โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“รังสิมันต์” เตือนอย่าประมาทเกมศาลโลก ปม ชายแดนไทย-กัมพูชา

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 26 มิ.ย. เวลา 05.15 น.

“รังสิมันต์” เตือนอย่าประมาทเกมศาลโลก ปม ชายแดนไทย-กัมพูชา มอง ไม่มีใครแพ้-ชนะ มีแต่สร้างบาดแผลให้ ปชช.ทั้ง 2 ชาติ จวก “มาริษ” ไม่ให้ความร่วมมือ คิดว่าตัวเองแก้ไขปัญหาได้ เหน็บ กต.ไม่ประสบความสำเร็จทางการทูต

วันที่ 26 มิ.ย. 68 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ ก่อนการประชุมเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า วันนี้ กมธ.ทำอยู่ 2 อย่าง ซึ่งอยากได้เป็นการเตรียมความพร้อมขณะเดียวกันก็ต้องดูว่าทางประเทศกัมพูชาเรื่องของความก้าวหน้าในการเตรียมการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพื้นที่ 4 ข้อพิพาทไปศาลโลกอย่างไรซึ่งเป็นเกมส์การเมืองที่ต้องการพาไทยศาลโลกด้วย รวมไปถึงทางกระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมมากแค่ไหน

อย่างไรก็ตามได้มีการเชิญนักวิชาการ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศและข้อเท็จจริงในเชิงประวัติศาสตร์ซึ่งอาจารย์ทั้งสองคนได้เตรียมการข้อมูลมาค่อนข้างดีหวังว่าด้านนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการต่างประเทศต่างประเทศรวมไปถึงข้อแนะนำจากทั้งในส่วนของกรรมาธิการและที่ปรึกษาบางคนหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับกระทรวงการต่างประเทศ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยากให้เจรจาผ่านสิ่งที่กรรมาธิการความมั่นคงต่อการทำต้องการจะเป้าหมายในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาในวิธีการที่เรียกว่าทวิภาคี ซึ่งหากมีการขึ้นศาลโลกจริงก็ไม่มีใครชนะหรือแพ้แท้จริง ทั้งสองประเทศต้องตั้งอยู่ตรงนี้ร่วมกัน และไม่อยากให้เป็นบาดแผลทางประวัติศาสตร์ไม่อยากให้ทั้งคนไทย และคนกัมพูชาขัดแย้งกันสถานการณ์ที่มาถึงจุดนี้เกิดขึ้นจากคนไม่กี่คน ดังนั้นก็พยายามถามทุกวิถีทางที่ทำให้มั่นใจว่าทวิภาคีมีความเป็นไปได้ และจุดนี้ยังไม่ง่าย ในแนวทางการแก้ไขทวิภาคีก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากเท่าไหร่

ซึ่งทางกัมพูชาต้องการผลักดันให้นำพื้นที่ 4 ข้อพิพาทไปคุยในศาลโลก เพราะมองว่าการเจรจาทวิภาคีเป็นไปได้ยาก นายรังสิมันต์ กล่าวว่า รัฐบาลกัมพูชาอาจจะไม่อยากเข้าสู่การทวิภาคีซึ่งอยากใช้กลไกระหว่างประเทศอย่างศาลโลก แต่ในความที่สถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาผิดปกติจนไม่สามารถคุยกันไม่ได้เลยหรือ เรายังสามารถหาแนวทางที่จะสร้างกลไกทวิภาคีได้ ทุกฝ่ายรวมถึงรัฐบาลกัมพูชาต้องพึงตระหนักว่าประเทศทั้งสองประเทศจะต้องตั้งอยู่ตรงนี้ พวกเราไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหนก็ต่างมาและไปเราไม่ควรทิ้งบาดแผลระหว่างทั้งสองประเทศแต่ก็ควรที่จะหาแนวทางของทั้งสองประเทศที่เป็นอยู่ร่วมกันและแก้ไขปัญหานี่เป็นแนวทางที่ควรจะเป็น

ถ้าหากกัมพูชาไม่อยากใช้กลไกทวิภาคีจริง ๆ จึงเป็นโอกาสที่คณะกรรมาธิการต้องคุยกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยากคุยกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเช่นนี้ประจำไม่ค่อยให้ความร่วมมือเพราะคิดว่าตัวเองแก้ไขปัญหาได้ แต่ในความเป็นจริงที่เห็นว่า กระทรวงการต่างประเทศ เป็นกระทรวงที่ไม่ประสบความสำเร็จในทางการทูตเลย แทนที่จะได้ใช้การพูดคุยกัน ข้อต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ หากกัมพูชาไม่อยากใช้กลไกทวิภาคี เราก็ต้องทำงานทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งคิดว่ามีความจำเป็นโดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส ตามที่กัมพูชาพยายามทำทุกวิถีทาง ทำงานทางการทูตกับฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่งกับที่โลก เพื่อให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหานี้ หรือเป็นส่วนหนึ่งที่ประเทศไทยจะต้องทำงานหนักมากกว่านี้

ส่วนกรณีที่ สมเด็จ ฮุน เซน ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ค ว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีใหม่ในอีก 3 เดือนนั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า ต้องรู้เท่าทันความพยายามของสมเด็จฮุน เซน นี่คือสงครามจิตวิทยา และรู้ว่าโพสต์อะไรตอนนี้คนไทยก็จะอ่านและติดตาม ดังนั้นขออย่าไปสนใจเยอะ และตอนนี้ก็รู้ว่าสิ่งที่ปรากฏในคลิปเสียเป็นสิ่งที่แย่มาก ๆ ในฐานะคนอย่างนายกรัฐมนตรี ความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยจะต้องไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น ขณะเดียวกันกลไกตรวจสอบของสภาฯ ที่ปรากฏคลิปเสียงซึ่งนายกรัฐมนตรีถือเอาประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลักก็ต้องเข้าสู่กลไกตรวจสอบในชั้นกรรมาธิการ เช่นเดียวกัน

สำหรับมาตรการปิดด่าน ยังขาดการบริหารเรื่องของผลกระทบที่จะตามมา เช่น มีบริษัทไทยที่ไปลงทุนในประเทศกัมพูชา หรือแม้แต่บริษัทของประเทศญี่ปุ่นที่เปิดตามแนวชายแดน ซึ่งต้องส่งวัตถุดิบมาที่ประเทศไทย ถ้าหากไม่มีการรองรับของผลกระทบที่ตามมาโรงงานแห่งนี้อาจย้ายไปอยู่ที่ประเทศอื่น ถ้าเราไม่มีการรับมือการจัดการเรื่องนี้จะมีผลกระทบแน่นอนสิ้น และจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย อยากร้องไปถึงนายกรัฐมนตรีหากจะมีมาตรการอะไรตามแนวชายแดนต้องคิดให้รอบคอบและมีวิธีการบริหารจัดการอย่างไร ส่วนที่มีการประท้วงในกัมพูชาก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา

ขณะที่เรื่องตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ซึ่งการตัดไฟจะมีการถามข้อมูลเกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่ามีข้อมูลเรื่องนี้หรือไม่ เพราะมีข่าวว่ายังตัดไม่ครบทุกจุด ต้องพิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่ตัด ส่วนเรื่องน้ำมันที่บอกว่าจะไม่มีการนำเข้าจากประเทศไทยแล้ว แต่ยังมีกระแสข่าวว่ายังส่งน้ำมันไปที่กัมพูชา ก็มีการสอบถามแนวทางของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร

ส่วนที่ทางกัมพูชาระบุว่ามีการตัดไฟหมดแล้ว นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีการตัด 3 จุดจากทั้งหมด 6 จุด ซึ่งเป็นข้อมูลที่ออกมาว่ายังตัดไม่หมด และต้องมีการพูดคุยกัน และตรวจสอบว่าเป็นจุดไหน ส่วนจะมีมีความสำคัญกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์มากน้อยเพียงใด

โดยคิดว่าแนวทางที่ดีที่สุดที่รัฐบาลต้องดำเนินการ แยกออกเป็น 3 ขา อย่างแรกเรื่องอาชญากรรม ในการที่ประเทศไทยต้องปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นภารกิจสำคัญและต้องทำ ไม่ใช่เพียงต่อรอง นายกรัฐมนตรีต้องเข้าใจว่า การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่สิ่งที่ไทยจะเอาไปต่อรองกับกัมพูชา เป็นสิ่งที่ต้องทำหากสุดท้ายธุรกิจของกัมพูชาไม่ต้องพึ่งพาธุรกิจสีเทาดำ ตนคิดว่าการเจรจาธุรกิจที่เป็นธุรกิจจริง ๆ ก็คงง่ายขึ้น และตนเห็นข่าวว่าทางการสหรัฐฯ ก็พร้อมให้ความร่วมมือ ซึ่งนายมาริษ ต้องรีบไปคุยว่าจะมีแนวทางอย่างไรในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ส่วนที่สองเรื่องการทูต คิดว่าประเทศไทยต้องทำงานหนักกว่าเดิมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องทำงานหนักกว่านี้ ในการเจรจาพูดคุย และตนเองก็คาดหวังอย่างที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ควรมีแนวทางคล้าย ๆกัน ด้านการพูดและการทำความเข้าใจ ว่าทางกัมพูชาพยายามจุดไฟ สร้างประกายไฟเพื่อจุดความขัดแย้ง ว่าเริ่มมาจากกัมพูชาอย่างไร เป็นสิ่งที่เราต้องทำตนคิดว่ามีมิติเหล่านี้ที่ทำได้ และต้องทำต่อไป

ทั้งนี้การรับมือกับการขึ้นศาลโลก วันนี้ตนได้เชิญนักวิชาการต่าง ๆ ที่จะมาให้ข้อมูล วันนี้เราต้องมีทีมไทยแลนด์ด้านกฎหมายด้วย ไทยต้องมีการเตรียมการเพราะทางกัมพูชาได้เตรียมการล่วงหน้าแล้ว หากไม่มีการเตรียมการเรื่องนี้ไทยจะเสียทีได้ อย่าประมาทว่ากัมพูชาจะไม่สามารถเอาไทยขึ้นศาลโลกได้

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...