โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สีอุจจาระบอกอะไรได้บ้าง?

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2567 เวลา 08.57 น.

หลังจากที่อาหารผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึมสารอาหารเรียบร้อยแล้ว กากจะถูกขับออกมาเป็นอุจจาระ ซึ่งสีของอุจจาระอาจแตกต่างกันตามลักษณะและประเภทของอาหารที่รับประทานเข้าไป อาจมีสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน หรืออาจเปลี่ยนเป็นสีอื่น เช่น ดำหรือเหลือง คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าหากอุจจาระเปลี่ยนสี หมายความว่าตนเป็นโรคหรือมีบางอย่างในร่างกายผิดปกติ แต่แท้จริงแล้วสีของอุจจาระอาจไม่สามารถบอกถึงปัญหาร้ายแรงใดๆ ในระบบย่อยอาหารได้

- สีอุจจาระแต่ละสีบอกอะไร?

สาเหตุหลักๆ ที่อุจจาระนั้นเปลี่ยนสีเป็นเพราะการบริโภคสิ่งต่างๆ เข้าไป เช่น ยา ผัก ผลไม้ เครื่องดื่มหรืออาหารต่างๆ แต่ในบางครั้งสีอุจจาระอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ ที่รวมไปถึง ท้องเสีย โรคลำไส้ ริดสีดวงทวาร หรือเลือดออกในทางเดินอาหาร เป็นต้น ซึ่งสีอุจจาระที่แตกต่างกันเกิดจากสาเหตุที่ต่างกันดังต่อไปนี้

- อุจจาระสีน้ำตาลหรืออุจจาระสีปกติ

หากมีอุจจาระสีน้ำตาล แทบไม่จำเป็นต้องกังวลใด ๆ เลยเพราะเป็นสีปกติของอุจจาระ เกิดจากน้ำดีในตับที่ทำหน้าที่ย่อยไขมัน แรกเริ่มน้ำดีจะมีสีเหลืองเขียว แต่เมื่อไหลผ่านทางเดินอาหารจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีขึ้น ทำให้อุจจาระออกมาเป็นสีน้ำตาล

- อุจจาระสีเหลือง

อุจจาระสีเหลืองอาจเป็นอุจจาระสีปกติสำหรับใครหลายๆ คน แต่บางครั้งหากมีสีเหลืองจางร่วมกับความมันและกลิ่นเหม็น ก็อาจเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายขาดน้ำดี และอาจมีความเกี่ยวข้องถึงการอุดตันในท่อน้ำดีได้ มากไปกว่านี้ อุจจาระสีเหลืองยังอาจเป็นสัญญาณบอกถึงโรคในช่องท้อง ที่เกิดจากการย่อยอาหารได้ไม่ดี ยกตัวอย่างเช่นการย่อยโปรตีนจำพวกกลูเตนที่อยู่ใน ขนมปัง ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์และคุกกี้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามการมีอุจจาระสีเหลืองจางร่วมกับมีความมันและกลิ่นเหม็น อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากเป็นบ่อยๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อทำการวินิจฉัยต่อไป

- อุจจาระสีเขียว

อาจเกิดจากโรคท้องร่วง เพราะอาการท้องร่วงจะทำให้อาหารที่บริโภคเข้าไปไหลผ่านช่วงลำไส้เร็วเกินไป จนสารเคมีในลำไส้และแบคทีเรียไม่สามารถย่อยน้ำดีได้ ทำให้อุจจาระไม่ออกมาเป็นสีน้ำตาลดังปกติ

อาหารและยาที่อาจทำให้อุจจาระเป็นสีเขียวได้แก่ อาหารเสริมธาตุเหล็ก อาหารหรือเครื่องดื่มที่ใส่สีผสมอาหารสีเขียว หรือผักใบเขียวต่างๆ เช่น ผักโขม

- อุจจาระสีดำ

อาจเป็นสัญญาณของการมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เช่น หลอดอาหาร กระเพาะ ลำไส้เล็กส่วนต้น ในบางกรณีเลือดอาจมาจากเนื้องอก มะเร็ง การอักเสบหรือการรั่วจากหลอดเลือด และถูกย่อยจนเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ อุจจาระสีดำอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ภายในร่างกาย เช่น แผลหรือเลือดออกในหลอดอาหาร เป็นต้น

อาหารและยาที่อาจทำให้อุุจจาระเป็นสีดำได้แก่ ชะเอมสีดำ บลูเบอร์รี่ น้ำองุ่นแดง อาหารเสริมธาตุเหล็กและยาบิสมัทซับซาลิซิเลต เป็นต้น

- อุจจาระสีแดง

ประมาณ 90% ของอุจจาระสีแดงไม่ได้มีสาเหตุมาจากเลือด แต่อาจเกิดจากอาหารที่บริโภคเข้าไป อาหารและยาที่อาจทำให้อุุจจาระเป็นสีแดงได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มที่ใส่สีผสมอาหารสีแดง บีทรูท ซุปมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ เยลลี่สีแดง แครนเบอร์รี่ ชะเอมแดง ยาชนิดอื่น ๆ ที่เป็นสีแดง หรืออาจเป็นสัญญาณของการมีเลือดออกทางเดินอาหารตอนล่าง เช่น ลำไส้ใหญ่ ไส้ตรงและทวารหนัก หรืออาจเกิดจากเนื้องอก มะเร็ง การอักเสบ โรคติ่งในลำไส้ใหญ่ การรั่วจากหลอดเลือดหรือโรคริดสีดวงทวาร

- อุจจาระสีอ่อนหรือสีซีด

อาจเกิดจากการอุดตันในท่อน้ำดี เช่น ท่อน้ำดีตีบตัน ซึ่งอาจเป็นแต่กำเนิด นิ่วหรือเนื้องอก ทำให้น้ำดีไม่สามารถไหลไปสู่ลำไส้ และส่งผลให้อุจจาระขาดน้ำดี

ยาบางชนิดที่อาจทำให้อุุจจาระเป็นสีอ่อนได้แก่ ยาอะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์ (ยาลดกรด) ยารักษาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร บิสมัทซับซาลิไซเลตที่อาจทำให้อุจจาระเป็นสีออกเทา หรือแบเรียม ของเหลวที่ใช้ดื่มก่อนทำการเอกซเรย์ระบบย่อยอาหารส่วนบน
ทั้งนี้ผู้ที่มีอุจจาระสีเขียวหรือสีเหลืองจาง ร่วมกับมีอาการในช่องท้อง มีไข้ เกิดภาวะขาดน้ำหรือท้องร่วงเป็นเวลานาน ควรเข้ารับการรักษาทางการแพทย์
หากพบว่าตนมีอุจจาระสีดำ แดง หรือขาวโดยไม่สามารถสาเหตุแน่ชัด ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจสอบ แต่หากไม่มั่นใจว่าสีอุจจาระที่เปลี่ยนไปเกิดจากกากอาหาร เช่น บีทรูทหรือบลูเบอร์รี่ หรือไม่ ให้ลองหยุดบริโภคอาหารเหล่านั้นดู หลังจากนั้น 2-3 วัน ให้สังเกตถึงความผิดปกติของสีอุจจาระ หากยังคงผิดปกติอยู่ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยต่อไป แพทย์อาจใช้การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร (Endoscopy) หากแพทย์สงสัยว่ามีเลือดออกภายใน

- สีอุจจาระทารก

ปกติแล้วสีอุจจาระของทารกมีสีและลักษณะหลายแบบมาก จนบางครั้งผู้ปกครองอาจไม่ทันสังเกตเห็น สีอุจจาระที่เปลี่ยนไปหรือแตกต่างไปจากเดิม ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติหรือไม่อย่างไร แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณบอกถึงปัญหาในระบบทางเดินอาหารหรือตับได้

- สีอุจจาระปกติของทารกเป็นอย่างไร?

ทารกที่เพิ่งเกิดได้เพียงไม่กี่วัน จะมีอุจจาระสีดำที่เรียกว่า ขี้เทา (Meconium) เกิดจากเมือก น้ำคร่ำ เซลล์ผิวหนังและสิ่งอื่น ๆ ที่ทารกบริโภคขณะอยู่ในครรภ์ ลักษณะหนืดและเหนียวคล้ายน้ำมันเครื่องรถยนต์และไม่ค่อยมีกลิ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติ และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลำไส้ของทารกทำงานได้ดี แต่หากทารกยังมีอุจจาระสีดำติดต่อกันหลังจาก 3 วันแรก ควรไปปรึกษากุมารแพทย์

สีอุจจาระและลักษณะอุจจาระของทารกจะเปลี่ยนไปเมื่อทารกกินนมหรืออาหารเข้าไป ซึ่งจะแตกต่างกันดังนี้

* สีอุจจาระทารกเมื่อดื่มนมแม่ เมื่อทารกดื่มนมแม่จะมีอุจจาระสีเหลืองทอง ลักษณะจะเหมือนครีมเหลว ๆ เละ ๆ แต่กลิ่นจะไม่รุนแรง แต่หากมีสีเขียวและลักษณะเป็นฟอง อาจหมายความว่าแม่ให้นมแต่ละข้างกับทารกไม่นานพอ ทำให้ทารกกินน้ำนมส่วนหน้า (Foremilk) เยอะเกินไป
* สีอุจจาระทารกเมื่อดื่มนมผงสำหรับทารก สีอุจจาระจะออกเหลืองน้ำตาล ลักษณะคล้ายเนยถั่วหรือแป้งเปียกและมีกลิ่นรุนแรงกว่าอุจจาระของทารกที่ดื่มนมแม่
* สีอุจจาระทารกเมื่อกินอาหารแข็ง เมื่อผู้ปกครองเปลี่ยนอาหารของทารกเป็นอาหารแข็ง เช่น ข้าวหรือกล้วยบด สีอุจจาระทารกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้ม ลักษณะเหนียวๆ เละๆ และกลิ่นแรงขึ้น

- สีอุจจาระทารกที่ผิดปกติเป็นอย่างไร?

หลังจากเลยช่วงแรกเกิดมาแล้ว สีอุจจาระของทารกจะเปลี่ยนไปเป็นสีเหลือง เขียวหรือน้ำตาล แต่หากพบว่าทารกมีสีอุจจาระต่างจากสีดังกล่าว และผู้ปกครองไม่สามารถบอกชัดได้ว่าทารกมีอุจจาระสีอื่นเพราะสาเหตุใด ควรรีบพาทารกไปพบแพทย์ทันที

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...