หมดยุคตัวเอง พีช พชร รับอิ่มตัวในวงการ ย่างเข้า 30 บทเข้ากับวัยน้อยลง เลือกรับมากขึ้น ชี้อายุนักแสดงสั้น อยู่กับความเครียด
นักแสดงหนุ่ม พีช พชร จิราธิวัฒน์ ที่มาร่วมงานรอบกาล่าภาพยนตร์เรื่อง “อีสานซอมบี้ (E-Sarn Zombie)” ณ อินฟินิซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน ซินีเพล็กซ์ ได้เปิดใจถึงเหตุผลที่เลือกรับงานมากขึ้น และเริ่มอิ่มตัวในวงการบันเทิง เพราะรู้ว่าไม่ใช่ยุคของตัวเอง ด้วยวัย 30 บทเข้ากับอายุน้อยลง บวกกับมีนักแสดงหน้าใหม่เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ
พีช พชร
“ตัดสินใจรับงานแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่อ่านบทแล้วชอบ มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเรื่องนี้จะทำเงินมั้ย มันอยู่ที่ว่าไปทำงานแล้วเราจะมีความสุขกับมันหรือเปล่า และมันสร้างประโยชน์หรือเปล่า ช่วงหลังก็ไม่ได้ถึงขนาดว่ารับแค่แนวคอมเมดี้นะ ก็ปนๆ กันมาตลอด แต่โปรเจ็กต์ติดๆ กันเป็นคอมเมดี้เยอะหน่อย ก็สนุกดีอีกแบบหนึ่งครับ”
“เรื่องนี้ความเป็นอีสานผมคิดว่ามันไม่ได้ท้าทายอะไร แต่ความท้าทายมันเป็นลักษณะของหนังมากกว่า มันยากที่ว่ามันจะเป็นหนังที่คอมเมดี้อย่างเดียวมันก็ไม่ใช่ แล้วตัวมันเองก็ไม่ใช่หนังผี มันมีความส่วนผสมที่ค่อนข้างเสียดสีเยอะเหมือนกัน มันเป็นความยากว่าเราสามารถเล่าให้คนเข้าใจได้มั้ย ว่าเรากำลังล้อเลียนอะไรบางอย่างอยู่ ถ้ามันเล่าแล้วคนไม่เก็ตเขาจะไม่เก็ตเลย ผมว่านั่นคือชาเลนจ์ว่าเรายืนอยู่เหมือนเป็นเส้นเล็กๆ เรายืนอยู่ถูกที่หรือเปล่า”
“ความเป็นซอมบี้ของเมืองไทยเองยังไม่เคยมีขนาดนั้น คิดว่าหนังที่ใกล้สุดคือ ผีห่าอโยธยา ที่เป็นแนวสัปหลาดหน่อย จะไม่ใช่ผีตรงๆ เราได้รื้อซอมบี้แต่ตีความเป็นวัฒนธรรมประเทศเรา ก็น่าสนใจ ที่รับเล่นเพราะอย่างแรกมันให้ความบันเทิงก่อน มันมีเรื่องของครอบครัว เรื่องของเพื่อน เรื่องของการเอาตัวรอด มันเป็นการวัดคุณค่าความเป็นคนของเรา และยังพูดถึงการบริโภคที่เกินควร ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เราพยายามจะตีแผ่ เพราะการที่เราบริโภคมากเดินไปมันไปทำลายวงจรบางอย่าง ทำให้เกิดปัญหาตามมา”
นอกจากผลงานเรื่องนี้ จะได้เห็นโปรเจ็กต์ของเราอะไรอีกมั้ย? “ปีหน้าก็ได้เจอกันแน่นอน เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นของใคร อันนี้ผมมั่นใจว่าน่าจะดีที่สุดที่ผมเคยทำมา น่าจะใหญ่ที่สุด ผมเชื่อว่าออกมาแล้วน่าจะสร้างข้อถกเถียงในสังคมได้เยอะเหมือนกัน”
ช่วงที่หายไปซุ่มทำโปรเจ็กต์นี้ด้วย? “ผมทำโปรเจ็กต์นี้มาประมาณ 2-3 ปีแล้วครับ เร็วๆ นี้จะได้ดูกันแล้ว”
หลายคนเข้าใจว่าเราไปทำธุรกิจเป็นหลัก งานการแสดงน้อยลงเรื่อยๆ? “มันก็เลือกเยอะขึ้นนะ ตามวัย เราก็ไม่ได้วัยรุ่นแล้ว บทหนังก็น้อยลง วงการบันเทิงก็เปลี่ยน มันไม่ใช่ยุคของเราแล้ว ก็มีนักแสดงวัยรุ่นขึ้นมาเยอะแยะมากมาย เราก็เริ่มอยู่ในวัย 30 เริ่มเป็นวัยที่บทจะไม่ค่อยนึกถึงเราแล้ว
ที่คิดว่ามันไม่ใช่ยุคของเราแล้ว อย่างช่วงยุคที่เรา 20 กว่า ก็มีพลังเต็มที่ที่จะทำ บทเป็นหนังรอมคอม นักแสดงวัยรุ่นมักจะมาก่อน เราก็เริ่มหลุดจากเฟดช่วงนั้นแล้วไง ก็ไปตามอายุแหละ งานแสดงก็ยังเป็นอะไรที่เราชอบทำอยู่ แต่เราก็อาจจะเลือกเยอะขึ้นด้วย”
ไม่ได้ยึดติดเรื่องชื่อเสียง? “เราก็ทำตามที่เราอยากทำ ผมมองว่าการที่ผมอยู่ในวงการบันเทิง เราอยากเป็นเสียงในแบบที่เราอยากเป็น เราก็ทำตามหน้าที่ความชอบของตัวเองเป็นหลัก”
รับงานน้อยลงเพราะเริ่มอิ่มตัวกับงานในวงการมั้ย? “มันก็ประมาณนึง ผมมองว่ามันเป็นอาชีพที่ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับเรา วันที่เราอ่านบทมันเป็นอีกอย่าง แต่วันที่งานออกมาก็เป็นอีกอย่าง พอมันผ่านไปเยอะๆ มันก็รู้สึกเหมือนกันความคาดหวังเรากับงานที่ออกมาหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาไม่ตรงกัน มันก็ทำลายความรู้สึกตัวเอง เราพยายามอย่างเต็มความสามารถ ผมแค่คิดว่านักแสดงเป็นอาชีพมันทำอายุตัวเองให้สั้นลง มันอยู่กับความเครียด งานบางครั้งที่ออกมามันไม่ตรงกับที่เราอยากจะได้ มันก็รู้สึกเหมือนกันส่วนหนึ่งเราอยากทำน้อยลง กำลังใจที่มีมันก็น้อยลง
มันเลยวัยที่ผมจะมองความสำเร็จในวงการบันเทิงไปแล้ว ผมมองแค่ว่าเราทำให้ดีให้เต็มที่ที่เราทำได้ เราพูดถึงเมสเสจที่เราอยากจะพูดให้เต็มที่ ทำให้คนดูเชื่อให้ได้มากที่สุดว่า นี่เป็นงานที่ดีที่สุดของเราเท่าที่จะเป็นไปได้”.
ความเห็น 3
TookJutharat 91💝2897
อย่าไปยึดติดกับตัวเลขค่ะ เวลาเด่วนี้เดินเร็วมากร่างกายตามไม่ทันเพราะยังหล่อเท่ห์เหมือนเดิมจ้า
03 ก.พ. เวลา 03.30 น.
€¥£
น้องเล่นดีนะ ไม่ห่วงลุค คือดูออกว่าทุ่มกับงานที่รับ รู้ประมาณตน ไม่ยึดติด
24 ธ.ค. 2566 เวลา 01.45 น.
Tong
วิถีคนรวยสินะ 🙄
23 ธ.ค. 2566 เวลา 10.11 น.
ดูทั้งหมด