นักเรียน ม.5 ถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินขู่พ่อแม่อาจติดคุก ซ้ำเพื่อนล้อเสียรู้มิจฉาชีพ
จากกรณีผู้ปกครองของโรงเรียนแห่งหนึ่งโพสต์เตือนภัยในกลุ่มผู้ปกครองว่า "ฝาก ผปค. เตือนภัยน้องๆ ค่ะ เมื่อวานเจอมากับตัว ลูกสาวยอมโอนเงินให้ไป 5,000 บาท เท่าที่คุย ได้ข้อมูลมาประมาณนี้ : เค้าบอกว่ามีคนเก็บบัตรประชาชนได้ แล้วไปทำอะไรซักอย่างที่ผิดกฏหมาย ห้ามบอกพ่อแม่ ไม่งั้นพ่อแม่ต้องเข้าคุก ให้รวบรวมเงินที่มีทั้งหมด โอนมาบัญชี เธอเลยทำตามที่เค้าบอก เลขที่บัญชีก็ไม่ได้จดไว้ พอทำรายการเสร็จ ถึงรู้ตัวว่าน่าโดนหลอก คนโทรบอกว่าโทรมาจาก บริษัทส่งสินค้าแห่งหนึ่ง มีของส่งมาจากต่างประเทศ แต่เป็นของผิดกฏหมาย ถ้าไม่ได้สั่งอะไร ให้รีบวางสายอย่าไปเผลอคุยต่อ เค้าจะมีวิธีหลอกล่อจากคำพูดของเรา"
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวติดต่อ นางรัชนี (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี มารดาของ น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รร.แห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามรายละเอียดทราบว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 3 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 11.00 น. ผู้เสียหายเป็นเด็กนักเรียนกำลังเรียนออนไลน์ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทส่งสินค้าแห่งหนึ่ง โทรมาหลอกให้โอนเงินทั้งหมดที่เด็กมีให้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา จับคนร้ายชื่อ นายชูศักดิ์ ฟักสุก พร้อมหลักฐานเป็นกล่องพัสดุจากบริษัทส่งสินค้าดังกล่าว ด้านในมีบัตรเครดิต 7 ใบ และพาสปอร์ต 5 เล่ม โดยเป็นชื่อของ น.ส.ดาว (นามสมมุติ) และได้หลอกให้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา ทางไลน์ ให้โอนเงินจำนวน 5,000 บาท โดยอ้างว่าถ้าไม่โอนเงินให้ ปปง.ตรวจสอบ จะถือว่ารู้เห็นกับคนร้าย พ่อแม่อาจถูกจับติดคุกด้วย
น.ส.ดาว (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.กำลังเรียนออนไลน์ คนร้ายได้โทรมาบอกว่ามีพัสดุส่งมาเป็นของผิดกฏหมายเป็นสมุดบัญชีและพาสปอร์ต โดยให้คุยกับทาง ตร.สภ.เมืองสงขลา จากนั้นก็แอดไลน์แล้วคุยกัน ซึ่ง ตร.บอกว่าได้โทรมาทางไลน์สอบปากคำเพื่ออัดเสียง จากนั้นให้โอนเงินไปให้เขาส่วนตัว เพื่อนำไปให้ ปปง.ตรวจสอบ โดยให้โอนมากที่สุด ทาง ตร.ข่มขู่ตนว่าถ้าไม่ให้คำตอบถือว่าก่อกวนเจ้าหน้าที่ ตนก็หลงเชื่อโอนเงินเก็บ เงินวันเกิด และเงินค่าขนม ไปให้หมดเลย โดยเขาแจ้งว่าผู้ต้องหาที่ก่อคดีถ้าเรื่องสาวไปถือตัวพ่อกับแม่จะติดคุก ซึ่งตนกลัวมาก ไม่อยากให้พ่อแม่ติดคุก
นางรัชนี มารดา กล่าวว่า หลังตนทราบเรื่องพยายามติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชี เขาก็ดำเนินการให้แต่ไม่ทันเงินถูกถอนออกไปแล้ว จากนั้นก็เข้าแจ้งความที่โรงพัก หลังตนทราบเรื่องตนก็โกรธและสงสารลูกด้วย ตนอยากฝากบอกผู้ปกครองและเด็กว่าการซื้อของออนไลน์อาจถูกหรอกได้ ถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องคุย เราต้องมีสติ ก่อนโอนอยากใก้ปรึกษาผู้ปกครองก่อนซื้อของออนไลน์ มิจฉาชีพใช้จุดอ่อนของเด็กที่กลัวพ่อแม่ติดคุก เด็กก็จะทำตาม และก็ฝากบอกเด็กที่เป็นเพื่อนว่าอย่าล้อเลียนเพื่อน เพื่อนก็จะอายแล้วไม่กล้าบอกผู้ปกครอง เรื่องแบบนี้มันเข้าใกล้ตัวทุกวัน ตนก็พยายามบอกลูก แต่ก็ระวังยากสมัยนี้ ตอนนี้ลามมาที่กลุ่มเด็กนักเรียนแล้ว
เบื้องต้นผู้เสียหายและผู้ปกครองได้เดินทางเข้าแจ้งความแล้วที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมทั้งอายัดบัญชีที่โอนเงินไว้เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีเข้ามาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง