ไทม์ไลน์ “สีกากอล์ฟ” ต้นตอโดมิโน “พระสึก” เขย่าผ้าเหลือง
ท่ามกลางความโกลาหลในวงการสงฆ์ของประเทศไทย เซ่นกรณีเรื่องฉาวของ “สีกากอล์ฟ” นารีผู้เป็นต้นเรื่องมหากาพย์ทั้งหมด กลายเป็นชนวนให้พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปต้องทยอยลาสิกขา
วันนี้ (10 ก.ค. 68) “อีจัน” จะพาไปไล่เรียงไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นจนถึงล่าสุด ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเหตุการณ์เขย่าวงการสงฆ์ไทยของ “สีกากอล์ฟ”
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2568 หลังจากการลาสิกขาแบบเงียบ ๆ ที่ จ.หนองคาย ของ “พระเทพวชิรปาโมกข์” หรือ “เจ้าคุณอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร โดยไม่ชี้แจงเหตุผลใด ๆ ณ เวลานั้น
ต่อมามีข้อมูลหลุดออกมาว่า เจ้าคุณอาชว์ ตกเป็นเป้าการแบล็กเมลของหญิงสาวที่ต่อมาถูกขนานนามว่า “สีกากอล์ฟ” หลังมีคลิปวิดีโอหลุด ที่บ่งบอกถือการมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง เผยให้เห็นว่าเจ้าคุณอาชว์อยู่ในห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง สวมสบงท่อนล่าง เปลือยท่อนบน พร้อมมีเสียงพูดของ “สีกากอล์ฟ” แทรกระหว่างคลิป ชี้ชัดว่าทั้งคู่อยู่ในห้องพัก 2 ต่อ 2 อีกทั้งมีการพูดเชิงคำสัญญา ว่าจะหมั้นหมาย แสดงความรับผิดชอบ
อีกทั้งมีรายงานว่า สีกากอล์ฟได้ใช้คลิปฉาวดังกล่าว กดดันให้ “เจ้าคุณอาชว์” ยอมจ่ายเงินตามข้อเรียกร้องถึง 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่เปิดเผย
อย่างไรก็ตาม “สีกากอล์ฟ” กลับไม่ได้เก็บเรื่องนี้เงียบไว้ แต่กลับไปพูดกับพระอีกรูปหนึ่ง จนเกิดการส่งต่อไปมาเป็นเรื่องอื้อฉาว ก่อนจะมี 1 ในพระผู้ใหญ่ นำเรื่องนี้ไปยื่นร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมเชิญเจ้าคุณอาชว์มาให้ปากคำ ท่านกลับรีบชิงลาสิกขา และข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทันที
ต่อมาวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เข้าตรวจค้นวัดตรีทศเทพวรวิหาร เพื่อตรวจสอบบัญชี และทรัพย์สินต่าง ๆ ภายในวัด หลังจากเจ้าคุณอาชว์ลาสิกขา โดยเน้นประเด็นการโอนเงินที่อาจเกี่ยวข้องกับ “สีกากอล์ฟ”
4 กรกฎาคม 2568 “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำหมายค้นเข้าตรวจบ้านพักของสีกากอล์ฟ พร้อมเชิญตัวสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่ง “สีกากอล์ฟ” ยอมรับว่าติดพนันออนไลน์ และใช้เงินจากเจ้าคุณอาชว์ไปเล่นพนัน นอกจากนี้ ตำรวจยังได้ยึดโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ 5 เครื่อง เพื่อตรวจพยานหลักฐานทั้งหมด
กระทั่ง 8 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. ได้สรุปผลการตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ภายในโทรศัพท์ของสีกากอล์ฟ ทั้ง 5 เครื่อง พบหลักฐานสำคัญเช่น ภาพเปลือยกาย วิดีโอขณะร่วมเพศ ที่ “สีกากอล์ฟ” ถ่ายเก็บไว้ รวมแล้วกว่า 80,000 ไฟล์ ซึ่งบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอ กับพระผู้ใหญ่จากวัดต่าง ๆ หลายรูป และนักการเมืองท้องถิ่นหลายจังหวัด ซึ่งเบื้องต้น ทราบตัวบุคคลแล้ว 8 ราย โดยเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมด และมีอย่างน้อย 3 รูป ที่พฤติกรรมเข้าข่าย “ปาราชิก” อย่างชัดเจน
9 กรกฎาคม 2568 ถือเป็นวันสะเทือนวงการสงฆ์อย่างแท้จริง หลังจากพระชั้นผู้ใหญ่จากวัดต่าง ๆ พร้อมใจทยอยลาสิกขาโดยไม่ได้นัดหมาย นำโดย“พระเทพวชิรธีราภรณ์” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี ซึ่งปรากฏในคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับ “สีกากอล์ฟ” ซึ่งสามารถดักเชิญตัวได้ที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาให้ตัดสินใจลาสิกขา ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
ตามด้วย พระเทพวชิรธีรคุณ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ซึ่งพบตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งในตอนแรกการเจรจาให้ยอมลาสิกขา ไม่ได้ผล ท่ามกลางความศรัทธาจากพระลูกวัดและแม่ชี แต่ในที่สุดท่านก็ได้ยอมลาสิกขาแล้ว
พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก และผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช มีกระแสข่าวว่าได้ลาสิกขาไปแล้วที่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งรายนี้มีการลือข้อมูลว่าเป็นพ่อของลูกคนที่ 3 ของ “สีกากอล์ฟ” ด้วย
พระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา ปรากฏในคลิปร่วมหลับนอนกับ “สีกากอล์ฟ” ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นในกุฏิ แต่กลับไม่พบตัว (อยู่ระหว่างติดตามตัว)
พระเทพปวรเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ได้ย่องลาสิกขาแบบเงียบ ๆ แล้ว
ส่วนพระชั้นผู้ใหญ่รูปอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ ได้แก่ พระครูปลัดสุรพล อิทธิเตโช, พระเทพวัชรสิทธิเมธี และ พระเทพพัชราภรณ์ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและรอการยืนยันเพิ่มเติม
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล และยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมี “พระสงฆ์” หรือ “นักการเมืองท้องถิ่น” คนใดถูกเชือดเพิ่มเติม แต่ที่แน่ ๆ คือเรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับ “ศาสนา” แต่เกิดจาก “นิสัยส่วนตัว” ของใครบางคน ที่ส่งแรงสะเทือนมาถึงศาสนาโดยตรง