รีบอุทธรณ์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ผ่านเกณฑ์ 1.2 ล้านราย ใช้จ่ายเกือบ 2 พันล้าน
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ผ่านเกณฑ์ 1.2 ล้านราย รีบยืนยันตัวตนที่แบงก์กรุงไทย ใช้จ่ายเกือบ 2 พันล้าน ลงทะเบียนรับค่าไฟ-น้ำได้ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 บ้าน
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.66 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการใช้สิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2566 ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มี.ค.66
โดย ณ วันที่ 3 เม.ย.2566 เวลา 13.00 น. มีมูลค่าการใช้สิทธิสะสมจำนวนกว่า 1,990.17 ล้านบาท จากผู้มีสิทธิฯ จำนวนกว่า 6.64 ล้านราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นการใช้สิทธิในวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว โดยข้อมูล ณ วันที่ 3 เม.ย. 2566 เวลา 13.00 น. พบว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 12,902,750 ราย คิดเป็น 88.39% ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย และจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ณ วันที่ 3 เม.ย.2566 เวลา 13.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 1,220,693 ราย
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 มี.ค.66 ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งในการยืนยันตัวตนผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้
ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายใต้โครงการฯ ปี 2565 ที่ประสงค์จะรับสิทธิมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสวัสดิการของมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน
ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าน้ำประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน ซึ่งได้เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาได้ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.66 เป็นต้นไป