โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ไขปริศนา “ระฆังวัดพระแก้ว” หล่อขึ้นในรัชกาลที่ 1 หรือรัชกาลที่ 4?

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 09 มิ.ย. เวลา 22.05 น. • เผยแพร่ 09 มิ.ย. เวลา 21.53 น.
หอระฆัง วัดพระแก้ว

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เป็นวัดที่มีความงดงามทั้งสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม หนึ่งในนั้นคือ “หอระฆัง” ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระอุโบสถ เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สร้างเป็นบุษบกทรงมณฑป งามตาด้วยกระเบื้องถ้วยสีต่างๆ โดยหอระฆังที่เห็นกันในปัจจุบันนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้สร้างขึ้นใหม่ แล้ว “ระฆังวัดพระแก้ว” ที่อยู่ด้านบน หล่อขึ้นในยุคไหน สมัยรัชกาลที่ 4 ใช่หรือไม่?

ไขปริศนา “ระฆังวัดพระแก้ว”

ผศ. ธนโชติ เกียรติณภัทร ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าในบทความ “เพลงยาวกรมศักดิ์ : ความรัก ความหลัง และระฆังวัดพระแก้ว” ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน 2567 ว่า

ระฆังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ปรากฏใน “เพลงยาว” ที่ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือ “วังหน้า” ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็น “กรมหมื่นศักดิพลเสพ” ทรงพระราชนิพนธ์โต้ตอบกับ พระองค์เจ้าดาราวดี พระราชธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท วังหน้าในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ในเพลงยาวระบุว่า “ระฆังพระแก้วตีเตือน ร้อนใจเหมือนจักขว้ำ อกพี่แรงชอกช้ำ เร่งช้ำใจถึง” เมื่อฝ่ายหญิงมีเพลงยาวตอบกลับ ได้เปรียบเทียบความรักของฝ่ายชายว่าจะกลับกลายเป็นระฆังสองเสียง ดังนี้

“อันเดิมตีนี้ระฆังในวัดพระแก้ว พี่หวาดแว่วว่าจะเป็นเช่นสองเสียง
ไก่กระพือปีกขันสนั่นเวียง ส่งสำเนียงเร้าเร่งดาเรศแรง
วินิจดาวคราวเมื่อดึกเด่นระดาษ ดูอนาถจวนรุ่งก็โรยแสง
วิตกเช่นเห็นประกายพรึกแปลง ถึงยามแจ้งแล้วจะโอ้แต่อกรัว”

เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพทรงได้รับเพลงยาวนี้ ก็ทรงตอบกลับด้วยการยืนยันถึงความรักของพระองค์ว่ายังมั่นคงดั่งระฆังวัดพระแก้ว ที่มีเสียงไพเราะเป็นหนึ่งเดียว (เน้นคำโดย กอง บก. ศิลปวัฒนธรรม)

“ซึ่งยังหมองสองเสียงระฆังวัด พระศรีรัตนศาสดาสถาน
ถึงจะทุ่มหนักเบาก็บันดาล ส่งกังวานเสนาะลั่นไม่พลิกแพลง
แต่แรกหล่อมาก็นานจนปานนี้ สิบเจ็ดปีตีเป็นนิจไม่ผิดกระแสง
แล้วเด่นเดียวอนาถโอ้อยู่กลางแปลง มิใช่จะแข่งเปลี่ยนเสียงเช่นวัดระฆัง
ถึงจะระดมพร้อมตีทีละห้า โดยสัญญาจะให้เป็นเสียงเดียวมั่ง
ก็เอาเทิดสำเนียงแปร่งไม่อยากฟัง บ้างก็ดังเหง่งหงั่งไม่ยั่งยืน”

ผศ. ธนโชติ ตั้งข้อสังเกตว่า เพลงยาวข้างต้นระบุว่า ระฆังที่วัดพระแก้วเป็นระฆังที่หล่อขึ้นโดยเฉพาะ และหล่อมานานถึง “สิบเจ็ดปี”

หากยึดตามข้อสันนิษฐานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ว่าสิบเจ็ดปีในเพลงยาวกรมศักดิ์ ตรงกับสิบเจ็ดปีนับตั้งแต่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทสวรรคต

ดังนั้น ระฆังซึ่งอยู่ที่วัดพระแก้วควรจะหล่อขึ้นราว พ.ศ. 2346 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

นอกจากนี้ ยังมีคำถามด้วยว่า ระฆังที่วัดพระแก้วเป็นระฆังที่นำมาจากแหล่งอื่นหรือไม่

หลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่า ระฆังนี้ไม่ได้นำมาจากที่ไหน แต่หล่อขึ้นโดยเฉพาะ คือ สมุดไทยเรื่อง “สำเนารายงาน เล่ม ๕ ว่าด้วยการปฏิสังขรณ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จ.ศ. 1193 (พ.ศ. 2374)” กล่าวถึงประวัติการหล่อระฆังเมื่อครั้ง “สมเด็จพระพุทธิเจ้าอยู่หัวอันทรงธรรม” (ควรหมายถึงรัชกาลที่ 1) และการบูรณปฏิสังขรณ์หอระฆังครั้งรัชกาลที่ 3 ไว้ดังนี้ (จัดย่อหน้าใหม่และเน้นคำโดยกอง บก. ศิลปวัฒนธรรม)

“องค์ระฆังแขวนห้อยร้อยเหล็กห่วง อยู่กลางดวงดาวยาววา ๑ ถึงขอเหล็กล้วนปิดทองลงมาคล้องหน่วงห่วงนาคหลังระฆังทองหล่อ ปากแลคอข้างแลขอบรอบไปล้วนใสขัดหมดจด ผ้าพาดแลราดตะคดแลปุ่มนั้นปิดสุวรรณคำเปลวล้วน

โดยส่วนสูงศอกคืบ ๕ นิ้ว กว้างศอก ๔ นิ้ว ขึ้นลอยลิ่วลั่นชื่อฦๅเสียงสำเนียงเสนาะ เมื่อถึงยามย่ำบัณเฑาะก์เพราะดังเปนกังวาน วิเวกหวานวังเวงเหง่งแว่วเข้าแก้วหู เป็นที่ชื่นชูใจไพร่ฟ้าวงศาสุรศักดิ์ เคยประจักษ์จำสำเหนียกสำเนียงไก่เมื่อตี ๑๑ เสียงเป็นเม็ดโลดลอยละห้อยหวนครวญครั่น จึ่งชวนกันตื่นขึ้นภาวนาหาของธารณะ ระฆังพระทั้งปวงจึ่งตีตามเมื่อผ่ายหลัง

เสียงเคาะไม้ดั่งโด่งเปรียบเทียบถึงเสมอสอง มาถ่ายอย่างสร้างจำลองไปหล่อเลียนก็เพี้ยนเสียง ไม่เคียงคู่สู้ไม่ได้ไม่มีใครเทียมทันเป็นขวัญเมือง เลื่องฦๅดีอยู่ในศรีอยุทธยามหาดิลกภพ นพรัตนราชธานี ด้วยเดิมทีสมเด็จพระพุทธิเจ้าอยู่หัวอันทรงธรรม อนันตคุณวิบุลเลิศฟ้าที่ล่วงแล้วนั้นทรงหล่อ พร้อมด้วยพระหน่อสุริวงศ์เสนาอนงค์นางใน ถอดกำไลแหวนทองแลเงินแลนาคนั้นหลากหลาย ใส่ละลายหล่อหลอมพร้อมเพรียงเสียงจึงดี ด้วยบารมีภินิหารวันทรงหล่อต่อตั้ง

มาครั้งนี้เล่าสมเด็จพระพุทธิเจ้าอยู่หัวอันทรงธรรมวิริยาธึก โดยลึกซึ้งแสนละเอียดสุขุมภาคมาตรงปฏิสังขรณ์ ก็ยิ่งวัฒนาถาวรวิจิตรโจกระฆังทั้งจังหวัด คู่บารมีพระศรีรัตนปฏิมากรมรกต ซึ่งพระอินทร์องค์ทรงรจนามาแต่งตั้ง ใครได้ฟังก็เป็นมงคลควรเงี่ยหูชื่นชูใจ”

สรุปแล้ว ระฆังวัดพระแก้ว จึงเป็นระฆังที่พระเจ้าแผ่นดินโปรดให้หล่อขึ้นโดยเฉพาะ ไม่ได้นำมาจากที่อื่นใดนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 ตุลาคม 2567

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไขปริศนา “ระฆังวัดพระแก้ว” หล่อขึ้นในรัชกาลที่ 1 หรือรัชกาลที่ 4?

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...