ท็อปเจริญ เปิด 4 กลยุทธ์ฝ่าความท้าทาย 78 ปี สู่ผู้นำวงการแว่น
นพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเชนร้าน แว่นท็อปเจริญ ผู้เล่นรายใหญ่ในวงการธุรกิจแว่นตาของไทย กล่าวในงาน PRACHACHAT FORUM: NEXT MOVE Thailand 2025 ภายใต้หัวข้อ ตามหาโอกาส..โลกป่วน เกมเปลี่ยน ถึงยุทธศาสตร์การพาธุรกิจร้านแว่นตาหาโอกาสทางธุรกิจท่ามกลางความท้าทายตลอดระยะเวลากว่า 78 ปี จนสามารถมีสาขามากกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ ว่า พื้นฐานธุรกิจร้านแว่นตาจะมีลักษณะเป็นเสือนอนกิน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ขายสินค้าจำเป็นทัดเทียมปัจจัย 4, สินค้ามีอัตรากำไรสูงและไม่มีวันหมดอายุ, ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทำให้ถูกเลียนแบบได้ยากและมีคู่แข่งรายใหม่น้อย แต่การบริหารจัดการไม่ซับซ้อนเท่าธุรกิจอื่น สะท้อนจากร้านแว่นแบบดั้งเดิมที่สามารถดำเนินธุรกิจแบบรุ่นสู่รุ่นได้ต่อเนื่อง
แต่การจะพาร้านแว่นอย่าง “แว่นท็อปเจริญ” ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาดได้นั้น ต้องอาศัยการวิเคราะห์หาช่องว่าง-โอกาสในตลาด รวมถึงการวางยุทธศาตร์ที่เอื้อต่อการเติบโตในระยะยาว และพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ด้วย
โดยยุทธศาสตร์ที่ช่วยให้บริษัทไม่เพียงสามารถผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ มาได้ แต่ยังสามารถจนมีสาขามากกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศในปัจจุบัน และเริ่มรุกสู่ตลาดอาเซียนนั้นมาจากการโฟกัสใน 4 จุดหลัก คือ การวางระบบของธุรกิจให้สามารถขยายตัวได้ง่าย-รวดเร็ว และการให้ความสำคัญกับคนทั้งบุคลากรในองค์กร และผู้บริโภค การคิดนอกกรอบเพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขันและกระจายความเสี่ยงรับมือความเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการมีวินัยทางการเงิน
สำหรับ การวางระบบ นั้น “นพศักดิ์” อธิบายว่า โจทย์สำคัญที่ทำให้ร้านแว่นแบบดั้งเดิมไม่สามารถมีหลายสาขาได้นั้น เพราะการขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และการที่เจ้าของต้องลงมือบริหารเองทั้งหมด ดังนั้นบริษัทจึงแก้โจทย์ด้วยการวางระบบผลิตบุคลากรสำหรับร้านแว่นตั้งแต่พนักงานวัดสายตา พนักงานเจียรนัยเลนส์ พนักงานขาย ฯลฯ ด้วยศูนย์ฝึกที่แจ้งวัฒนะ เพื่อให้มีบุคลากรพร้อมสำหรับการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกับวางระบบการสร้างร้านสาขาใหม่ที่เรียบง่ายและประหยัดต้นทุน โดยอาศัยการเช่าอาคารซึ่งมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นเพียงหลังหมื่น ต่ำกว่าการซื้อหรือเซ้งที่ต้องใช้เงินลงทุนหลักล้าน รวมถึงออกแบบร้านให้เป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อลดความซับซ้อนและต้นทุนการตกแต่ง ช่วยให้บริษัทสามารถสปีดสาขาได้เร็ว และลงทุนไม่สูงนัก
นอกจากนี้ยังจ้างผู้เชี่ยวชาญมาวางระบบบัญชีและระบบบริหารสต๊อกที่เป็นมาตรฐานไว้ตั้งแต่ต้น ช่วยให้พนักงานประจำสาขาสามารถเป็นผู้บริหารจัดการสาขาของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวางระบบเหล่านี้ช่วยให้แว่นท็อปเจริญสามารถขยายสาขาครบ 100 สาขาได้ภายในเวลาเพียงประมาณ 3 ปี และก้าวกระโดดเป็น 500 สาขาในประมาณ 4 ปีต่อมา
“ปัจจุบันสาขาของร้านแว่นท็อปเจริญส่วนใหญ่ยังคงเป็นการเช่าอาคาร รวมถึงยังเดินหน้าผลิตและฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่องวันละ 400-500 คน ด้วยศูนย์ฝึกในย่านแจ้งวัฒนะ และยังจับมือสถานศึกษาเพื่อผลิตบุคลากรอีกด้วย”
นอกจากนี้ยังก้าวข้ามกรอบของร้านแว่นแบบดั้งเดิม ด้วยการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และการบริการของร้าน-พนักงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและย้ำความแตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนติดแอร์ในทุกสาขา ออกแบบชุดยูนิฟอร์มของพนักงานในสไตล์เดียวกับแพทย์ รวมไปถึงบริการพิเศษ เช่น เสริฟน้ำหวาน หรือแจกคูปองสำหรับทานอาหารในร้านใกล้เคียงกับสาขา เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคที่มาใช้บริการ
เช่นเดียวกับการจับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรปเนื่องจากการตัดแว่นในไทยนั้นมีค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 4 ของยุโรป จนการตัดแว่นเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการเดินทางมายังประเทศไทย โดยระดมเปิดสาขาในจังหวัดท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ตที่มี 50 สาขา พัทยา 40 สาขา รวมถึงย่านสุขุมวิทที่มี 10 สาขา
ขณะเดียวกันยังกระจายความเสี่ยงด้วยการเลือกทำเลเปิดสาขาที่หลากหลายทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้า เช่นเดียวกับรูปแบบการจำหน่ายที่ไม่จำกัดเพียงหน้าร้าน สะท้อนจากช่วงการล็อคดาวน์ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งบริษัทให้พนักงานกว่า 800 คน หันมาไลฟ์ขายสินค้าผ่านโซเชียลแทน ช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และไม่ต้องลดจำนวนพนักงานแม้แต่คนเดียว
ในส่วนของวินัยทางการเงินนั้น ยึดแนวคิด “นกน้อยทำรังแต่พอตัว” ด้วยการไม่กู้เงินโดยเด็ดขาด อาศัยเพียงกำไรจากแต่ละสาขามาเป็นเม็ดเงินลงทุนขยายกิจการ ซึ่งการไม่มีภาระหนี้และดอกเบี้ยเงินกู้ทำให้บริษัทรับมือกับความเปลี่ยนแปลงหรือวิกฤติต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ขณะเดียวกันต้องมองหาโอกาสใหม่ ๆ ที่มาพร้อมการเปลี่ยแปลงให้พบอยู่เสมอ อาทิ เทรนด์ AI ซึ่งบริษัทไม่เพียงนำอุปกรณ์วัดสายตาด้วย AI มาใช้ในสาขา แต่ยังสร้างความร่วมมือกับธุรกิจสัญชาติจีนพัฒนาแว่นตา AI ซึ่งเตรียมเปิดตัวภายในปี 2568 นี้อีกด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ท็อปเจริญ เปิด 4 กลยุทธ์ฝ่าความท้าทาย 78 ปี สู่ผู้นำวงการแว่น
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th