โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ปักธงดาวรุ่ง "เวลเนสทัวริซึ่ม" ชี้โอกาสทองไทย แซงหน้า "หมอ"

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 26 ส.ค. เวลา 09.41 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. เวลา 07.47 น.

“พิชชาพร ธนาพงศธร” ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิค และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เผยในงาน SPLASH-Soft Power Forum 2025 ชี้ ททท.มองเกมขาด ชู “เวลเนสทัวริซึ่ม” เป็นขุมทรัพย์ใหม่ เล็งดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง เน้นย้ำจุดแข็งไทยรอบด้าน พร้อมเตือน “ทัวร์ปริมาณ” ไม่ยั่งยืน หวั่นเสียโอกาสทอง หากไม่เร่งเครื่องพัฒนา

แพทย์หญิงพิชชาพร ธนาพงศธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิค และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวในงาน SPLASH-Soft Power Forum 2025 ในช่วง Wellness Tourism เตรียมพร้อมประเทศไทย ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลกว่า ท่ามกลางการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เล็งเห็นศักยภาพอันมหาศาลของ “เวลเนสทัวริซึ่ม” (Wellness Tourism) หรือการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงกว่าการท่องเที่ยวเพื่อการรักษาพยาบาล (Medical Tourism) ถึง 3-4 เท่า ชี้เป็นโอกาสทองของประเทศไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง สร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น และขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำถึงบทบาทของ Soft Power ในการสร้างจุดขายที่แตกต่างระดับโลก

เวลเนสทัวริซึ่ม : นิยามใหม่ของการเดินทางที่มีจุดประสงค์

สำหรับคำนิยามของ “เวลเนสทัวริซึ่ม” ว่าเป็นการเดินทางที่มีจุดประสงค์เพื่อ “ยกระดับสุขภาพให้ดีขึ้น” (Enhance) แตกต่างจากการท่องเที่ยวแบบพักผ่อนหย่อนใจ (Leisure Tourism) ที่เน้นความสนุกสนาน และ Medical Tourism ที่มุ่งเน้นการ “ซ่อมแซมร่างกาย” เมื่อเจ็บป่วย เวลเนสทัวริซึ่ม คือการลงทุนเพื่อดูแลสุขภาพเชิงรุก ทั้งร่างกายและจิตใจ ให้กลับไปมีความสุขกว่าเดิม ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่เราคุ้นเคยกับ “ทัวร์ 678” (ตื่น 6 โมง กิน 7 โมง ออกเดินทาง 8 โมง) ที่เน้นการเที่ยวแบบเร่งรีบ ช็อปปิ้ง และมักละเลยการดูแลสุขภาพในระหว่างเดินทาง ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและไม่ยั่งยืน

ทำไม “เวลเนสทัวริซึ่ม” จึงเป็นโอกาสที่ต้องคว้าไว้ ?

  • เมกะเทรนด์โลก : การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมสูงวัย (Aging Society) ที่ประชากรกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและต้องการดูแลสุขภาพให้ยืนยาว รวมถึงปัญหาความเครียดและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น เบาหวาน ที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ผู้คนมองหาบริการด้านเวลเนส
  • ไทยติด Top 15 โลก : ผลวิจัยจาก Global Wellness Institute (GWI) ระบุว่า “เวลเนสทัวริซึ่ม” เป็นสิ่งเดียวของประเทศไทยที่ติด 1 ใน 15 ของโลก และเป็นสาขาที่มีการเติบโตสูงมาก ปัจจุบันมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเกือบ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20% เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ ทั่วโลก ก่อนโควิด-19 ไทยเคยติดอันดับ 7 และเชื่อมั่นว่าหากร่วมมือกัน จะกลับไปติด Top 5 ของโลกได้ไม่ยาก
  • เหนือกว่า Medical Tourism : แม้ไทยจะเป็น Medical Hub ที่มีชื่อเสียง แต่ “เวลเนสทัวริซึ่ม” มีมูลค่าสูงกว่า Medical Tourism ถึง 3-4 เท่า บ่งชี้ถึงโอกาส “น้ำขึ้น” ที่ต้องเร่งคว้า
  • ป้องกัน “ตกขบวน” : หากไม่เร่งพัฒนา อาจพลาดโอกาสครั้งสำคัญ การท่องเที่ยวเชิงปริมาณ (Volume Tourism) ที่เน้นคนมาเยอะ ๆ อาจไม่ยั่งยืน ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างรายได้กระจุกตัวแค่บางกลุ่ม “เวลเนสทัวริซึ่ม” จะช่วยกระจายรายได้สู่ทั้งระบบ ตั้งแต่ฟาร์ม ผู้ผลิต ไปจนถึงบริการต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัด

จุดแข็งของประเทศไทยกับการพัฒนาเวลเนสทัวริซึ่ม : ประเทศไทยมีต้นทุนที่ดีเยี่ยมที่สามารถนำมาต่อยอดสู่การเป็นจุดหมายปลายทางเวลเนสระดับโลก

  • ธรรมชาติที่สวยงาม : ภูเขา แม่น้ำ บ่อน้ำพุร้อน และทะเลอันดามันที่ขึ้นชื่อ
  • อาหารไทย : รสชาติเป็นเอกลักษณ์และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • การบริการ (Thai Hospitality) : ความอ่อนโยน ใส่ใจ และรอยยิ้มที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว
  • ภูมิปัญญาไทยดั้งเดิม : การนวดแผนไทย สมุนไพรไทย และศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาผสมผสานได้อย่างลงตัว
  • การแพทย์ที่ได้มาตรฐาน : ความเป็น Medical Hub ในภูมิภาคเอเชีย สร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยและการดูแลสุขภาพ

มิติของ Wellness Spectrum : ผสานความแตกต่าง สร้างจุดขาย

การพัฒนาเวลเนสทัวริซึ่ม ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างโรงแรมใหม่ แต่คือการปรับมุมมองและการ “เบลนด์” หรือบูรณาการบริการด้านเวลเนสต่าง ๆ เข้ากับธุรกิจที่มีอยู่ เพื่อสร้าง Unique Selling Point (USP) เช่น โรงแรมที่มีอยู่แล้วสามารถเพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกาย กลิ่นที่เหมาะสม หรือการจัดห้องนอนเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้

ปักธงดาวรุ่ง “Wellness Tourism” ชี้โอกาสทองไทย แซงหน้า ‘หมอ’

BDMS แบ่ง Wellness ออกเป็น 3 รูปแบบ :

  • Medical Wellness : การดูแลสุขภาพโดยใช้หลักวิทยาศาสตร์ มีการตรวจประเมินก่อนและหลัง เพื่อวัดผลการดูแลสุขภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม
  • Lifestyle Wellness : การดูแลสุขภาพที่ผสมผสานผลการตรวจสุขภาพเข้ากับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การฝึกกล้ามเนื้อเพื่อการวิ่ง การเลือกรับประทานอาหาร
  • Leisure Wellness : การดูแลสุขภาพในระหว่างการพักผ่อน เช่น การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อการนอนหลับที่ดี กิจกรรมผ่อนคลายที่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ

ตลาดเวลเนสทัวริซึ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก :

  • Primary Wellness (ประมาณ 10% ของตลาด) : กลุ่มที่มาเที่ยวโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพเฉพาะเจาะจง เช่น ต้องการนอนหลับดีขึ้น ลดน้ำหนัก หรือดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน กลุ่มนี้พร้อมลงทุนเพื่อสุขภาพอย่างจริงจัง และมี Spending Per Head สูงกว่า Secondary Wellness ถึง 3 เท่า
  • Secondary Wellness (ประมาณ 90% ของตลาด) : กลุ่มที่มาเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อนเป็นหลัก และมีการเพิ่มกิจกรรมด้านเวลเนสเข้าไปบางส่วน เช่น แวะนวด หรือเข้าคลาสทำอาหารสุขภาพ

แม้ปัจจุบันกลุ่ม Secondary Wellness จะมีขนาดใหญ่กว่า แต่กลุ่ม Primary Wellness คือเป้าหมายสำคัญของประเทศไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง ที่จะช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืน กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เพราะกลุ่มนี้มักจะกลับมาซ้ำ และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนจาก Secondary เป็น Primary ในการเดินทางครั้งต่อไป

การพัฒนา “เวลเนสทัวริซึ่ม” จึงไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของการท่องเที่ยวไทย ที่จะช่วยสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และตอกย้ำตำแหน่งของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพระดับโลกอย่างแท้จริง

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ปักธงดาวรุ่ง “เวลเนสทัวริซึ่ม” ชี้โอกาสทองไทย แซงหน้า “หมอ”

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...