โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

WHA อู้ฟู่รายได้พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปี'65 แง้มเตรียมปิดดีลครึ่งปีหลัง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 29 ก.ย 2565 เวลา 09.15 น. • เผยแพร่ 29 ก.ย 2565 เวลา 07.58 น.

WHA เผยครึ่งแรก 2565 ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจฟันรายได้ 4,400 ล้านบาท โต 30% สินทรัพย์รวมกว่า 86,400 ล้านบาท คาดผลประกอบการสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 มั่นใจรายได้-กำไร พุ่ง 20% หลังนักลงทุนทะลักจ่อปิดดีลทุกกลุ่มธุรกิจ ยอมรับเป็นปีทองของนิคมอุตสาหกรรม

วันที่ 29 กันยายน 2565 นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่าุ

ปี 2565 เป็นปีที่ผลประกอบการของ WHA ดีเป็นประวัติศาสตร์ และเป็นปีทองของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ คาดการณ์อัตราการเติบโตของรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติจะอยู่ที่ 20% และกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) เกิน 40% ขณะที่ครึ่งปีแรก 2565 ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจฟันรายได้ 4,400 ล้านบาท โต 30% สินทรัพย์รวมกว่า 86,400 ล้านบาท

โดยปี 2565 กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ จะมีการส่งมอบโครงการคลังสินค้าใหม่ ๆ รวมพื้นที่กว่า 51,000 ตร.ม. และจะมีการเปิดตัวโครงการคลังสินค้าดับบลิวเอชเอ เมกะโลจิสติกส์ใหม่อีก 2 โครงการ และพื้นที่ส่วนต่อขยายของโครงการดับบลิวเอชเอ เมกะโลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21 (WHA Mega Logistics Center Theparak KM.21) รวมพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 420,000 ตร.ม.

ซึ่งครึ่งแรกของปี 2565 ส่งมอบพื้นที่รวม 194,300 ตร.ม. ด้วยมีความต้องการเช่าคลังสินค้าระยะสั้นเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจจัดส่งสินค้าแบบด่วน รวมไปถึงตัวแทนให้บริการด้านโลจิสติกส์ (3PL)

และล่าสุด WHA ยังได้ลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพอีคอมเมิร์ซอีก 2 แห่ง คือ บริษัท เมอร์คูลาร์ จำกัด (Mercular) สตาร์ตอัพอีคอมเมิร์ซผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยี และบริษัท มั่งมี อีคอมเมิร์ซ จำกัด (Mungmee) สตาร์ตอัพอีคอมเมิร์ซ B2B ที่มุ่งปฏิวัติการค้าแบบดั้งเดิมของไทยให้ทันสมัยด้วยการใช้เทคโนโลยี

และข้อมูลแบบบูรณาการเพื่อปรับระบบการทำงานของผู้ใช้งานให้เป็นรูปแบบดิจิทัล โดยการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพเหล่านี้ เพื่อผสานความร่วมมือและกิจกรรมทางธุรกิจเข้ากับระบบนิเวศโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่งของบริษัท ซึ่งรวมถึงคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าระดับพรีเมี่ยม

กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม มีพื้นที่อุตสาหกรรมพร้อมขายกว่า 4,250 ไร่ ล่าสุดคือนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 จนเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 1,281 ไร่

ในขณะที่การก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายของนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 (WHA ESIE 4) ขนาด 573 ไร่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 และจะเริ่มก่อสร้างโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง (WHA IER) ในเดือนตุลาคมนี้

ส่วนในเวียดนาม กำลังวางแผนที่จะพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรม ขนาด 5,625 ไร่ รวมส่วนต่อขยายในจังหวัดถั่งหัว ซึ่งอยู่ในระหว่างการขออนุมัติโครงการ โดยโครงการ “WHA Smart Technology Industrial Zone-Thanh Hoa” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองหลักของจังหวัด พร้อมที่จะรองรับความต้องการของนักลงทุนด้านเทคโนโลยีมูลค่าสูง และการขยายโครงการ “Northern Technology Corridor” ของเวียดนาม สำหรับครึ่งแรกของปี 2565 มียอดขายที่ดินทั้งในประเทศไทยและเวียดนามได้ถึง 513 ไร่

กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน โดยดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ขยายผลิตภัณฑ์และการบริการ โดยเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์น้ำเพิ่มมูลค่า เช่น น้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) และน้ำปราศจากแร่ธาตุ

สำหรับประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกมีปริมาณการจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมคุณภาพสูงและการบำบัดน้ำเสีย สูงขึ้น 10% เป็น 62.3 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำเพิ่มมูลค่า เพิ่มขึ้นกว่า 19% เป็น 2.5 ล้านลูกบาศก์เมตร

ส่วนในเวียดนาม WHAUP มีโครงการน้ำที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ 3 โครงการ ผลการดำเนินงานมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 22% โดยเพิ่มขึ้นเป็น 12.8 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากมีฐานลูกค้าและพื้นที่ครอบคลุมการให้บริการน้ำประปามากขึ้น

นอกจากนี้ ยังคงขยายพอร์ตการลงทุนด้วยการพัฒนาโซลูชั่นพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ โดยในครึ่งแรกมีกำลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปตามสัดส่วนการถือหุ้น (Equity MW) จำนวน 62 เมกะวัตต์ และยังได้มีการลงนามโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กับผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมใหม่อีก 15 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 34 เมกะวัตต์

ส่วนโครงการโซลาร์รูฟท็อปของบริษัท ปริ๊งซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่มีกำลังการผลิต 19.4 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถส่งมอบได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยรวมแล้วสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่ลงนามทั้งหมดของโครงการโซลาร์รูฟท็อป คาดว่าจะสูงถึง 150 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้

กลุ่มธุรกิจดิจิทัล ภายในสิ้นปี 2565 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลจะวางไฟเบอร์ออปติกใต้ดิน (FTTx) และพร้อมให้บริการแล้วเสร็จทั้ง 11 นิคมอุตสาหกรรมของ WHA ในประเทศไทย และยังมีการให้บริการเช่าเสาโทรคมนาคมสำหรับติดตั้งอุปกรณ์สำหรับรับและกระจายสัญญาณเครือข่าย 3G, 4G, และ 5G โดยจะดำเนินการสร้างเสาโทรคมนาคมจำนวน 8 ต้นภายในปีนี้

ซึ่งลูกค้าที่จะเช่าเสาโทรคมนาคม ได้แก่ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของไทย เช่น AWN, True และ Dtac นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจดิจิทัลได้มีการขายสินทรัพย์ประเภท ธุรกิจศูนย์บริการระบบข้อมูลสารสนเทศ (Data Center) จำนวน 2 แห่ง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 โดยสร้างกำไรได้ถึง 345 ล้านบาท ปัจจุบัน ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ยังคงถือหุ้นร้อยละ 15 ใน Supernap ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ Tier IV

“ปี 2565 เรามองเห็นความก้าวหน้าอยู่ 2 ประการ ประการแรกคือ การเปิดประเทศอีกครั้ง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ตามมาในยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราได้เห็นการกลับมาของนักลงทุน เห็นได้จากข้อตกลงใหญ่ ๆ และโครงการที่มีมูลค่าเพิ่มต่าง ๆ ของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ เราจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายของปี 2565 ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ รวมถึงการปรับเป้ายอดขายที่ดินขึ้นเป็น 1,650 ไร่

ประการที่ 2 คือ การดำเนินการตามแผนการลงทุนระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 50,000 บาท รวมถึงโรดแมปการทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล ซึ่งจะปูทางไปสู่ความสำเร็จในระยะยาวสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และก้าวสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีในอนาคต”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...