โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อินเดียบอกจีนถอนทหารจากพื้นที่พิพาทเพื่อสัมพันธ์ดีขึ้น

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 17 ก.ย 2564 เวลา 08.58 น. • เผยแพร่ 17 ก.ย 2564 เวลา 08.58 น. • สำนักข่าวไทย อสมท

นิวเดลี 17 ก.ย. - อินเดียกล่าวกับจีนว่า ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศจะพัฒนาได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายถอนกำลังทหารออกจากการปะทะกันที่ชายแดนเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างอินเดียกับจีน

นายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินเดีย ระบุผ่านทวิตเตอร์ถึงโอกาสฟื้นความสัมพันธ์ของอินเดียกับจีน เมื่อเขาได้พบกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีนที่งานประชุมระดับภูมิภาคในกรุงดูชานเบของทาจิกิสถานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาได้หารือกับนายหวังเกี่ยวกับการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ชายแดน และเน้นย้ำว่าขั้นตอนดังกล่าวมีความสำคัญต่อการฟื้นฟูสันติภาพและความสงบ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี ทั้งยังระบุว่า เขาได้หารือกับนายหวังในหลายประเด็นที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ไม่เผยรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่นายหวังกล่าวว่า จีนจัดการปัญหาพรมแดนระหว่างจีนกับอินเดียอย่างเหมาะสมและมีทัศนคติที่ดีเสมอมา ทั้งสองประเทศควรร่วมมือกันเพื่อรักษาสันติภาพและความสงบในพื้นที่ชายแดน รวมถึงยุติเหตุการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก

ก่อนหน้านี้ กองกำลังทหารของอินเดียและจีนหลายพันนายได้ประจำการในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลานานหลังเกิดเหตุปะทะในเทือกเขาหิมาลัยตะวันตกตั้งแต่ปีก่อนจากกรณีข้อพิพาทพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายสิบปี สถานการณ์ตึงเครียดที่ปะทุขึ้นทำให้กองทหารของทั้งสองฝ่ายเปิดฉากต่อสู้กันในระยะประชิดเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ทำให้ทหารของอินเดียและจีนเสียชีวิตหลายนาย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...