคัญมากๆ เลย” เธอบอก “สำหรับ Bourdain เขาก็แค่พูดเรื่องจริงที่คนมักจะบอกว่า ‘โห คุณเอาเรื่องนี้มาพูดกันตรงนี้ไม่ได้หรอกนะ’ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องการเมืองด้วยซ้ำนะ มันคือเรื่องชีวิตน่ะ”
“คุณสามารถมีวันแย่ๆ ได้ และคุณก็ควรจะพูดมันออกมาหรือรับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน แทนที่จะแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างโอเคอยู่ตลอดเวลา”
และเป็นธรรมดาของคนเป็นเชฟที่มีสิทธิ์ที่จะถูกวิจารณ์ถึงฝีมือการทำอาหาร สำหรับแนทเองก็เคยมีประเด็นที่เธอถูกวิจารณ์โดยกรรมการ จนหลายๆ คนออกมาเป็นห่วงว่าเธอจะรู้สึกแย่หรือไม่ในระหว่างรายการ แต่เธอได้ให้สัมภาษณ์กับ Yahoo Lifestyle ว่า “จริงๆ มันตลกเหมือนกันที่มีคนจำนวนมากส่งข้อความหาฉัน โดยบอกว่ากรรมการออกจะโหดกับฉันเกินไปหน่อย และฉันทำให้ฉันมาย้อนคิดว่า ใช่ episode นั้นๆ ไหมที่พวกเขากำลังพูดกันอยู่ เพราะฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นในตอนนั้นเลย”
“ฉันแค่มองว่าคำวิจารณ์มันเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาฝีมือ และถ้าเราไม่ได้ยอมรับคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ ฉันคิดว่าฉันคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้” แนทเสริมอีกว่า “กรรมการคอยผลักดันให้ชัวร์ว่าเราได้ปรับปรุงมันแล้ว ฉันก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรไปทางนั้นเลยจริงๆ นะคะ”
และหากเป็นฟีดแบ็กส่วนตัวที่ไม่ได้ช่วยให้เธอดีขึ้นจากใครก็ตาม สำหรับเธอแล้ว “ถ้าฉันจมอยู่กับคำวิจารณ์อยู่อย่างนั้น ฉันไม่คิดว่าฉันจะสามารถชนะได้ ฉันเก่งในเรื่องการจดจ่อกับอะไรสักอย่างหนึ่งมากๆ และถ้าฉันมีอะไรที่ต้องทำเกี่ยวกับอาหาร เรื่องอื่นๆ ก็ไม่ได้สำคัญอะไรอีกต่อไป ฉันไม่ได้ยินเสียงอื่นๆ เลยค่ะ”
ยินดีกับความสำเร็จของแนทอีกครั้ง ทั้งในฐานะแชมป์ MasterChef Australia 2024 และการได้ยืนหยัดเป็นตัวเอง ไปพร้อมๆ กับการมีวิธีดูแลสุขภาพจิตใจที่เธอให้ความสำคัญมาตลอด จนทำให้เธอมีความสุขในการดำเนินชีวิตมากขึ้นในทุกๆ วัน
อ้างอิง:
https://www.refinery29.com/en-au/2024/06/11731410/nat-thaipun-masterchef-australia-tattoos
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ตัวตนส่วนหนึ่งของ ‘Nat Thaipun’ สาวไทย-ออสซี่ แชมป์ MasterChef Australia 2024 ผู้บำบัดจิตใจด้วยรอยสักมากกว่า 90 ลาย และการได้ทำอาหารไทยที่รัก
- Kamala Harris กับจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการคุ้มครองสิทธิในการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย
- ความลักลั่นของการตัดสินว่าใครเป็น ‘เพศหญิง’ จากกรณีหญิงข้ามเพศในญี่ปุ่นที่เปลี่ยนคำนำหน้าได้ แม้ไม่ผ่าตัดแปลงเพศ ขณะที่อีกคนผ่าตัดแล้ว แต่ยังเปลี่ยนไม่ได้ เพราะเธอแต่งงานกับผู้หญิง
ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : Mirror Thailand.com