โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

แข่งเดือดสงครามราคา สินค้ารับมือยอดขายตก

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 15 มิ.ย. เวลา 00.47 น. • เผยแพร่ 15 มิ.ย. เวลา 02.03 น.

สินค้าไอที-เครื่องใช้ไฟฟ้าทำสงครามราคาระอุ พิษกำลังซื้อทำไอทียอดขายฮวบ เจมาร์ทหันพึ่งสารพัดส่วนลด-สินเชื่อผ่อนมือถือ แอร์แข่งทุบหมัดต่อหมัด เพาเวอร์บาย-มอลล์ผุดแคมเปญตัดราคาบีทียูละไม่ถึงบาท วงการทีวีไม่น้อยหน้าพิษแข่งราคาสะเทือนมูลค่าตลาดหด 2 ปีต่อเนื่อง แอลจี-ซัมซุงดันทีวีพรีเมี่ยม-จอยักษ์แข่ง ฟากธุรกิจแฟชั่นจัดโปรแข่งดุ

นายดุสิต สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด ฉายภาพตลาดสมาร์ทโฟนว่า ช่วงไตรมาส 1/2568 ยอดขายสมาร์ทโฟนทั้งในแง่จำนวนเครื่องและมูลค่าที่ขายได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 12%

ยอดขายร่วงจุดชนวนสงคราม

ส่วนไตรมาส 2/2568 ภาพรวมจำนวนเครื่องยังลดลงจากปีก่อนประมาณ 7% ส่วนมูลค่าลดลง 4% แม้จะเป็นช่วงที่แบรนด์จีนทยอยเปิดตัวรุ่นใหม่ ทำให้ยอดขายช่วงสัปดาห์ที่ 14-16 ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างก็ตาม

“หลังวันที่ 20 พ.ค. เป็นต้นมา สัมผัสได้ถึงสัญญาณของกำลังซื้อที่ลดลงอย่างชัดเจน แต่ช่วงไตรมาส 3/2568 จะมีสมาร์ทโฟนเปิดใหม่อีกหลายรุ่น ต้องรอดูว่าช่วงนั้นยอดขายจะฟื้นตัวกลับมาได้แค่ไหน”

“เจมาร์ท” เตรียมบริการสินเชื่อ

นายดุสิตกล่าวต่อไปว่า แม้ยอดขายทั้งมูลค่าและจำนวนเครื่องมีแนวโน้มลดลง การแข่งขันอยู่ในรูปของบริการหรือแคมเปญที่ทำให้ลูกค้าเสียเงินครั้งแรกน้อยที่สุด เช่น โปรแกรม Trade In หรือเก่าแลกใหม่มากกว่า ส่วนการผ่อน 0% ถือเป็นสิ่งที่ต้องมีให้ลูกค้าเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

รวมไปถึงการให้สินเชื่อเพื่อเพิ่มโอกาสการซื้อสินค้า อาทิ เจมาร์ท โมบาย มี Samsung Finance+ สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อสมาร์ทโฟนของซัมซุง และ SGFinance+ สำหรับซื้อสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน เช่น OPPO, Xiaomi และ vivo โดยช่วงไตรมาส 3/2568 จะเริ่มขยายผลไปยังสินค้ากลุ่มแท็บเลตด้วย

“คนที่มาซื้อสินค้ากับเจมาร์ท โมบาย มีกลุ่ม noncredit ที่ใช้บริการสินเชื่อของบริษัทประมาณ 35% กลุ่มที่ใช้บัตรเครดิตอีก 35% แล้วก็มีกลุ่มที่จ่ายผ่าน QR อยู่บ้าง แต่ถือว่าน้อยมาก ๆ แล้ว ซึ่งกลุ่ม noncredit มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย เพราะคนเริ่มเก็บวงเงินในบัตรเครดิตไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน”

แอร์ตัดราคาบีทียูละไม่ถึงบาท

ด้านตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างแอร์และทีวี นั้นสงครามราคาดุเดือดเช่นกัน ทำให้ส่งผลกระทบกับมูลค่าตลาดรวมของทีวีด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 ยักษ์เชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งเพาเวอร์บายจากเครือเซ็นทรัล และเพาเวอร์มอลล์ จากเครือเดอะมอลล์ ต่างส่งแคมเปญราคาออกมาประชันกันดุเดือด โดยเพาเวอร์บายจัด “Power Buy ซัมเมอร์ลดร้อนแรง” แอร์เริ่มต้นบีทียูละบาท เมื่อช่วง 3 เม.ย.-7 มิ.ย. 68 ตามด้วยเพาเวอร์มอลล์ ปล่อยแคมเปญ Power Mall Summer Surprise พร้อมไฮไลต์ แอร์ราคาเริ่มต้น BTU ละไม่ถึงบาท ตั้งแต่ 24 เม.ย.-18 มิ.ย. 68

นางสาวพัชราภรณ์ วรยิ่งยง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด กล่าวว่า แคมเปญ “Power Buy ซัมเมอร์ลดร้อนแรง” กระตุ้นสินค้ากลุ่มทำความเย็น ทั้งแอร์ พัดลม ตู้เย็น โดยมีไฮไลต์เป็นแอร์ราคาเริ่มต้น BTU ละบาท ถือเป็นกลยุทธ์ด้านราคาที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อรวมกับความจัดเต็มทั้งบริการส่ง ติดตั้ง และรื้อถอนฟรี ส่งด่วนภายในวันเดียวกัน รวมถึงนำแอร์เก่ามาแลกเป็นส่วนลดได้ด้วย ผ่อน 0% ฯลฯ สะท้อนจากการที่ลูกค้าให้ความสนใจเลือกซื้อทั้งทางหน้าร้าน และออนไลน์ รวมถึงในงานอีเวนต์ Power Expo อย่างคับคั่ง

สงครามราคาลามไตรมาส 2-3

สำหรับทิศทางการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2568 นี้จะเข้มข้นอย่างเห็นได้ชัด หลังการเติบโตของช่องทางออนไลน์และการทำโปรโมชั่นข้ามแพลตฟอร์ม เป็นหนึ่งในแรงกระตุ้นที่ทำให้ตลาดเคลื่อนไหวต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี โดยหมวดสินค้าที่จะแข่งขันดุเดือดจะเป็นสินค้าจำเป็นและสินค้าตามฤดูกาล เช่น แอร์, ตู้เย็น, พัดลม, เครื่องซักผ้า เป็นต้น

เพื่อชิงความได้เปรียบในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะเดินหน้าจัดแคมเปญต่อเนื่องเพื่อรักษาความเคลื่อนไหวของตลาด โดยช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเข้าสู่ฤดูฝนเตรียมแคมเปญ “Rainy Grand Sale” พร้อมใช้กลยุทธ์ด้านโปรโมชั่น ลดราคาพิเศษ ผ่อนสบาย และสิทธิพิเศษมาเป็นจุดขาย เพื่อกระตุ้นเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องซัก-อบในตัวเดียว ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญ

ส่วนในไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปี เตรียมแคมเปญใหญ่เพื่อชิงดีมานด์ช่วงจับจ่ายของขวัญและของใช้ในบ้าน ทั้งโปรโมชั่นหน้าร้าน และออนไลน์ พร้อมแคมเปญ เช่น 8.8 / 9.9 / 10.10 / 11.11 /12.12 / Pay Day และ Black Friday เป็นต้น

สงครามราคาฉุดมูลค่าตลาดทีวี

ด้านตลาดทีวีนั้น นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การแข่งขันราคาทำให้มูลค่าตลาดทีวีลดลง 2 ปีต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งตลาดมีมูลค่า 21,100 ล้านบาท ลดลง 8.5% และปี 2567 ตลาดมีมูลค่า 20,700 ล้านบาท ลดลงอีก 2.6% โดยการหดตัวนี้มีสาเหตุจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง หลังแบรนด์จีนเข้าทำตลาดโดยเน้นกลยุทธ์ราคา ส่งผลให้เม็ดเงินในตลาดรวมลดลง แม้จำนวนยอดขายเป็นเครื่องจะยังไม่เปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม แม้มูลค่ารวมจะมีแนวโน้มลดลงเพราะสงครามราคา แต่บางเซ็กเมนต์อย่างเซ็กเมนต์พรีเมี่ยม และทีวีจอใหญ่ ยังเติบโตต่อเนื่องมาตลอด และคาดว่าปี 2568 นี้ ตลาดทีวีพรีเมี่ยมแบบ OLED TV จะเติบโต 13% และตลาดทีวีขนาด 75 นิ้วขึ้นไปจะโต 10%

สงครามราคาของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไปในทิศทางเดียวกับความเห็นของกลุ่มซัมซุง นายชวพจน์ เทียนทอง ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า การแข่งขันด้วยราคาของแบรนด์จีนส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมา มูลค่าตลาดทีวีลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่เลือกซื้อสินค้าด้วยปัจจัยคุณภาพและความคุ้มค่า

สินค้าแฟชั่นจัดโปรฯแข่งดุ

นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์แบรนด์ “แม็คยีนส์” กล่าวว่า ช่วงเดือนพฤษภาคมเริ่มเห็นการจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมอย่างดุเดือด เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงมิดเยียร์ซีซั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ทำมาเป็นประจำทุกปีเพื่อสร้างตัวเลขการเติบโต

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แข่งเดือดสงครามราคา สินค้ารับมือยอดขายตก

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...