โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

สน ยุกต์ หนักใจหวั่นคนดูเกลียด หลังบทสารวัตรมิตร กระแสดีเกินคาด

Khaosod

อัพเดต 26 ก.ย 2567 เวลา 07.39 น. • เผยแพร่ 26 ก.ย 2567 เวลา 06.51 น.

พระเอกหนุ่ม สน ยุกต์ ปลื้มบทสารวัตรมิตร กระแสดีเกินคาด หนักใจหวั่นคนดูเกลียด ลบคำสบประมาทพระเอกโรบอท ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มฮอตในติ๊กต็อก

สน ยุกต์ ส่งไพศาล เปิดใจครั้งแรกหลังกระแสละครทองประกายแสดดังเกินคาด เผยบทสารวัตรมิตรเป็นการแสดงที่แรงที่สุดในชีวิต พร้อมเล่าย้อนเส้นทางการแสดงโดนคำดูถูกไม่เหมาะเป็นนักแสดงจนได้ฉายาเป็นพระเอกโรบอท ติดตามทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เอส กันตพงศ์ เป็กกี้ ศรีธัญญา และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกร

ร้ายมากในทองประกายแสด? “มีสับขาหลอกนิดนึง กระแสตอบรับคนจะเกลียดเวลาผมพูดคำว่าครับ จนตอนนี้จะพูดคำว่า คะ แทนแล้ว (เวลาไปเจอคนกระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง?) รู้สึกว่ากระแสดีมากๆ ไม่คาดคิดว่าจะดีขนาดนี้เดินไปไหนมาไหนคนทักว่าสารวัตร เดินอยู่ข้างถนนคนก็ทักสารวัตร”

เปลี่ยนไปเยอะมั้ย? “เปลี่ยนไปเยอะ เยอะมากเลย รู้สึกว่ารอบนี้เป็นรอบที่เรามีกระแสมากๆ แทบจะมากที่สุดแล้ว”

ในโซเชียลตอนนี้คือคุณเท่านั้นที่เป็นไวรัลในทุกแพลตฟอร์ม? “พอดีทำ TikTok ด้วย สังเกตได้เลยว่าหลังจากที่ละครออนไปยอดวิวยอดไลก์ขึ้นเยอะมากๆ ยอด Follower ก็ขึ้นเยอะเหมือนกัน เราตั้งใจด้วยอยากทำให้คอนเทนต์มันฮา (แล้วที่ว่าขึ้นเยอะจากอะไร?) ผมว่าช่วยๆ กัน ทั้งทองประกายแสดด้วยแล้วก็ทั้งคอนเทนต์เรา ผมตั้งใจนะที่จะทำให้มันออกมาสนุกมาก”

ตอนแรกอ่านบทแล้วจะไม่เล่นกับบทสารวัตรมิตร บทค่อนข้างแรงมากๆ? “ใช่ครับ เราเป็นพระเอกดีมาตลอด เล่นเป็นคุณชาย เล่นเป็นนักธุรกิจ เป็นภาพที่เรารักษาเอาไว้ ตอนแรกคิดว่าหรือเราควรรักษาภาพต่อไป พอบทมันแรงมากๆ มีสองจิตสองใจว่าจะรับดีมั้ยคิดหนักมาก ขณะที่เล่นอยู่ก็คิดนะแรงไปมั้ยเนี่ย”

แสดงว่าเราไม่เคยมีคาแรกเตอร์นี้ให้ใครเห็นเลย ? “ไม่เคย คือผมคิดว่าคาแรกเตอร์นี้ทำให้ผมออกจากคอมฟอร์ทโซนด้วยทั้งเรื่องการแสดงด้วยทำให้เห็นว่าไม่ต้องเป็นพระเอกดีอย่างเดียวก็ได้ เวลาผมทำคอนเทนต์ด้วยเราไม่ต้องรักษาภาพพระเอกเท่ห์ๆ คูลๆ ก็ได้ เราก็เป็นเราเป็นตัวของตัวเองที่สนุกมากขึ้น”

สิ่งที่กังวลที่สุดในการรับละครเรื่องนี้? “กลัวคนเกลียด ตัวจริงผมก็ไม่ใช่คนแบบนั้นอยู่แล้ว มันเป็นละครที่ดึงด้านดาร์กที่สุดของคนออกมา ฉากบนโต๊ะด้วยเป็นฉากที่ผมคิดหนักเพราะบทมันปูมาอย่างนั้นมันปูมาให้เราต้องเล่นแค้นพี่ชายเราด้วยเหมือนเป็นการปลดปล่อยบางอย่างออกไปค่อนข้างรุนแรง”

ชาวเน็ตมองว่าเลือกเล่นบทนี้เพราะหวังอยากกลับมาดัง? “ถ้าหวังอยากกลับมาดังผมจะเล่นบทนี้หรอ เราไม่รู้เลยว่าตอนแรกจะออกมาเป็นยังไงในพาร์ทของผมก็มีแค่ 6 ตอน ผมไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่ามันจะดีเหตุผลหลักที่รับเล่นเรื่องนี้ผมอยากเล่นกับใบเฟิร์น ผมรู้สึกว่าน้องเขาเป็นนักแสดงมืออาชีพ อยากรู้ว่าเขาทำงานยังไง เขารับเรื่องนี้มันก็น่าจะดีแหละเราก็ไว้ใจก็เลยมาเล่นเรื่องนี้”

เคยได้รับฉายาพระเอกโรบอทมาก่อนทำไมได้ฉายานี้? “ตั้งแต่ละครเรื่องแรก แก้วล้อมเพชร 15 ปีก่อน ช่วงแรกๆ จะได้ฉายาพระเอกโรบอทเยอะมากๆ คือทุกคนเรียกว่าล้อเลยดีกว่าพระเอกโรบอทเดินมาไม่ใช่คำชม ตอนนั้นก็ถือว่ายอมรับก็เราเล่นแข็งจริงๆ ไม่มีทักษะ ไม่มีพรสวรรค์าทางด้านการแสดงจริงๆ พอมาเล่นผมงานก็เป็นแบบนั้น มันก็ยอมรับแต่เราก็ไม่ได้รู้สึกดีนะกับฉายานี้”

มีคนมาพูดต่อหน้าด้วยว่าไม่เหมาะกับการเป็นนักแสดง? “คือผมว่าเขาไม่ได้คิดอะไรหรอก เขาบอกว่าสนอาจจะไม่เหมาะกับการเป็นนักแสดงนะ อาจจะเหมาะแค่เป็นนายแบบมากกว่าสำหรับภาพนิ่ง เขาอาจจะชมว่าผมหล่อแหละ เราก็ไม่ได้รู้สึกดีแต่ก็ไม่ได้ไปเถียงเขาเพราะเราก็เป็นโรบอทจริงๆ”

นอยด์มั้ย? “ผมว่าผมเอามาเป็นแรงผลักดันมากกว่า ลึกๆผมไม่เชื่อ ผมไม่เชื่อว่าผมจะเป็นได้แค่นายแบบ สักวันหนึ่งผมจะพิสูจน์ให้ดูว่าผมก็ทำได้เหมือนกัน เคยคิดไม่เอาแล้ว ไม่เล่นละครแล้ว”

ออกจากวงการดีกว่า? “มีหลายรอบถึงขั้นคุยกับพี่บอย พี่ผมไม่มีกำลังใจเลย ผมเล่นละครไม่ได้หรือเปล่าหรือผมไม่ควรเล่นซึ่งแกก็ให้กำลังใจผมอย่างดีมากๆ จำได้ว่ามี พี่บอย ถกลเกียรติแล้วก็มีหม่อมน้อยที่พูดแล้วทำให้ผมฮึดขึ้นมามันเป็นอาชีพที่เราสามารถมอบความสุขมอบความบันเทิงให้กับคนได้เราได้รับโอกาสอันนี้มาผมควรเปลี่ยนความคิดมั้ย เราสู้ดิ ก็ทำให้ผมมีแรงฮึดขึ้นมา”

มีช่วงหนึ่งเรามั่นใจจนเราไม่ฟังเสียงคนรอบข้างเลยเกิดอะไรขึ้นกับเรา? “เป็นช่วงที่การแสดงผมเริ่มออกมาดีทุกคนเริ่มชมมากขึ้นเหมือนเป็นช่วงพีกของเราด้วยช่วง 26 27 28 แถวๆ นั้น มันทำให้เรามั่นใจในตัวเองมาก มันเป็นมายเซ็ตที่ทำให้ผมไม่ค่อยรับฟังคนอื่น ไม่ค่อยรับฟังบางคนที่วิจารณ์มา ตำหนิอะไรมาผมจะต่อต้านเขา แทนที่จะฟังแล้วมานั่งวิเคราะห์มันต้องมีความจริงอยู่บ้างแหละที่เขาพูดมา”

คำว่ามั่นใจกับลืมตัวมันมีเส้นบางๆ มันฝั่งไหนมากกว่ากัน? “มั่นใจ ผมยังไม่ลืมตัว ยังเป็นสิ่งที่ผมสามารถคอนโทรลได้เราไม่ได้เหลิงนะ ถึงแม้ว่าเรามีกระแสเราดังแล้วเราเอาตรงนี้อยู่ สิ่งที่ผมพูดคือเรื่องการวางตัว การแสดง หรือว่าทักษะในด้านต่างๆ ของผมที่ผมมั่นใจว่าดีแล้ว พอเขามาพูดผมรู้สึกไม่ค่อยดี ผมไม่เชื่อ มันเป็นมายเซ็ตที่ทำให้เราไม่ขวนขวายที่จะเติบโตและเรียนรู้มากขึ้น”

แล้วเรามารู้สึกตัวตอนไหน? “ช่วงประมาณอายุ 30 ผมเริ่มรู้สึกว่ามันไปต่อไม่ได้เหมือนมันอั้นอยู่แค่นี้มานานแล้วจะไปต่อยังไง ชีวิตเรามันน่าจะไปได้มากกว่านี้แต่มันมีข้อไหนที่ทำให้ผมยังไปต่อไม่ได้ ผมก็เลยเริ่มเส้นทางการค้นหาตัวเองแล้วก็พัฒนาตัวเอง

ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ไปลงเรียนอะไรมาหลายอย่างมาก? “ผมใช้คำว่าถอดหัวโขนตัวเองออกพร้อมจะรับฟังในข้อผิดพลาดหรือข้อที่ตัวเองสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ไปคุยกับเทอราพิส ไปเรียนคอร์สต่างๆเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง อ่านหนังสือ เหมือนสะท้อนตัวเองมองให้เห็นว่าเราสามารถพัฒนาตัวเองอะไรได้บ้าง”

ไปหานักจิตบำบัดด้วย? “ใช่ ผมต้องบอกก่อนผมไม่ได้เป็นโรคจิตหรือเป็นบ้านะ มันมีจิตบำบัด จิตเวช จิตแพทย์ ถ้าจิตแพทย์ จิตเวชจะสำหรับคนที่ป่วย ส่วนจิตบำบัดก็คือเทอราพิสเขาเหมือนมาช่วยแงะปมของเรา นิสัยเก่าๆของเราที่เรามองไม่เห็นตัวเอง อะไรที่ทำให้เราไปต่อไม่ได้”

เขาวิเคราะห์อะไรในตัวเราบ้าง? “ศาสตร์ที่เขาเรียนมาเขาจะมีเซ็ตคำถามที่จะทำให้เราพอถามปุ๊ปทำให้โยนไปคำถามถัดไปทำไมเราถึงเป็นแบบนี้เพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น ย้อนกลับไปตอนเราเด็กๆ ทำให้เราเห็นว่านิสัยนี้ที่เรามีอยู่ทุกวันนี้ที่เราอยากจะแก้แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง มันมาจากไหน เราไปแก้ที่จุดเริ่มต้นเลยเพื่อที่เราจะสามารถเปลี่ยนมายเซ็ตได้”

ตอนนี้มีวิธีคิดแก้ไขกับปัญหาที่เคยเกิดขึ้น? “ผมรู้สึกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ผมก้าวกระโดดในเรื่องความคิด รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นเยอะมาก คุณที่มีปัญหาหรือคุณไม่มีปัญหาคุณก็ไปได้นะ คนที่ไม่มีปัญหาไปเพื่อให้เห็นปัญหาของตัวเอง เพราะว่าบางทีเรามองไม่เห็นหรอก”

ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระแล้วเป็นอย่างไรบ้าง? “มันก็มีข้อดี ตอนเป็นนักแสดงที่มีสังกัดมันมีข้อดีอยู่แล้วมันเป็นช่วงที่ผมเติบโต ช่วงเรียนรู้ ถึงแม้ว่าเราจะเล่นละครได้ไม่ดีซักเท่าไหร่ผู้ใหญ่ก็ยังให้โอกาสเสมอ ต้องขอบคุณพี่บอยและขอบคุณเอ็กแซ็กท์มากๆ ครับ พอมาเป็นนักแสดงอิสระมันก็มีข้อดีเช่นกันตอนนี้เราไม่มีแบ็คแล้ว ไม่มีใครมาป้อนงานเรา เพราะฉะนั้นเราจะต้องถีบตัวเองผลักดันตัวเองให้พัฒนาขึ้นไป การที่เราจะมีงานเพราะว่าคุณภาพงานของเราเท่านั้นจริงๆ”

ใช้เวลาในการตัดสินใจนานมั้ย? “นานนะ มันก็มีความกลัว ก่อนที่ตัดสินใจจริงๆ เราต้องถามตัวเองว่าพร้อมจริงๆหรือเปล่า เราตัวคนเดียวแล้วนะ (ก่อนจะลงปากการู้สึกโหวงมั้ย?) โหวงและหลังจากลงปากกาแล้วคือเราเห็นจริงๆคือการป้อนงานของเรามันน้อยลงไป มันก็ยังมีอยู่ ละครหรือหนังก็ยังติดต่อมาเรื่อยๆ แต่ว่าตัวเอกตัวที่เขาจะดันมันน้อยลงไปเห็นได้ชัดมากๆ”

เหตุผลที่ต้องการเป็นนักแสดงอิสระ? “จริงๆ มีหลายค่ายติดต่อมาแล้วก็เป็นบทบาทที่อยากจะลอง บทบาทใหม่ๆเลยคิดว่าผมอยากจะลองเปิดตัวเองด้วย อยากจะเอาตัวเองไปอยู่ในแรงกดดันด้วย ก็ตื่นเต้นดีช่วงปีสองปีแรกก็ลุ้นๆ อยู่”

เหนื่อยมั้ย? “ผมมองว่าเป็นเรื่องสนุกมากกว่า เมื่อก่อนผมไม่ได้โฟกัสเรื่องการถีบตัวเองขนาดนี้ เราก็เอาหัวไปคิดเรื่องอื่น คิดเรื่องชาวบ้าน คิดเรื่องเที่ยว ตอนนี้กลายเป็นว่าเราโฟกัสมากๆ กับการพัฒนาตัวเองทั้งแง่จิตใจ ร่างกาย ฝีมือ ทุกๆแง่ของชีวิต”

วิธีการเลือกรับงานเป็นยังไง? “คนจะใช้เราด้วยคุณภาพงานของเราจริงๆ เพราะฉะนั้นเวลาผมเลือกงานผมจะเลือกงานที่ผมเข้าถึงทำออกมาได้ดี เป็นบทบาทที่ผมอินจริงๆ อาจจะไม่ใช่พระเอกก็ได้ เล่นแล้วมีเหตุผลซัพพอร์ต มีเหตุผลของตัวละครที่ทำให้เราสามารถตีความและแสดงฝีมือได้ ท้าทายหรือเปล่า”

ซีรีส์วายถ้าติดต่อมาจะรับมั้ย? “พูดตรงๆ ตอนนี้ก็มีติดต่อเข้ามาบ้าง อย่างที่บอกต้องเลือกบท ผมไม่ได้มองว่าเป็นซีรีส์วายหรือเป็นละครธรรมดา มองว่าบทนี้มีอะไรที่ท้าทายให้เราเล่นให้เราแสดงฝีมือหรือเปล่า”

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/xX2VWVlpVGo?si=wRoBBxGaiyHoJqyq

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สน ยุกต์ หนักใจหวั่นคนดูเกลียด หลังบทสารวัตรมิตร กระแสดีเกินคาด

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...