โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เพื่อนบ้านเล่านาทีบุกช่วย พล.ต.ท.ปัญญา หลังโดนภรรยาลั่นไกปลิดชีพดับ

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 19 ก.พ. 2566 เวลา 22.56 น. • เผยแพร่ 20 ก.พ. 2566 เวลา 05.27 น.

จากกรณีเมื่อวันที่ 19 ก.พ.66 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข โดนยิงเสียชีวิต โดยนางพรประภา ปิ่นสุข อายุ 67 ปี ผู้เป็นภรรยารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงพล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร. เสียชีวิต เบื้องต้นสาเหตุที่นางพรประภาลงมือมาจากเรื่องความเครียดปัญหาส่วนตัวภายในครอบครัว ซึ่งตำรวจสน.ธรรมศาลา ได้แจ้งข้อกล่าวหา นางพรประภา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ทั้งนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมจากนายชัยรัตน์ เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่เข้าไปช่วยอุ้มร่างพลตำรวจโทปัญญา ในวันเกิดเหตุ เล่าว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากซักผ้า ขับรถผ่านมาถูกช่างเหล็กเรียกให้เข้าไปช่วยนายตำรวจ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แค่จะเข้าไปช่วยเท่านั้น โดยตนไม่กล้ารีบเข้าไปในบ้าน จึงรอให้ครบ 4 คนแล้วเข้าไปพร้อมกัน

แต่พอมาถึงชั้นล่างไม่สามารถนำร่างขึ้นรถได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมากก่อนที่เพื่อนบ้านรายหนึ่งจะทับว่าหากเสียชีวิตไม่ควรเคลื่อนย้ายศพ ทุกคนจึงตัดสินใจวางร่างไว้กับพื้น รอการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาพลตำรวจโทปัญญาและภรรยา ไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันมานานแล้วครั้งล่าสุดคือเมื่อหลายปีที่แล้ว

ด้านบุตรสาวของ พล.ต.ท.ปัญญา ซึ่งมาอยู่คอยดูแลแม่มาตลอดทั้งคืน ได้ยื่นเงินสดเป็นหลักทรัพย์จำนวน 500,000 บาท ขอประกันตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัวเนื่องจาก มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และไม่พบว่าจะมี พฤติกรรมการหลบหนี และจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานพร้อมกับยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา จึงเข้าหลักเกณฑ์ที่จะให้ประกันตัว

เผยสาเหตุนางพรประภา ยิง พล.ต.ท.ปัญญา เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่าเป็นเพราะปัญหาความเครียดภายในครอบครัวที่สะสมมาเป็นเวลานาน แต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ตำรวจได้มีการตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน และ เก็บหลักฐาน จากตัวผู้ก่อเหตุไว้เรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดีต่อไป

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...