โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ความท้าทายของ ‘PTTGC’ กับการก้าวข้าม ผ่านช่วง ‘วัฏจักรขาลง’

The Bangkok Insight

อัพเดต 23 พ.ย. 2566 เวลา 02.07 น. • เผยแพร่ 23 พ.ย. 2566 เวลา 02.00 น. • The Bangkok Insight

ปี 2566 นี้ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อของหลายประเทศ ตลอดจนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังคงอยู่ในภาวะอ่อนตัว กดดันให้ส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีอยู่ในแนวโน้มขาลง และส่งผลให้อัตรากำไรของผู้ประกอบการปิโตรเคมีรายใหญ่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

GC

นี่จึงเป็นความท้าทายสำคัญของธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งต้องมีความสามารถในการปรับตัวตามทิศทางการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดจากทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอกอุตสาหกรรม ด้วยการปรับรูปแบบธุรกิจ สู่การใช้เทคโนโลยีเพิ่มมูลค่า และมุ่งสู่พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมักมีการเปลี่ยนแปลงเป็นวัฏจักร พูดง่าย ๆ ว่ามีขึ้นก็ต้องมีลง ซึ่งในอดีตวัฏจักรของอุตสาหกรรมนี้ จะกินเวลาประมาณ 6 - 9 ปี แต่ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน ทำให้อุปสงค์ และอุปทานในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกว่าแต่ก่อนมากทีเดียว

เพราะฉะนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า ความเสี่ยงขาลง (downside risk) ของหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี น่าจะค่อนข้างจำกัดแล้ว และอาจจะเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นปิโตรเคมีชั้นนำ ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ PTTGC หรือบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

ด้วย PTTGC เป็นแกนนำในธุรกิจปิโตรเคมี และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ของ กลุ่ม ปตท. ที่มีจุดเด่นในการเป็นผู้ผลิตปิโตรเคมี ที่ใช้ก๊าซอีเทนเป็นวัตถุดิบตั้งต้นรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย รวมทั้งยังดําเนินธุรกิจปิโตรเคมี และโรงกลั่นแบบครบวงจร มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมสารไฮโดรคาร์บอนทุกประเภท อีกทั้งยังลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (green chemical)

GC

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTTGC จะปรับลดลง 20% จากต้นปี แต่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวก หลังราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น 2% ดีกว่า SET ที่ -7% และ SETPETRO ที่ -8% สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกมากที่ตลาดมีต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท

ผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 PTTGC พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 1,426 ล้านบาท ฟื้นตัวจากการขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/65 และไตรมาส 2/66 ธุรกิจโรงกลั่นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนกำไร เป็นผลมาจาก GRM ที่แข็งแกร่งระดับ 12.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 5.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ผ่านมา

บทวิเคราะห์ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์เปิดเผยว่า มาตรการภายในช่วยให้ PTTGC ก้าวผ่านวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งบริษัทดําเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ทำให้EBITDA ของบริษัทยังคงเป็นบวกในช่วงที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นขาลง

ส่วนใหญ่เกิดจากแผนงานปฏิบัติการที่เป็นเลิศ (operational excellence) ใน MAX project ช่วยให้ EBITDA เพิ่มขึ้น 3.1 หมื่นล้านบาท (70% ของผลประโยชน์ทั้งหมด) ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา คิดเป็น 14% ของ EBITDA ทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว

คาดว่าทิศทางธุรกิจปิโตรเคมีจะฟื้นตัวในปี 2567 โดยผู้บริหาร PTTGC มองว่าอุปสงค์จะเติบโต 2.9% YoY ตามการเติบโตของจีดีพีโลก นอกจากนี้ PTTGC จะมีการหยุดซ่อมบํารุงตามแผนลดลง โดยเฉพาะโอเลฟินส์แครกเกอร์ที่จะมีการหยุดซ่อมบํารุงโรงโอเลฟินส์แครกเกอร์ 1 หน่วย (OLE2/2) เป็นเวลาเพียง 19 วันในเดือนกันยายน 2567 เทียบกับ 50 วันในปี 2566

GC

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ประเมินมุมมองเชิงบวก (Bullish views) ต่อ PTTGC ได้แก่

1. ต้นทุนวัตถุดิบที่แข่งขันได้ ของ PTTGC ซึ่งหลัก ๆ เป็นอีเทนจากโรงแยกก๊าซของ PTT จะช่วยสนับสนุนความสามารถในการทํากําไรในระยะกลาง

2. PTTGC จะมีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้วัตถุดิบมากขึ้นหลังจากโครงการ Olefins Retrofit Project (ORP) เริ่มดําเนินการในไตรมาส 2/64 และโครงการ Olefins 2 Modification Project (OMP) เริ่มดําเนินการในไตรมาส 2/66

3. แผนของ PTTGC ที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษปลายนํ้า และผลิตภัณฑ์รีไซเคิลในพอร์ตของบริษัท จะช่วยรักษาความสามารถในการทํากําไรในระยะยาว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...