โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

ปืนใหญ่สุดแกร่งเปิดบ้านถล่มล็องส์ เข้ารอบยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่ม

Khaosod

อัพเดต 30 พ.ย. 2566 เวลา 04.36 น. • เผยแพร่ 29 พ.ย. 2566 เวลา 22.09 น.
แชมเปียนส์

อาร์เซนอลโชว์ฟอร์มแกร่งเปิดบ้านถล่มล็องส์ ทำให้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่ม พร้อมช่วยให้พีเอสวีได้อานิสงส์ฉลุยไปด้วย

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน กลุ่มบี “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล จากอังกฤษ เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของล็องส์ จากฝรั่งเศส

เกมนี้เจ้าบ้านจัด กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, บูคาโย ซากา ลงสนาม ส่วนทีมเยือนนำโดย เอลี วาอี, ฟลอริย็อง โซโตกา, อ็องเชโล ฟูลกินี

นาที 13 ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ เปิดบอลเข้าเขตโทษแล้วแนวรับโหม่งสกัดไม่ไปไหน กาเบรียล เชซุส จึงขึ้นโหม่งต่ออีกรอบแล้วกลายเป็นลูกชงให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ปราดมาจิ้มผ่านเซฟนายทวารเข้าไป อาร์เซนอลนำ 1-0

นาที 21 บูคาโย ซากา ถูกแนวรับเข้าสกัดบอลในพื้นที่เขตโทษ แต่ลูกมาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส รับช่วงเล่นต่อล็อกหลบกองหลังแล้วสับไกยิงเสียบตาข่าย อาร์เซนอลทิ้งห่าง 2-0

นาที 23 ไค ฮาแวร์ตซ์ จ่ายบอลให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี เลี้ยงเข้าพื้นที่ด้านซ้ายของเขตโทษแล้วหาช่องจนได้สับไก ผู้รักษาประตูปัดบอลลอยมาโดนตัว บูคาโย ซากา เด้งเข้าสู่ก้นตาข่าย อาร์เซนอลนำไปไกล 3-0

นาที 27 ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ หวดบอลจากแดนตัวเองขึ้นหน้าลอยไปทางกราบซ้าย กาเบรียล มาร์ติเนลลี สปีดมารับได้แล้วเลี้ยงไปจนเข้าถึงพื้นที่เขตโทษ จากนั้นโยกหลอกแนวรับจนสบช่องแล้วสับไกยิงเสียบเสาสอง อาร์เซนอลบวกเพิ่มเป็น 4-0

นาที 37 ล็องส์มีโอกาสลุ้นใส่สกอร์ อ็องเชโล ฟูลกินี แทงบอลทะลุแนวรับให้ เอลี วาอี หลุดเข้าไปยิงมุมแคบทางด้านซ้ายของเขตโทษ ดาบิด รายา ยังทุบออกไปได้

นาที 40 ผู้เล่นอาร์เซนอลถูกแย่งบอลในแดนตัวเอง แล้วลูกมาเข้าเท้า ฟากุนโด เมดินา ยิงจากระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งไปชนเสา ล็องส์ยังตีไข่ไม่แตก

นาที 45+1 อาร์เซนอลได้สวนกลับเร็ว บูคาโย ซากา จ่ายบอลให้ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ หลุดเข้าด้านขวาของเขตโทษ ก่อนเปิดเข้ากลางลอยไปหา มาร์ติน โอเดการ์ด วอลเลย์เข้าไปอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก “ปืนใหญ่” นำสบาย 5-0

ครึ่งหลังนาที 67 ไค ฮาแวร์ตซ์ เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งหลุดเข้าทางด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนจ่ายหักเข้ากลางให้ มาร์ติน โอเดการ์ด สับไกยิงแฉลบกองหลังเล็กน้อย บริซ ซ็องบา ยังเซฟเอาไว้ได้ อาร์เซนอลจึงไม่ได้ประตูเพิ่ม

นาที 85 ผู้ตัดสินดูวีเออาร์ย้อนหลังจังหวะที่บอลมีการโดนแขน อับดูโคดีร์ คูซานอฟ ในพื้นที่เขตโทษ ก่อนเป่าให้จุดโทษแก่อาร์เซนอล จอร์จินโญ รับหน้าที่สังหารเข้าไปในนาที 86 จบเกม “ปืนใหญ่” ชนะขาดลอย 6-0

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เซบียา (สเปน) แพ้ พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) 2-3

จากผลนัดนี้ ทำให้อาร์เซนอลการันตีเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม ขณะที่พีเอสวีก็เข้ารอบเช่นกัน ส่วนล็องส์ตกรอบเพราะแต้มตามหลังพีเอสวี 3 คะแนน แต่เฮดทูเฮดแพ้แน่นอนแล้ว โดยล็องส์กับเซบียาที่ตกรอบเช่นกันต้องไปแย่งโควตายูฟ่า ยูโรปา ลีก ในนัดสุดท้าย

อันดับหลังผ่านไป 5 นัด 1. อาร์เซนอล (12 คะแนน - เข้ารอบแล้ว), 2. พีเอสวี (8 คะแนน - เข้ารอบแล้ว), 3. ล็องส์ (5 คะแนน), 4. เซบียา (2 คะแนน)

กลุ่มเอ กาลาตาซาราย จากตุรกี เปิดสนามรัมส์ โกลบอล สเตเดียม เสมอกับ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ 3-3 ทั้งคู่ต้องไปลุ้นแย่งเข้ารอบกันต่อในนัดสุดท้าย

เจ้าบ้านได้ประตูจาก ฮาคิม ซิเยช นาที 29 และ 62, เคเรม อักตูร์โคกลู นาที 71 ส่วนทีมเยือนได้จาก อเลฮานโดร การ์นาโช นาที 11, บรูโน แฟร์นานเดส นาที 18, สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ นาที 55

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) เสมอ เอฟซี โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) 0-0 บาเยิร์นเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มอยู่แล้ว ส่วนโคเปนเฮเกนต้องไปลุ้นเข้ารอบต่อในนัดสุดท้าย

อันดับหลังผ่านไป 5 นัด 1. บาเยิร์น (13 คะแนน - เข้ารอบแล้ว), 2. โคเปนเฮเกน (5 คะแนน), 3. กาลาตาซาราย (5 คะแนน), 4. แมนฯ ยูไนเต็ด (4 คะแนน)

กลุ่มซี “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว เอาชนะ “อัซซูรา”นาโปลี จากอิตาลี 4-2 ทำให้มาดริดรักษาสถิติชนะรวด และการันตีได้แชมป์กลุ่ม ส่วนนาโปลีต้องลุ้นเข้ารอบต่อจนถึงนัดสุดท้าย

เจ้าบ้านได้ประตูจาก โรดรีโก นาที 11, จูด เบลลิงแฮม นาที 22, นิโกลาส ปาซ นาที 84, โฆเซลู นาที 90+4 ส่วนทีมเยือนได้จาก โจวานนี ซิเมโอเน นาที 9, อ็องเดร-ฟรองก์ ซ็องโบ อ็องกิสซา นาที 47

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน สปอร์ติง บรากา (โปรตุเกส) เสมอ อูนิโอน เบอร์ลิน (เยอรมนี) 1-1 บรากายังได้ลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้าย ส่วนอูนิโอนตกรอบแล้ว แต่ยังมีโอกาสลุ้นไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก

อันดับหลังผ่านไป 5 นัด 1. มาดริด (15 คะแนน - เข้ารอบแล้ว), 2. นาโปลี (7 คะแนน), 3. บรากา (4 คะแนน), 4. อูนิโอน (2 คะแนน)

กลุ่มดี “เหยี่ยวลิสบอน”เบนฟิกา จากโปรตุเกส เปิดสนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ เสมอกับ “งูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน รองแชมป์เก่าจากอิตาลี 3-3 เบนฟิกายังพอมีโอกาสลุ้นไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก ส่วนอินเตอร์เข้ารอบไปตั้งแต่เมื่อก่อนหน้านี้แล้ว

เจ้าบ้านได้ประตูจาก เชา มาริโอ ทำแฮตทริกนาที 5, 13 และ 34 ส่วนทีมเยือนได้จาก มาร์โค อาร์เนาโตวิช นาที 51, ดาวิเด ฟราตเตซี นาที 58, อเล็กซิส ซานเชซ นาที 72 (จุดโทษ) โดยเบนฟิกาต้องเหลือ 10 คน อันโตนิโอ ซิลวา ถูกไล่ออกนาที 86

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เรอัล โซเซียดาด (สเปน) เสมอ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย) 0-0 โซเซียดาดเข้ารอบไปตั้งแต่เมื่อก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนซัลซ์บวร์กตกรอบและยังต้องลุ้นโควตายูฟ่า ยูโรปา ลีก

อันดับหลังผ่านไป 5 นัด 1. โซเซียดาด (11 คะแนน - เข้ารอบแล้ว), 2. อินเตอร์ (11 คะแนน - เข้ารอบแล้ว), 3. ซัลซ์บวร์ก (4 คะแนน), 4. เบนฟิกา (1 คะแนน)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0