เปิดที่มา หมามะพร้าว คืออะไร และทำไมถึงกลายเป็นไวรัล
หากช่วงนี้ใครที่เข้าไปท่องโลกนกฟ้า อย่าง ทวิตเตอร์ น่าจะเจอกับคำว่า “หมามะพร้าว” ที่กำลังเป็นกระแสพูดถึงในวงกว้าง ขณะนี้ และสงสัยว่าคืออะไร ทำไมถึงถูกใช้อย่างแพร่หลาย
มติชน ไขทีละคำถาม ดังนี้
- หมามะพร้าว คืออะไร
หมามะพร้าว หมายถึง คาปิบารา (Capybara) สัตว์บกที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “หนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” เหตุที่เรียกว่าหมามะพร้าว มาจากลักษณะที่คล้ายสุนัข แต่มีขนเหมือนมะพร้าว
ทั้งนี้ไม่มีข้อมูลระบุแน่ชัดว่า คนไทยที่ริเริ่มเรียกคนแรกว่า หมามะพร้าว คือใคร ทว่าสามารถอนุมานได้ว่าเริ่มเป็นกระแสนิยมในการใช้คำดังกล่าว เพื่อระบุตัวตนของคาปิบารา มาจาก แอ๊กเคาต์ทวิตเตอร์ ชื่อ wednesday (@wednesdaynnc) ที่ได้โพสต์ภาพคาปิบารา
พร้อมระบุว่า “มีใครวิจัยยัง ทำไมหมามะพร้าวต้องทำหน้าเหม่อตลอดเวลา 555555555555555555555555” เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทวิตเตอร์ดังกล่าวมีผู้รีทวีตไปกว่า 4.6 หมื่นครั้ง ทั้งยังโควตทวิตไปกว่า 700 ครั้ง
- ทำไมคำว่า หมามะพร้าว ถึงแมส (ได้รับความนิยม-แพร่หลาย)
สืบเนื่องจากมาจากทวิตเตอร์ที่กล่าวไปข้างต้น ว่าได้ระบุถึง คาปิบารา โดยใช้คำว่า “หมามะพร้าว” ทั้งนี้ได้มีแอคเคาต์ทวิตเตอร์ ชื่อว่า @wenzde_ ได้ทำภาพกราฟิกประกอบ ส่งให้คำว่า หมามะพร้าว = คาปิบารา ชัดขึ้น โดยการนำภาพหมาสีน้ำตาล มาผนวกกับลูกมะพร้าว กลายเป็น คาปิบารา ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับคำว่า หมามะพร้าว อย่างมาก
ส่งผลให้ทวีตดังกล่าวมีผู้แชร์ออกไปแล้ว 2.7 หมื่นครั้ง ทั้งยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม นอกจากคำว่า หมามะพร้าว แล้วนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาปิบารา ยังมีอีกชื่อเรียกว่า “กะปิปลาร้า” ซึ่งมาจากการพ้องเสียงกับคำว่า คาปิบารา นั่นเอง
- รู้จัก คาปิบาร่า / หมามะพร้าว / กะปิปลาร้า ให้มากขึ้น
คาปิบารา เป็นการวิวัฒนาการของสัตว์บกที่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในน้ำ เช่น การมีแผ่นหนังระหว่างนิ้วเท้าเพื่อการเคลื่อนที่ในน้ำและพื้นโคลน ส่วนตาและจมูกจะวางอยู่ด้านบนของหัวที่มีขนาดใหญ่ ช่วยให้คาปิบาราสามารถเห็นพื้นที่รอบข้าง และหายใจในช่วงการว่ายน้ำได้ ดำน้ำได้นานประมาณ 5 นาที ขนเส้นเล็กหยาบที่ช่วยให้ขนแห้งไว
เจ้าหมามะพร้าว จะโตเต็มวัย อายุ 18 เดือน และมีอายุขัยเฉลี่ย 6-12 ปี ความสูงช่วงไหล่เฉลี่ย 50 เซนติเมตร ความยาวจากปลายจมูกถึงโคนหางเฉลี่ย 130 เซนติเมตร น้ำหนักอยู่ในช่วง 35-70 กิโลกรัม ทำให้คาปิบาราเป็น “หนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก”
ทั้งนี้ สถานภาพปัจจุบัน “เสี่ยงต่ำ” ต่อการสูญพันธุ์ เพราะเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ จะผสมพันธุ์ในน้ำ ช่วงการตั้งท้องประมาณ 5 เดือน ออกลูกครั้งละ 4-5 ตัว โดยมีเพศเมียตัวอื่นๆ ช่วยดูแล ลูกคาปิบาราจะยังว่ายน้ำไม่เป็น ต้องหลบตามพุ่มไม้ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อของสัตว์ผู้ล่า เช่น หมาจิ้งจอก แร้ง
ด้วย คาปิบารา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่บนบก แต่ใช้เวลาไม่น้อยในแต่ละวันอยู่ในน้ำ ถิ่นที่อยู่จะเป็นสระน้ำ แม่น้ำ ทะเลสาบในพื้นที่ป่าดิบชื้น หรือทุ่งหญ้าและป่าโปร่งซาวันนา
นอกจากนี้ ยังเป็นสัตว์สังคมที่มีการอยู่รวมกับคาปิบาราตัวอื่นๆ เป็นรวมกลุ่มของหลายๆ ครอบครัวมารวมกันโดยมีจำนวนสมาชิกรวมกันประมาณ 10-20 ตัว โดยจะมีเพศผู้ที่เป็นจ่าฝูง และสมาชิกจะประกอบด้วยเพศเมียและลูกๆ รวมทั้งเพศผู้อันดับรองลงมาด้วย
โดยตัวผู้ลำดับรองจะอยู่ในพื้นที่วงนอกของฝูง เพื่อเป็นตัวคอยเตือนภัยให้สมาชิกในฝูงรู้ว่ามีสัตว์ผู้ล่ากำลังใกล้เข้ามา กลุ่มของคาปิบาราจึงมักจะประกอบด้วยจ่าฝูงและเพศเมียสองตัว
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสมอคือเพศผู้ลำดับรองจะตกเป็นสัตว์เหยื่อของสัตว์ผู้ล่า ตัวผู้ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์จะถูกไล่ให้ไปอยู่วงนอกของฝูงเพื่อเป็นตัวระวังภัยแทน ตัวจ่าฝูงจะเป็นตัวที่ได้ผสมกับตัวเมียในฝูงและลดความเสี่ยงจากสัตว์ผู้ล่า
ข้อมูลจาก องค์การสวนสัตว์ (zoothailand.org)
อย่างไรก็ตาม สำหรับในประเทศไทย ก็มี เซเลบริตี้ คาปิบารา เหมือนกัน หากใครอยากชมก็สามารถไปดูได้ที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และทางเพจขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง ที่ในแก๊งก็มีเจ้าหมามะพร้าวตัวอวบๆ คอยอัพเดตอยู่เสมอๆ
ความเห็น 1
Pattie
หน้าเหม่อจริงด้วย 🤣
07 มี.ค. 2566 เวลา 05.42 น.
ดูทั้งหมด