โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ปลดล็อกโลก สินเชื่อรายย่อย ช่วยคนไทยเข้าถึงการเงินที่เป็นธรรม

การเงินธนาคาร

อัพเดต 15 พ.ค. เวลา 14.10 น. • เผยแพร่ 15 พ.ค. เวลา 07.10 น.

“เราตั้งโจทย์ตั้งแต่ต้นว่า ต้องให้บริการได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ไม่ต้องเข้าสาขา ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องสามารถทราบผลได้ใน 2 นาที ทำให้เราเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยลูกค้าที่เข้ามามีทั้งคนอายุน้อยและผู้สูงอายุ เพราะคนกลุ่มนี้มีความรู้มากขึ้น ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นกลับเติบโตลดลง”

บริการ สินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะประเภทสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีบทบาทสำคัญต่อการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เพราะช่วยให้คนที่เข้าไม่ถึงระบบธนาคาร สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้อย่างถูกกฎหมาย มีต้นทุนน้อยกว่าเงินกู้นอกระบบ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประชาชน ซึ่งมีสตาร์ตอัพไทยอย่าง ABACUS digital มองเห็นโอกาสในจุดนี้ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะช่วยทำให้ผู้คนที่อยู่นอกระบบ เข้าถึงบริการทางการเงินในระบบให้ได้มากที่สุด

การเงินธนาคาร ได้สัมภาษณ์พิเศษ ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ถึงจุดเริ่มต้นการเดินทางของ ABACUS digital สตาร์ตอัพจากรั้วธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อม Mission ที่ชัดเจนในการสร้างนวัตกรรมการเงิน เพื่อยกระดับสังคมไปพร้อมกับตอบโจทย์ทางธุรกิจ ด้วยการใช้พลังแห่งข้อมูลเป็นเอนจิ้นหลักในการขับเคลื่อนองค์กร

2017 ตั้ง SCB ABACUS

รุกตลาดสินเชื่อรายย่อย

ดร.สุทธาภา เริ่มให้สัมภาษณ์พิเศษว่า จุดเริ่มต้นของการตั้ง ABACUS digital (ขณะนั้นยังเป็น SCB ABACUS) เกิดขึ้นราวปี 2017 เป็นช่วงที่เธอกำลังเป็นผู้บริหารอยู่ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ดูแลเรื่องกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจเพื่อเข้าสู่เทคโนโลยี โดยเวลานั้นมีความเชื่อว่าเทคโนโลยีนั้นช่วยตอบโจทย์ในเรื่องของขยายขอบเขตของการให้บริการด้านการเงิน โดยยังมีลูกค้าอีกจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึงบริการจากธนาคาร และหากไม่เปลี่ยนวิธีการทำงาน ก็ไม่สามารถจะเข้าไปหาลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่มากได้

ภายใต้ความเชื่อนี้ จึงมีการตั้งหน่วยงานเล็กๆ ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อทดลองเปลี่ยนโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Model) และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากเดิม แต่ก็พบว่า การเปลี่ยนแปลงแค่นี้ยังไม่มากพอที่จะให้บริการกับลูกค้ากลุ่มความเสี่ยงสูงได้ แต่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ทั้งหมด เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มองธนาคารเป็นที่พึ่งทางการเงิน ขณะเดียวกัน ต้นทุนในการจะรับลูกค้าแต่ละรายก็ยังสูงเกินไปอีกด้วย

ดังนั้น การเปลี่ยนเฉพาะการประเมินความเสี่ยง ผลิตภัณฑ์ หรือการติดตามหนี้จึงไม่เพียงพอ นำไปสู่การตั้ง SCB ABACUS โดยมีผู้ก่อตั้งแรกเริ่ม 7 คน ทั้งหมดล้วนมีดีกรีระดับหัวกะทิทั้งสิ้น

ดร.สุทธาภาอธิบายว่า การตั้ง SCB ABACUS แรงผลักดันหลักเกิดจากการที่บริบททางเศรษฐกิจนั้นเปลี่ยนแปลงไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนแนวคิดดังนี้

  • การเปลี่ยนแปลงของ Growth Engine ในประเทศไทย : Growth Engine ของประเทศไทยนั้นค่อยๆ หมดยุคลงไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิต การทำ OEM ต่างๆ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ไม่ได้มีฐานอยู่ในประเทศ ส่วนเทคสตาร์ตอัพต่างๆ ที่ถูกมองว่าจะเป็น New Growth Engine ก็ประเมินความเสี่ยงได้ยาก ดังนั้น โอกาสที่คนกลุ่มนี้จะเข้าถึงตลาดเงินหรือตลาดทุนเพื่อตั้งบริษัทและเติบโตต่อไปนั้นยากมาก ซึ่งวันนั้นมองว่าเทคโนโลยีสามารถเข้ามาแก้ Pain Point ตรงนี้ได้
  • หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น : หนี้ครัวเรือนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 7-8 ปีที่แล้ว แต่ส่วนใหญ่มักจะมองตัวเลขที่อยู่ด้านบนของพีระมิด หรือหนี้ในระบบ ซึ่งในวันนั้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของ Nano Finance อยู่ที่ 36% แต่ทันทีที่ออกนอกระบบอัตราดอกเบี้ยพุ่งไปถึง 100-200% และยังต้องเจอการติดตามหนี้ที่รุนแรง จึงมองว่าหากสามารถเปิดตลาด เพื่อให้คนนอกระบบสามารถที่จะเข้ามาในระบบ และทยอยสร้างเครดิตจนสามารถเข้าไปอยู่ในระบบเครดิตบูโร ก็จะสามารถเติบโตไปเป็นผู้ประกอบการที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีพอจนเข้าสู่ระบบได้
  • การเกิดใหม่ของเทคโนโลยี : เทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีผู้เล่นใหม่จากวงการเทคโนโลยีที่อยากเข้ามาในตลาดด้านการเงินจำนวนมาก หากธนาคารไม่ทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งด้วยการลงไปเล่นเอง จะไม่สามารถรู้จุดแข็งหรือจุดอ่อนของธุรกิจประเภทนี้ เมื่อวางบริบทได้แบบนี้ ตลาดแรกที่บุกเข้าไปจึงเป็นตลาดที่ธนาคารยังมีจุดอ่อน

หลังบ้านไร้คน ทำงาน 24 ชั่วโมง

ใช้2,000 ตัวแปรประเมินความเสี่ยง

ดร.สุทธาภาเผยว่า ABACUS digital ใช้เวลา 1 ปี ในการสร้างระบบหลังบ้าน ก่อนเปิดตัวแอปพลิเคชั่นครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี 2019 ในชื่อ “Money Thunder” แต่หลังจากเปิดตัวได้เพียง 3 เดือนก็เกิดเหตุการณ์ Lockdown จากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งเป็นความเสี่ยงกะทันหันที่เข้ามาหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีการเปลี่ยนแปลงระบบการรายงานต่างๆ ทำให้ทีมงานต้องปรับโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างรวดเร็วพร้อมกับพัฒนาระบบหลังบ้านให้ตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

“เราตั้งโจทย์ตั้งแต่ต้นว่า ต้องให้บริการได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ไม่ต้องเข้าสาขา ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องสามารถทราบผลได้ใน 2 นาที ทำให้เราเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยลูกค้าที่เข้ามามีทั้งคนอายุน้อยและผู้สูงอายุ เพราะคนกลุ่มนี้มีความรู้มากขึ้น ขณะที่ผู้เล่นรายอื่นกลับเติบโตลดลง”

ดร.สุทธาภาอธิบายว่า ABACUS digital ได้พัฒนาเอ็นจิ้นหลังบ้านให้สามารถวิเคราะห์ Alternative Data ได้ พร้อมทำงานแบบอัตโนมัติโดยไม่มีคนอยู่ในกระบวนการหลังบ้าน นอกจากนี้ ยังสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลให้สามารถเชื่อมกับแหล่งข้อมูลอื่นๆ ให้พร้อมขยายขนาดไปได้เรื่อยๆ ตั้งแต่วันแรก ส่งผลให้เกิดความได้เปรียบใน 2 เรื่องหลักคือ

  • สามารถใช้ตัวแปรจำนวนมหาศาล : ปัจจุบัน ABACUS digital สามารถใช้ตัวแปรในการประเมินความเสี่ยงได้มากถึง 2,000 ตัวแปร ทำให้เห็นสัญญาณที่ชัดเจนพอที่จะประเมินความเสี่ยง โดยตัวแปรเหล่านี้เป็นตัวแปรเฉพาะที่ใช้กับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย และเมื่อมีการใช้ข้อมูลพฤติกรรมเข้ามาร่วมวิเคราะห์ด้วย ก็จะสามารถดูความสามารถในการชำระหนี้ที่อยู่นอกระบบได้ ตลอดจนความพยายามในการชำระหนี้
  • ลูกค้าส่วนใหญ่ได้เงินเร็วเพียง 2 นาที : การทำให้ระบบหลังบ้านทำงานแบบอัตโนมัติ ช่วยให้กระบวนการตั้งแต่ลูกค้าดาวน์โหลดแอปฯ Money Thunder กรอกข้อมูล จนถึงได้รับเงินเข้าบัญชี เสร็จสิ้นภายในเวลาเฉลี่ยเพียงแค่ 2 นาที ด้วยต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งการที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อขนาดเล็กระดับ 1,000-2,000 บาทได้ จะช่วยให้สามารถสร้างประวัติเครดิตของตัวเองได้

“วันนี้ลูกค้า 1 ใน 3 ของเรา เป็นคนที่ถูกธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธการให้สินเชื่อมาก่อน นอกจากนี้ มากกว่า 50% ของลูกค้า มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากเข้ามาเป็นลูกค้าเรา 12 เดือน เราแตกต่างจากผู้เล่นรายอื่น เพราะเราทดลองสิ่งใหม่เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ส่งผลให้โมเดลวิเคราะห์มีความแม่นยำ ภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้”

ถอดบทเรียนล้ำค่าของสตาร์ตอัพ

ทีมที่ดีบวกเทคโนโลยีของตัวเอง

ดร.สุทธาภากล่าวว่า เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่ดี สามารถให้บริการได้ตามเป้าหมาย ก็มาถึงจุดที่ ABACUS digital ต้องการเติบโตไปเป็นบริษัทเทคโนโลยีเต็มตัว ทำให้เริ่มเข้าสู่กระบวนการระดมทุน โดยมีการปรึกษากับคณะกรรมการของธนาคารไทยพาณิชย์ ว่าต้องการจะไประดมทุนจากต่างประเทศ เพื่อให้มูลค่าบริษัทนั้นเป็นอิสระจากผู้ถือหุ้นรายเดิม และสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ ABACUS digital ซึ่งนั่นทำให้ได้นักลงทุนจาก 3 บริษัทใหญ่เข้ามาร่วมลงทุน โดยสามารถระดมเงินทุนไปได้ 42 ล้านดอลลาร์

โดยนักลงทุนของ ABACUS digital มี 3 ราย คือ

  • Openspace ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก
  • Vertex บริษัทในเครือของ Temasek Holdings ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital)
  • CAI Partners เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์

ดร.สุทธาภาเผยว่า ประสบการณ์การระดมทุนที่ผ่านมาทำให้ทราบว่า การจะประสบความสำเร็จในการระดมทุนได้ ต้องมี 2 ปัจจัยสำคัญ คือ

  • นักลงทุนต้องรู้ว่าทีมมีศักยภาพก่อนที่จะมีผลิตภัณฑ์จริง : เนื่องจากนักลงทุนมองว่าแม้จะมีผลิตภัณฑ์ที่ดีมากแต่ทีมไม่มีศักยภาพ (Bad Team) หากตลาดมีความเปลี่ยนแปลง ข้อดีที่มีอยู่จะหายไป แต่หากทีมมีศักยภาพ (Good Team) แม้จะมีผลิตภัณฑ์ระดับกลาง แต่เมื่อเผชิญความเปลี่ยนแปลง ทีมจะสามารถปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับตลาดขณะนั้นได้เป็นอย่างดี
  • ต้องมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง : การเป็นผู้ประกอบการที่ซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามาใช้ การปรับเปลี่ยนต่างๆ จะทำได้ล่าช้ามาก ขณะที่มูลค่าที่เกิดขึ้นจะเอียงไปฝั่งผู้ที่ทำระบบ เพราะการที่ผู้ประกอบการมีเพียงข้อมูลลูกค้า ในตลาดการเงินถือว่ามีมูลค่าไม่มากพอ สิ่งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ และยังสอดคล้องกับการตั้งเป้าหมายของ ABACUS ที่ต้องการสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง เพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ให้ได้อย่างชัดเจน

ปัจจุบัน ABACUS digital เปิดระดมทุนไปแล้ว 2 รอบคือ รอบ Series A และ Series B โดยในช่วงเริ่มต้นที่ได้เงินลงทุนจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ (Seed Round) จากนั้นก็มีการระดมทุนในรอบ Series A และ Series B โดยพบว่า นักลงทุนอยากเข้าใจตลาดประเทศไทยมากขึ้น เพราะรับรู้แล้วว่าตลาดประเทศไทยมีเทคโนโลยี ดังนั้นคนที่จะประสบความสำเร็จในการระดมทุนในตลาดนี้จึงต้องสร้างเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง

ในแผนของ ABACUS digital ยังมองเรื่องของการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย ซึ่งช่องทางนี้ถือเป็น 1 ในเส้นทางของธุรกิจสตาร์ตอัพหลายราย โดย ABACUS digital มองเรื่อง IPO ในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยต้องมีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันก็ยังอยู่ในแผนการเติบโตของบริษัท

เดินเครื่องช่วย Underbanked

เข้าถึงการเงินที่เป็นธรรม

ดร.สุทธาภาให้มุมมองว่า เวลานี้เศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจสินเชื่อโดยตรง สิ่งสำคัญคือ ต้องค้นหาและผลักดันคนที่พร้อมจะเติบโตแต่ความเสี่ยงสูงให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ หลายคนมองว่า เมื่อสถานการณ์ของเศรษฐกิจมหภาคไม่ดี จึงพยายามดึงเงินออก กลายเป็นว่า คนที่มีโอกาสจะโตได้ต้องตกไปอยู่ข้างล่าง จึงมองว่า ภายใต้สถานการณ์นี้ ABACUS digital ควรต้องเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบการเงินและธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตต่อไปได้

สำหรับเป้าหมายหลักของ ABACUS digital ต่อจากนี้ จะยังเป็นการช่วยคนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินจากธนาคาร (Underbanked) ให้ได้มากยิ่งขึ้น และบริการที่จะช่วยคนกลุ่มนี้ได้ไม่ได้มีเพียงสินเชื่อเท่านั้น ยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ชีวิตผู้คนมีความมั่นคงมากขึ้น พร้อมสร้างความเข้าใจที่ไม่ใช่แค่ Financial Literacy แต่เป็น Digital Literacy นอกจากนี้ ด้วยระบบการเงิน สงครามการค้า ระบบชำระเงิน ความไม่แน่นอนอีกหลายอย่าง จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ABACUS digital พร้อมจะวิ่งตามความเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บริการกับลูกค้าที่มีระดับความเสี่ยงค่อนไปทางสูงให้ได้

“เป้าหมายหลักของเราคือ การเปิดให้บริการทางการเงินแก่คนนอกระบบ โดยมองว่า สินเชื่อจะเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เข้าถึงคนกลุ่มนี้ เนื่องจากการเข้าถึงสินเชื่อในระบบเป็นจุดตั้งต้นในการสร้างและบริหารสุขภาพทางการเงินให้ดีขึ้น ถัดจากสินเชื่อแล้ว สิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการต่อไปก็คือเรื่องของผลิตภัณฑ์ประกัน เพื่อที่จะรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ซึ่ง ABACUS digital ก็จะออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กพอให้ลูกค้ากลุ่มนี้เข้าถึงได้”

นอกจากบริการสินเชื่อ Money Thunder แล้ว ABACUS digital จะมุ่งเน้นการให้บริการโซลูชั่นกับภาคธุรกิจ โดยเป็นการใช้ประโยชน์จากการพัฒนาฟังก์ชั่นใหม่ภายในบริษัท เนื่องจากโจทย์บางอย่างที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาธุรกิจภายใน ภาคธุรกิจอื่นก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เช่น การประเมินความเสี่ยงลูกค้า การอ่านรายงานต่างๆ แม้ว่าบริษัทนั้นจะไม่ได้อยู่ในธุรกิจให้สินเชื่อ เช่น ธุรกิจปล่อยเช่าบ้าน ธุรกิจขายบ้าน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ ABACUS digital สามารถนำเทคโนโลยีที่มีไปให้บริการได้ เพื่อรุกในตลาดฝั่ง B2B ไปด้วย

ติดตามอ่านคอลัมน์อื่น ๆ ได้ในวารสารการเงินธนาคารฉบับเดือนพฤษภาคม 2568 ฉบับที่ 517 ในรูปแบบดิจิทัล : https://goo.gl/U6OnIi

รวมช่องทางการสั่งซื้อวารสารการเงินธนาคาร ทั้งฉบับปัจจุบันและฉบับย้อนหลัง ครบจบที่นี้ที่เดียว : https://moneyandbanking.co.th/2023/18250/

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...