โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ส่อง 8 งานศิลป์ชั้นครูที่ไอคอนสยาม ชูศิลปะไทยสู่อาร์ตสเปซระดับโลก

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 04 ต.ค. 2565 เวลา 04.16 น. • เผยแพร่ 03 ต.ค. 2565 เวลา 10.07 น.

ชม 8 งานศิลป์ชั้นครูสุดไอคอนิก เปิดเรื่องราววัฒนธรรมทรงคุณค่า เชิดชูศิลปะไทยสู่อาร์ตสเปซระดับโลกที่ไอคอนสยาม

วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ไอคอนสยาม ได้ทลายกำแพงระหว่างศูนย์การค้า สู่ Public Art Space ด้วยการนำศิลปะร่วมสมัยเกือบทุกแขนง ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยผ่านฝีมือของศิลปินแห่งชาติ และความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินระดับโลกมาไว้ศูนย์การค้าแห่งนี้ โดยแฝงตัวอยู่ในทุกอณูของพื้นที่ ให้ผู้ที่มาเดินช็อปปิ้งและทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมเสพงานศิลป์ชั้นครูไปด้วยกัน

เจาะเวลาจากอดีตสู่ปัจจุบันกับเสาจารึกสีทอง

เริ่มที่ชั้น G โซน ICONLUXE กับผลงาน “จารึกสัญลักษณ์สุวรรณภูมิ คือแสงแห่งปัญญา” ของ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปีพุทธศักราช 2552 ผลงานชิ้นนี้เป็นเสาจารึกสีทองสูง 16 เมตร 4 ต้น ถูกแต่งเเต้มด้วยงานทัศนศิลป์ลวดลายประณีตแฝงด้วยความอ่อนช้อยแต่หนักแน่นมั่นคง

โดยในตัวเสาแต่ละต้นได้บอกเล่าเรื่องราวของอาณาจักรสุวรรณภูมิอุษาคเนย์ (เอเชียตะวันออกเฉียงใหม่) ที่มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ผ่านการเดินทางของวัฒนธรรมตั้งแต่ยุคบ้านเชียงไล่เรียงมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเสาดังกล่าวตั้งเด่นเป็นสง่าบริเวณประตูบานแรกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เปรียบเสมือนประตูเมืองแห่งโลกงานศิลป์จุดแรก ที่จะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมเมือง หลายเชื้อชาติ หลากวัฒนธรรม มาสู่ไอคอนสยาม

ไอคอนสยาม

จากพลังแห่งสายน้ำสู่ประติมากรรมกนกเปลวสามมิติ

ไม่ไกลจากจุดแรกบริเวณโซน ICONLUXE เช่นกัน จะพบกับงานประติมากรรมขนาดใหญ่ที่ Haberdashery Studio อาร์ตสตูดิโอระดับโลกจากประเทศอังกฤษได้รังสรรค์ขึ้นจากเส้นสายลายไทยออกมาเป็นรูปทรงกนกเปลวสามมิติสีเงิน-ทอง-นาก ที่อยู่ด้านบน

โดยลวดลายพลิ้วไหวและแสงระยิบที่ตกกระทบลงบนพื้นผิวของผลงาน เกิดจากการสังเกตเห็นความเปล่งประกายจากกระเบื้องเซรามิกที่สะท้อนบนผิวน้ำ ผลงานชิ้นนี้จึงชื่อว่า “แม่น้ำ” ซึ่งสะท้อนถึงพลังแห่งสายน้ำที่เคลื่อนไหวอยู่นอกอาคาร

ไอคอนสยาม

แชนเดอเลียร์พวงมาลัย

หลังจากชมประติมากรรมเรียบร้อยแล้ว บนเพดานระหว่างโถงทางเดินอาคารที่เชื่อมต่อระหว่างไอคอนสยามและโซน ICONLUXE ยังประดับด้วยแชนเดอเลียร์แก้วขนาดใหญ่ชิ้นเดียวในโลก ที่ออกแบบโดยPetra Junová ดีไซเนอร์แห่ง LASVIT บริษัทออกแบบและผลิตจากสาธารณรัฐเช็ก จากการนำเอกลักษณ์ของคนไทยในเรื่องของความโอบอ้อมอารีจนเป็นที่มาของคำว่า “รอยยิ้มเมืองสยาม” ที่เลื่องลือไปทั่วโลก มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบแชนเดอเลียร์จาก “พวงมาลัย” ที่ร้อยด้วยดอกรักและดอกมะลิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนน้ำใจ ราวกับเป็นการต้อนรับผู้มาเยือนไอคอนสยามด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นแบบไทย

ไอคอนสยาม

ลวดลายโอ่งและผนังแฝงวัฒนธรรมไทย

งานศิลปะถูกแฝงตัวอยู่ในทุกอณูของไอคอนสยามแม้กระทั่งห้องน้ำโดยเฉพาะโซนสุขสยาม ชั้น G ฝั่งภาคกลางและอีสาน ที่ได้รับเกียรติจาก “คุณวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์” ทายาท “เถ้าฮงไถ่” โรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่เมืองราชบุรี มาแต่งแต้มลวดลายลงบนโอ่งที่ปั้นเองกับมือด้วยวิถีดั้งเดิม นอกจากนี้ ผนังของห้องน้ำโซนสุขสยาม ยังได้ถ่ายทอดงานจิตรกรรมไทยร่วมสมัยผ่านผลงานของกลุ่มศิลปิน Hooker’s Green ให้มีเรื่องราวแตกต่างกันตามโซนแต่ละภาค เป็นอีกหนึ่งกิมมิกให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ถ่ายภาพพร้อมชมบันทึกเรื่องราวของไทยที่ควรค่าแก่การจดจำ

ด้วยการเนรมิตห้องน้ำให้เป็นอาร์ตสเปซที่ถูกตกแต่งสวยงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปตามแต่ละโซน ทำให้ได้รับรางวัล “สุดยอดห้องน้ำแห่งปีของกรุงเทพมหานคร” ประจำปี 2562 จากสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และรางวัลมาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน ประจำปี 2564 จากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ไอคอนสยาม

ประติมากรรม “ทองหยอด” แรงบันดาลใจจากท้าวทองกีบม้า

ต่อกันที่โถงทางเดินกลาง ชั้น M ไอคอนสยามได้นำประติมากรรมทองเหลืองรูปทรง “ทองหยอด” ที่เคยถูกนำไปแสดงที่งานเทศกาลศิลปะนานาชาติที่ Venice Biennale มาแล้ว มาไว้ให้ได้ชม

ผลงานชิ้นนี้สร้างสรรค์โดย “คุณอริญชย์ รุ่งแจ้ง” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางของท้าวทองกีบม้า ผู้คิดค้นสูตรตำรับคาวหวานแห่งกรุงศรีอยุธยา งานนี้แฝงเร้นเรื่องราวประวัติศาสตร์ทั้งในแง่สังคม และวัฒนธรรม โดยศิลปินได้เลือกใช้วัสดุทองเหลือง และนำไปผลิตที่โรงงานหล่อพระ ซึ่งทุกกระบวนการที่เลือกใช้ได้สะท้อนตัวตนแบบไทยอย่างลงตัว

ไอคอนสยาม

“เสาแห่งมงคล” สะท้อน “ธรรมะ” กับ “ธรรมชาติ”

บริเวณชั้น M และชั้น 1 ของไอคอนสยาม จะพบกับ “เสาแห่งมงคล” ทองอร่ามทั้ง 8 ต้น ซึ่งสร้างสรรค์โดย “ศาสตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์” ศิลปินไทยที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาภาพพิมพ์ และมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ โดยเส้นลวดลายต่าง ๆ บนเสาเกิดจากการประทับพิมพ์ใบไม้จากต้นไม้มงคลของไทย ได้แก่ ใบจากต้นประดู่ และต้นคูณ โดยเส้นสายสีทองบนเสาที่สะท้อนแสงสุกสกาว ซ่อนนัยความหมายระหว่าง “ธรรมะ” กับ “ธรรมชาติ” ได้อย่างลึกซึ้ง

ไอคอนสยาม

กำแพงศิลป์สไตล์อิมเพรสชันนิสม์ “แสงสยาม”

นอกจากไอคอนสยามจะรวบรวมงานศิลป์ไว้ภายในศูนย์การค้าแล้ว ด้านนอกยังมี Public Art Space ให้ได้ชมเช่นกัน โดยไฮไลต์อยู่ที่ ICONSIAM Park ชั้น 2 กับกำแพงศิลป์ “แสงสยาม” Art Wall ขนาดใหญ่ที่ทอดยาว 60 เมตร ที่ “คุณสิทธิ์วุธ ยาวิชัย” ศิลปินรุ่นใหม่นำ “กระจกสี” หนึ่งในงานของช่างสิบหมู่ของไทย งานพุทธศิลป์ที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน มาสร้างสรรค์เป็นผลงานสไตล์อิมเพรสชันนิสม์ด้วยเทคนิคร่วมสมัย โดยเสน่ห์ของกำแพงศิลป์นี้อยู่ที่แสงเงาธรรมชาติที่สะท้อนเปลี่ยนไปแต่ละช่วงเวลา

ไอคอนสยาม

“รวมพลังความเป็นไทย” ไว้ที่ภาพขนาดยักษ์

ปิดท้ายงานศิลป์สุดไอคอนิกด้วยผลงานเทคนิคคอลลาจ (Collage) รวมพลังความเป็นไทย” บริเวณสุราลัย ฮอลล์ชั้น 7 โดย “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประทีป สุธาทองไทย” ผู้มีชื่อเสียงด้านศิลปะภาพพิมพ์ และ Photo Collage ระดับแถวหน้า ผลงานดังกล่าวได้รวบรวมทุกมิติของความเป็นไทยในแง่มุมต่าง ๆ พร้อมภาพจากผู้คนที่บอกเล่าถึงวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศใน กว่า 35,000 ภาพ มารวมไว้เป็นภาพขนาดใหญ่ยักษ์ 10 x 27 เมตร จารึกด้วยคำว่า “ไทย” ตรงกลาง โดยใช้ฟอนต์ที่ให้ความรู้สึกถึงการบรรจบกันระหว่างความเก่าแก่และสมัยใหม่ พร้อมใช้แพตเทิร์นที่ได้แรงบันดาลใจจาก “ลายผ้าไทย” ด้วยดีไซน์ที่สื่อถึงความโมเดิร์นและไทยดั้งเดิม

ไอคอนสยาม
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...