นักวิเคราะห์ต่างชาติ มอง “หุ้นไทย” วันนี้ร่วง 2.4% วิตกไทยเสี่ยงเผชิญมาตรการภาษีทรัมป์
นักวิเคราะห์ต่างชาติ มอง "หุ้นไทย" วันนี้ร่วง 2.4% วิตกไทยเสี่ยงเผชิญมาตราการภาษีทรัมป์-เศรษฐกิจไทยอ่อนแอ
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี SET มุ่งหน้าสู่ตลาดหมีทางเทคนิค ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
โดยในวันนี้ (28 ก.พ.68) ตลาดหุ้นไทยร่วงลง 2.4% ซึ่งร่วงลงจากจุดสูงสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2567 มาอยู่ที่มากกว่า 20% โดยหุ้นของบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เป็นกลุ่มที่ส่งผลให้ดัชนี SET ร่วงลงมากที่สุด
โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นในตลาดหุ้นไทยในปี 2568 หลังจากเทขายออกไปเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่าเศรษฐกิจของไทย ซึ่งไม่บรรลุเป้าหมายการเติบโตในปี 2567 จะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากคำมั่นสัญญาของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะเรียกเก็บภาษีต่อประเทศต่างๆ
Pon Van Compernolle หุ้นส่วนผู้จัดการของ RVC Emerging Asia Fund กล่าวว่า “ความอ่อนแอต่อเนื่องของดัชนี SET เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอ เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาไม่ได้นำไปสู่การปรับปรุงเชิงโครงสร้างใดๆ”พร้อมเสริมว่า “เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงการขาดความเชื่อมั่นในตลาดทุนท่ามกลางแรงขายอย่างต่อเนื่องจากสถาบันทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ”
ตามข้อมูลที่ Bloomberg รวบรวมเมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 กองทุนทั่วโลกได้ขายหุ้นในประเทศมูลค่าสุทธิแล้ว 381 ล้านดอลลาร์ในปี 2568
ทั้งนี้ประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อการถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสหรัฐ เนื่องจากประเทศมีอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐสูงกว่าที่สหรัฐเรียกเก็บจากสินค้าที่ส่งออกไปยังประเทศนั้นๆ หน่วยงานของรัฐกำลังพิจารณามาตรการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าของไทย
ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการเติบโต
อ้างอิง : bloomberg.com